FTE เผยไตรมาสแรกโกยงานเข้าพอร์ตมูลค่ารวมกว่า 130 ล้านบาท

12

FTE เผยไตรมาสแรกโกยงานเข้าพอร์ตมูลค่ารวมกว่า 130 ล้านบาท หนุน Backlog 420 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้ม Q2/62 เดินหน้าเสนองานต่อเนื่อง เน้นเจาะกลุ่มภาคอุตสาหกรรม มั่นใจปี 62 รายได้เติบโต 10% แตะ 1,130 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิ 12-13% ด้านผลประกอบการปี 61 กวาดรายได้ 1,028.96 ล้านบาท กำไร 130.21 ล้านบาท เตรียมปันผลเพิ่ม 0.11 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 26 เม.ย.62

นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่าย บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบอุปกรณ์-ระบบดับเพลิง ครบวงจร เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้บริษัทเข้ารับงาน งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงมูลค่ารวมกว่า 130 ล้านบาท โดยรับงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) 1-2 โครงการ มูลค่า 30 ล้านบาท งานรับเหมาจากโครงการทั่วไปมูลค่ารวม 100 ล้านบาท ส่งผลให้ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 420 ล้านบาท แบ่งเป็นงานจัดจำหน่าย 100 ล้านบาท งานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 320 ล้านบาท

“สำหรับแนวโน้มการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2/62 บริษัทยังคงเดินหน้าเสนองานอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นที่จะขยายส่วนแบ่งการตลาดจากกลุ่มลูกค้ารายสำคัญ และเจาะกลุ่มลูกค้าภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น เนื่องจากมีแนวโน้มอัตราการเติบโตสูง จากการขยายตัวตามนโยบายการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี อีกทั้งข้อกำหนดด้านกฏหมายที่มีความจำเป็นต้องติดตั้งระบบดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน ซึ่งฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าว สามารถรับรู้รายได้ภายใน 6 เดือน นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากความล่าช้าโครงการภาครัฐ หรือโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า จากแผนการดำเนินงานจะสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายไม่ต่ำกว่า 10% แตะ 1,130 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรสุทธิ 12-13%” นายทักษิณ กล่าว

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 301.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน ปีก่อนที่มีรายได้รวม 254.19 ล้านบาท จำนวน 47.28 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 18.60% และมีกำไรสุทธิ 41.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 36.09 ล้านบาท จำนวน 5.09 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.10%

ส่วนผลประกอบการปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 1,028.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 986.75 ล้านบาท จำนวน 42.21 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.28% และมีกำไรสุทธิ 130.21 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 130.65 ล้านบาท จำนวน 0.44 ล้านบาท หรือลดลง 0.34%

นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 จ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือหุ้นอีก 0.11 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 66.00 ล้านบาท จากที่ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น หรือจำนวน 54.00 ล้านบาท รวมเป็นการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2561 ให้แก่ผู้ถือจำนวน 120.00 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 96.99% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยจะทำการกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date) ในวันที่ 11 เม.ย.62 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 26 เม.ย.62 (ขออนุมัติจากประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 28 มี.ค. 2562)