มาตรการเพิ่มขนาดฉลากรูปภาพข้อความคำเตือน 85% บนซองบุหรี่ ทำให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ซิกาแรตมากขึ้น และสามารถลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น กรณีบริษัทบุหรี่ฟ้องกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ศาลปกครองเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดรูปภาพข้อความคำเตือนนี้ จึงถูกศาลปกครองยกฟ้อง
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีบริษัทบุหรี่ฟ้องกระทรวงสาธารณสุข ขอให้ศาลปกครองเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดรูปภาพข้อความคำเตือนขนาดพื้นที่ 85% บนซองบุหรี่ ว่า เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกฟ้องคดี เนื่องจากศาลเห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการควบคุมและกำกับดูแลเกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน รวมทั้งการออกประกาศดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ดังนั้นการที่กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศจึงชอบด้วยกฎหมาย และสอดคล้องกับกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO-FCTC) ที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคี
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า ศาลปกครองกลางยังได้ชี้ให้เห็นว่า มาตรการเพิ่มขนาดฉลากรูปภาพข้อความคำเตือนฯ ดังกล่าว จะทำให้ประชาชนตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ซิกาแรตมากขึ้น และสามารถลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ อันเป็นมาตรการที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนโดยส่วนรวมมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองสุขภาพของประชาชน อีกทั้งการเพิ่มขนาดพื้นที่จากเดิม 55% เป็น 85% จะสามารถกระตุ้นความรู้สึกและความต้องการที่จะเลิกสูบบุหรี่ได้ เป็นช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสำหรับประชาชนที่มีข้อจำกัดด้านการอ่าน รวมถึงเด็กและเยาวชน ถือเป็นมาตรการที่พอสมควรแก่เหตุ ประกาศดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง
ทั้งนี้ จากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแสดงรูปภาพ ข้อความคำเตือนเกี่ยวกับพิษภัยและช่องทางติดต่อเพื่อการเลิกยาสูบ พ.ศ. 2556 ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2535 เพื่อกำหนดให้ผู้ผลิต และผู้นำเข้าบุหรี่ซิกาแรตทุกราย ต้องพิมพ์ฉลากรูปภาพ และข้อความคำเตือนถึงพิษภัยของบุหรี่ซิกาแรตขนาดไม่น้อยกว่า 85% บนซองบุหรี่ ซึ่งเป็นการเพิ่มขนาดของฉลากรูปภาพคำเตือนฯ จากเดิมที่กำหนดไว้ 55% จึงเป็นเหตุให้บริษัทบุหรี่ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอเพิกถอนประกาศฉบับดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556