องค์กรสตรี จี้พม. ส่งทีมสหวิชาชีพ เยียวยานร.หญิง ถูกแก๊งงานบวชวัดสิงห์ลวนลาม เชื่อยังมีอีกหลายรายถูกกระทำ ด้านนักกฎหมายเด็กเยาวชน เตรียมส่งทีมงานลงช่วยเหลือ
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเมาที่ทำร้ายครู นักเรียน และคุกคามทางเพศเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดสิงห์ ว่า การทำร้ายครู และนักเรียน จนมีการคุกคามนักเรียนหญิงด้วยนั้น ซึ่งจากการให้สัมภาษณ์เด็กหญิง น่าจะมีการถูกคุกคามอีกหลายคน ส่วนการที่ญาติของผู้กระทำ อ้างว่าไม่ได้ทำ เพราะเขามีครอบครัวแล้ว แต่จากข้อมูลที่มูลนิธิเคยรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่โทรศัพท์มาขอรับคำปรึกษา คนที่กระทำส่วนใหญ่ที่มีครอบครัวแล้วไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำ เพราะข่าวข่มขืนลูกแท้ๆยังมีให้เห็น ที่สำคัญเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการคุกคามทางเพศกว่า 40% จึงอยากเรียกร้องไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) โดยเฉพาะกรมกิจการเด็กและเยาวชน ควรส่งทีมสหวิชาชีพมาให้คำปรึกษา และเยียวยาจิตใจเด็กที่ถูกคุกคาม และหาข้อมูลกับเด็กที่ถูกคุกคามเพิ่มเติม เนื่องจากน่าจะมีเด็กอีกหลายคนที่ถูกคุกคาม รวมถึงให้กำลังใจ เยียวยาเด็ก และเรื่องนี้ต้องทำอย่างเร่งด่วน เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ กับผู้กระทำ
“สังคมควรเริ่มมองแล้วว่าถ้าจะแก้ปัญหาในระยะยาว ต้องแก้ปัญหาเรื่องความคิดแบบชายเป็นใหญ่ เริ่มตั้งแต่การบ่มเพาะในครอบครัวไม่ให้ลูกผู้ชายไปทำร้ายคนอื่น เพศอื่น ทำงานบ้านเป็น ให้เกียรติเพศอื่น มีหลักสูตรความเท่าเทียมทางเพศในโรงเรียนทุกระดับ ปฎิรูปสื่อไม่ควรมีฉากความรุนแรงต่อผู้หญิง แน่นอนกลุ่มที่ทำผิดต้องลงโทษไปตามกฎหมาย แต่การปรับทัศนคติแบบชายเป็นใหญ่ เคารพในสิทธิร่างกายผู้อื่นก็ต้องรีบทำด้วย” นายจะเด็จ กล่าว
นายจะเด็จ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากประสบการณ์การทำงานกับผู้ชายที่เคยดื่มเหล้า และได้ทำกลุ่มศึกษา และแลกเปลี่ยนกับกลุ่มผู้ชายที่เคยดื่มเหล้านั้น เหตุผลที่นำไปสู่ความรุนแรง และการรวมกลุ่มเพื่อนผู้ชายด้วยกัน เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ที่มีประมาณ 9-10 คนขึ้นไป และต้องมีเหล้ามาเป็นองค์ประกอบ เพราะว่าในสังคมชายเป็นใหญ่ ที่ผู้ชายต้องการรวมกลุ่ม ในสังคมเพื่อนผู้ชาย ที่ถูกปลูกฝังจากครอบครัว และสังคม สื่อต่างๆ ว่าผู้ชายต้องมีศักดิ์ศรี ที่เหนือกว่าเพศอื่น ต้องเข็มแข็ง จะอ่อนแอ หรือถูกดูถูกไม่ได้ และต้องเป็นผู้นำ ถ้ามีครอบครัวแล้ว ต้องเป็นใหญ่ในครอบครัว เวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนถ้าเมียมาตามไม่ให้ไปกินเหล้าก็จะเหมือนถูกทำลายศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ว่ากลัวเมีย เมื่อกลับไปบ้านก็จะต่อว่าเมียและบ้างคนก็ทำร้าย
“เหล้าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่เวลาผู้ชายอยู่ในกลุ่มเพื่อน ต่างต้องการแสดงออกถึงความเป็นชาย กินเหล้าแล้วดูเป็นชายเข็มแข็ง มีอำนาจ นั่งไม่ติดออกเที่ยวต่อ หรือบ้างรายไปคุกคามทางเพศทำร้ายผู้หญิง หรือทะเลาะวิวาทตามมา นี้จึงเป็นการเก็บข้อมูลของการทำงาน และประสบการณ์การทำงานจากผู้ที่เคยดื่มเหล้า และใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง และเคยทะเลาะวิวาท ดังนั้นพฤติกรรมที่เกิดขึ้น มาจากโครงสร้างทางสังคมที่ปลูกฝังผู้ชาย ให้เป็นใหญ่ อีกทั้ง บริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โหมโฆษณาส่งเสริมการขายเรียกลูกค้าที่เป็นกลุ่มผู้ชายให้ไปดื่มทุกวี่ทุกวัน ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นจากการดื่มเพื่อความเป็นชาย ความสนุก สังคมเพื่อนผู้ชาย ทำให้เกิดปัญหาลุกลามบานปลายตามมา
นายเตชาติ์ มีชัย ผู้ประสานงานเครือข่ายนักกฎหมายเพื่อเด็กและเยาวชน กล่าวว่า กรณีที่มีบางคนคุกคามนักเรียนหญิง หอมแก้ม อันเป็นการกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ผู้ใดกระทําอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กําลัง ประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทําให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้อง ระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ การออกมาให้ข้อมูลของบรรดาญาติ คนใกล้ชิดผู้ก่อเหตุเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วข้อมูลข้อเท็จจริงจากปากคำของผู้เสียหาย พยานแวดล้อม หลักฐานประกอบต่างๆจะเป็นตัวชี้ขาด กรณีการถามหากล้องวงจรปิด แม้ว่าอาจจะไม่ปรากฏภาพในกล้องวงจรปิดก็มิได้หมายความว่าเขาจะไม่ก่อเหตุ เพราะศักยภาพของกล้องวงจรปิดไม่สามารถเก็บภาพได้ทุกมุม100% เหตุการณ์อาจเกิดขึ้นในมุมอับที่กล้องเก็บภาพไม่ถึงก็เป็นได้ นายเตชาติ์ กล่าว
“ตอนนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ กระทรวง พม. ต้องรีบเข้าไปเยียวยาความรู้สึกผู้เสียหายและครอบครัว เร่งสร้างความมั่นใจในการพิสูจน์ความจริงให้ปรากฏเพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฏหมายกับการคุกคามทางเพศ ซึ่งไม่ควรมองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ควรวางระบบมีการจัดการที่เป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งในเรื่องนี้ทางเครือข่ายและมูลนิหญิงชายก้าวไกลพร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่” นายเตชาติ์ กล่าว