ในวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันเบาหวานโลก ซึ่งเป็นโรคอันดับต้นๆ ที่คร่าชีวิตผู้คน ในวันนี้จึงถือเป็นโอกาสในการรณรงค์หลักสร้างความตื่นรู้ในระดับโลกถึงโรคเบาหวาน ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรและสถาบันต่างๆ ให้ความตื่นตัวในการร่วมรณรงค์ป้องกันและให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานในหลายมิติ
นายมิไฮ อีริเมสซู รองประธานและผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านการดูแลผู้ป่วยโรคเบาหวานในประเทศไทย กล่าวว่า เรายืนหยัดและให้ความสำคัญในการเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพผู้ป่วยเบาหวานไทย โดยเราได้ริเริ่ม, สนับสนุน และส่งเสริมโครงการต่างๆ เพื่อมุ่งเน้นเรื่องภาระของโรคเบาหวานให้กับผู้ป่วยและสังคม วันเบาหวานโลกเมื่อปีที่แล้ว “World diabetes day (WDD) 2017” บริษัทโนโว นอร์ดิสค์ฯ ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก และสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ได้เปิดตัวหนังสือ Blueprint for Change – สถานการณ์ปัจจุบันและความร่วมมือเพื่อปฏิรูปการดูแลรักษาโรคเบาหวานในประเทศไทย ซึ่งรายงานดังกล่าวเป็นการรวบรวมอุบัติการณ์และผลกระทบต่าง ๆ ของโรคเบาหวานในประเทศไทย รวมถึงประเด็นค่าใช้จ่ายที่สูงสำหรับการรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคเบาหวาน และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable development goals: SDG) เนื่องในวันเบาหวานโลกในปีนี้ บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมเพื่อการบรรลุเป้าหมาย SDG เช่นเดิม
โดยจัดพิมพ์หนังสือ Blueprint for Change – Hypoglycemia – a 24-hour concern ซึ่งมุ่งเน้นเฉพาะเรื่องภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และเป็นภาวะที่สำคัญที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานเกือบครึ่งหนึ่งกำลังเผชิญอยู่ ทั้งนี้ยังกล่าวถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทั้งตัวผู้ป่วยเอง และรวมถึงสมาชิกในครอบครัวและบุคคลทั่วไปอีกด้วย ทางบริษัทฯ รู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ส่งมอบหนังสือเล่มนี้เนื่องในวันเบาหวานโลกเป็นที่แรก
ภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้ป่วยเบาหวานในหลายด้านทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อการทำงาน การนอนหลับ และการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ผู้ป่วยอาจมีประสิทธิภาพในการเรียนหรือการทำงานลดลง ผู้ป่วยเด็กบางรายอาจต้องขาดเรียน และสมาชิกในครอบครัวมักจะวิตกกังวลถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับตัวผู้ป่วย
ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 รายหนึ่งในประเทศเดนมาร์ก ได้เล่าว่า ครั้งหนึ่งเมื่อเธอมีอาการภาวะน้ำตาลต่ำในเลือด ตอนนั้นรู้สึกเหมือนจะเป็นลม และเธอลังเลที่จะตัดสินใจว่าจะโทรเรียกรถพยาบาลดีหรือไม่ หรือเธอควรจะรอก่อนดี เพราะเธอไม่แน่ใจว่า หากเธอตัดสินใจที่จะเรียกรถพยาบาล รถจะมาหรือไม่ หรือเธอจะหมดสติไปก่อน สำหรับเธอแล้ว ภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดไม่ใช่เพียงแค่การมีระดับน้ำตาลในเลือดน้อย แต่มันอันตรายและน่ากลัวกว่านั้นมาก นอกจากนี้ ภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดไม่ได้มีผลกระทบเฉพาะเพียงตัวผู้ป่วย หรือสมาชิกในครอบครัวเท่านั้น หากยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ในประเทศไทย พบว่าค่าใช้ในการจ่ายในการรักษาภาวะน้ำตาลต่ำในเลือดชนิดรุนแรงสูงถึง 10,000 – 28,000 บาทต่ออุบัติการณ์หนึ่งครั้ง
บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ มีความตั้งใจที่จะสร้างความตระหนักเรื่องภาวะน้ำตาลต่ำในเลือด ซึ่งเกิดในผู้ป่วยเบาหวานในประเทศไทย และขอนำเสนอวิธีการจัดการเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะดังกล่าว ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้ป่วยเบาหวานไทยจะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ตามเป้าหมาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
