“บิ๊กอู๋” ตั้งเป้าเอกชนจ้างงานผู้สูงอายุ 1 แสนคนในปี 62  

13

รมว.แรงงาน เผย ภาคเอกชนขานรับนโยบายรัฐบาลส่งเสริมการมีงานทำของผู้สูงอายุ ตั้งเป้าปี 62 ส่งเสริมการมีงานทำแรงงานสูงอายุ 100,000 คน แบ่งเป็น แรงงานผู้สูงอายุในระบบ 20,000 คน แรงงานผู้สูงอายุนอกระบบ 80,000 คน

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมส่งเสริมการมีงานให้ผู้สูงอายุ โดยมี นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงานพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน สำหรับการประชุมในวันนี้ มีวาระสำคัญในหลายประเด็น โดยที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ประชากรสูงอายุไทย มาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุของรัฐบาล การขับเคลื่อนการส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุของกระทรวงแรงงาน อัตราค่าจ้างและประเภทงานสำหรับแรงงานผู้สูงอายุ มาตรการจูงใจในการส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ ข้อมูลและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานผู้สูงอายุ และที่ประชุมยังได้ร่วมกันพิจารณาหารือแนวทางขับเคลื่อนการส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวว่า ในปี 2562 กระทรวงแรงงานมีเป้าหมายขับเคลื่อนการส่งเสริมการมีงานทำและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ จำนวน 100,000 คน ประกอบด้วย ผู้สูงอายุในระบบ 20,000 คน แบ่งเป็นลูกจ้างเอกชน 15,000 คน ลูกจ้างของรัฐและรัฐวิสาหกิจ 5,000 คน และผู้สูงอายุนอกระบบ 80,000 คน ประกอบด้วย ส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระ 70,000 คน ส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน 10,000 คน โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจะมีหน้าที่ในการกำหนดอัตราค่าจ้างรายชั่วโมง ส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุในอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและประสบการณ์ การประกอบอาชีพอิสระ และเป็นศูนย์บริการจัดหางานผู้สูงอายุ ส่งเสริมและพัฒนาฝีมือแรงงานและศักยภาพของผู้สูงอายุเพื่อให้มีทักษะที่เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ให้ความรู้ด้านสวัสดิการเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่วัยเกษียณ และปรับระบบประกันสังคมให้สอดคล้องกับการจ้างงานผู้สูงอายุและออกหน่วยเคลื่อนที่ด้านสุขภาพ

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการพิจารณากำหนดอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมสำหรับการจ้างงานผู้สูงอายุ ซึ่งได้กำหนดช่วงอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สำหรับการจ้างงานลูกจ้างผู้สูงอายุ ในประเภทงานเสมียนพนักงาน การค้า งานบริการ ซึ่งเป็นงานที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างผู้สูงอายุ ในอัตราค่าจ้างไม่ต่ำกว่า 45 บาทต่อชั่วโมง โดยมีระยะเวลาในการทำงานไม่เกิน 7 ชั่วโมงต่อวัน

ที่ประชุมยังได้รับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการส่งเสริมการจ้างงานของแต่ละพื้นที่ สถานประกอบการ ชุมชนท้อวถิ่น โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการจูงใจเพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนจ้างแรงงานผู้สูงอายุเข้าทำงานมากขึ้น โดยกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีสิทธินำรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างงานผู้สูงอายุ มายกเว้นภาษีเงินได้ โดยสามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า ในการจ้างผู้สูงอายุเข้าทำงานในสถานประกอบการ ทั้งนี้ รายจ่ายที่จะได้รับการยกเว้นภาษี ต้องเกิดจากรายจ่ายที่จ่ายเป็นค่าจ้างให้แก่ผู้สูงอายุไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท