ทีเอ็มบีเดินหน้าต่อเนื่องเพื่อสร้างคุณค่าเพื่อลูกค้านักออมและนักลงทุนให้ลูกค้าได้มากกว่า (Get MORE) ผ่านบริการ TMB Advisory ด้วยแนวคิด TMB Open Architectureหลังปิดดีลความตกลงเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรกับอีสท์สปริง อินเวสท์เม้นทส์ ใน บลจ ทหารไทย
ทีเอ็มบี, พรูเด็นเชี่ยล, อีสท์สปริง อินเวสท์เม้นทส์ และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศความสำเร็จของความตกลงร่วมเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรทางธุรกิจในวันนี้ โดยที่อีสท์ปริง อินเวสท์เม้นทส์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการกองทุนรวมในระดับโลก ในเครือพรูเด็นเชี่ยล ได้เข้าถือหุ้น 65% ใน บลจ ทหารไทย ซึ่งแต่เดิมทีเอ็มบีเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียว
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง และ ประธานกรรมการ ทีเอ็มบี กล่าวว่า ธุรกิจกองทุนรวมในประเทศไทยมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยมีอัตราการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการถึงร้อยละ 8.32 ระหว่างปี 2559 – 2560 โดยธุรกิจกองทุนรวมถือได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการเงินหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งตลอดระเวลาที่ผ่านมา กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสมาคมบริษัทจัดการกองทุน ได้ทำงานร่วมกัน เพื่อให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีและเกิดการพัฒนาธุรกิจกองทุนรวมอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ของนักลงทุนและระบบเศรษฐกิจโดยรวม
“การร่วมมือเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรครั้งสำคัญนี้ นับว่าเป็นประโยชน์กับระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม และการร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการนำเอาความเชี่ยวชาญระดับโลกจากธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรที่มีความสามารถและประสบการณ์ที่หลากหลายเข้ามาช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความเจริญก้าวหน้าให้กับธุรกิจกองทุนรวมในประเทศไทย และยกระดับการให้บริการของ บลจ ทหารไทย เพื่อสร้างคุณค่าเพิ่มขึ้นสำหรับลูกค้า ด้วยการส่งมอบโอกาสในการเข้าถึงบริการกองทุนรวมระดับโลกโดยอีสท์สปริง อินเวสท์เม้นทส์” นายประสงค์กล่าว
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า ความตกลงดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายของทีเอ็มบีในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้ออมเงินและลงทุน โดยลูกค้าของ บลจ ทหารไทย และ ทีเอ็มบี คือผู้ที่จะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงจากความตกลงเป็นหุ้นส่วนใน บลจ ทหารไทย และเป็นพันธมิตรกับทีเอ็มบีครั้งนี้ ทั้งนี้ ตลาดกองทุนรวมในประเทศไทยได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและนับได้ว่ามีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มอาเซี่ยน โดยในปัจจุบันธุรกิจกองทุนรวมของไทยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการรวมกว่า 5 ล้านล้านบาท และในจำนวนนี้ ประมาณ 1 ล้านล้านบาท เป็นการลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างมาก โดยเป็นผลเนื่องมาจากภาวะสังคมผู้สูงอายุที่ต้องการเงินออมในการใช้จ่ายหลังเกษียณอายุมากยิ่งขึ้น และจากการแสวงหาผลตอบแทนการลงทุนที่ดียิ่งขึ้นจากผลิตภัณฑ์และพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งกว่าในอดีต
“การเป็นหุ้นส่วนและพันธมิตรกับผู้ที่มีความชำนาญระดับโลกครั้งนี้จะช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ‘ได้มากกว่า’ (Get MORE) ตามเจตนารมณ์ของทีเอ็มบี ในด้านผลิตภัณฑ์และบริการซึ่งมีความแตกต่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสภาวะต่างๆอย่างเหมาะสมตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของลูกค้าและรูปแบบพอร์ตการลงทุนที่ลูกค้าพึงพอใจ และนอกจากนี้ ลูกค้าจะได้รับบริการคำแนะนำและเครื่องมือในการลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกอีกด้วย สำหรับทีเอ็มบี ธนาคารจะสามารถเพิ่มยอดขายและมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น มีพันธมิตรระยะยาวในการให้บริการด้านกองทุนรวม และเอื้อให้ทีเอ็มบีพัฒนาการให้บริการกองทุนรวมภายใต้แนวคิด TMB Open Architecture มากยิ่งขึ้น ส่วนในด้านบลจ ทหารไทย จะได้รับการเสริมศักยภาพโดยถ่ายทอดความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงจากอีสท์สปริง และได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มการลงทุนอย่างครบเครื่องจากทีมงานระดับโลก รวมทั้งสามารถเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนจากการใช้ความเชี่ยวชาญระดับโลกมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และจะสามารถเสริมสร้างศักยภาพด้านการบริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลในระยะยาวต่อไปในอนาคต”
นายรูว์ ไฮซ์แมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลูกค้ารายย่อย ทีเอ็มบี กล่าวว่า นอกจากจะเป็นหุ้นส่วนกันใน บลจ ทหารไทยแล้ว ทีเอ็มบีและอีสท์สปริง อินเวสท์เม้นทส์ จะเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการให้บริการด้านกองทุนรวมของทีเอ็มบี ตามแนวคิด ‘TMB Open Architecture’ โดยทีเอ็มบีจะทุ่มเทกับการคัดสรรกองทุนรวมดีๆ ยี่ห้อดังๆ จากหลายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน มาให้บริการผ่านช่องทางการขายที่เติบโตและมีประสิทธิภาพของธนาคาร รวมทั้งดูแลให้คำแนะนำการลงทุนของลูกค้าในรูปแบบของการจัดพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับระดับการยอมรับความเสี่ยงของลูกค้า ภาวะตลาด และเป้าหมายในการลงทุนที่ลูกค้าต้องการ โดยผ่านบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ‘TMB Advisory’ ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าแนวทางการให้บริการกองทุนรวมของทีเอ็มบีเป็นแนวทางที่ดีและเหมาะสมมากกว่าการขายกองทุนรวมให้ลูกค้าทีละกองทุน เพื่อให้ลูกค้าสามารถบรรลุเป้าหมายในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบที่ต้องการ”
