ดูแลตัวเองอย่างไร เมื่อเป็น “กรดไหลย้อน”

18

“กรดไหลย้อน” เป็นโรคยอดฮิตตามติดชีวิตคนเมืองไปแล้วในปัจจุบัน ด้วยสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้อง จึงเป็น สาเหตุให้กระเพาะทำงานหนัก หลั่งกรดออกมาย่อยมากกว่าเดิม กรดที่เกินอาจจะไหลย้อนกลับขึ้นมาระคายเคืองที่หลอดอาหาร กลายเป็นอาการกรดไหลย้อน ที่ทำให้เราเกิดอาการแสบร้อนได้

หากจะอธิบายให้ละเอียดขึ้น โรคกรดไหลย้อน คือ โรคที่เกิดจากการไหลย้อนกลับของกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะ พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ เกิดขึ้นได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน หรือแม้แต่ตอนที่ไม่ได้รับประทานอาหาร

อาการของกรดไหลย้อน

รู้สึกแสบร้อนบริเวณกระเพาะไล่มาถึงลำคอ เนื่องจากกรดไหลย้อนขึ้นจากกระเพาะสู่หลอดอาหาร

พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้กรดไหลย้อน

การทานอาหารตอนดึก ทานแล้วนอนเลย ทานไม่เป็นเวลา ทานเยอะหรือเร็วเกินไป และการไม่ทานผักผลไม้ ล้วนทำให้กระเพาะหลั่งกรดออกมามากกว่าปกติ และหลั่งไม่เป็นเวลา ส่งผลให้หูรูดกระเพาะเสื่อม ควบคุมกรดไม่ได้อีกต่อไป

อาหารที่ควรเลี่ยงเมื่อเป็นกรดไหลย้อน

อาหารทอด อาหารมัน อาหารรสจัด ทั้งเผ็ด เค็ม เปรี้ยว  อาหารหมักดอง ผลไม้รสเปรี้ยวจัด เช่นสับปะรด ส้ม มะนาว อาหารที่ทำมาจากถั่ว เนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ เครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน (ชา กาแฟ) น้ำอัดลมที่มีทั้งแก๊สและกาเฟอีน เครื่องดื่มชูกำลัง

อาหารบรรเทากรดไหลย้อน

เครื่องดื่มร้อน เช่น ชาสมุนไพร ชาขิง ชามินต์ ช็อคโกแลตร้อน น้ำเต้าหู้ หรือน้ำมะนาวอุ่น ช่วยขับลม ทำให้สดชื่น ผ่อนคลาย และสบายท้อง เน้นรับประทานทานอาหารย่อยง่ายและมีกากใยสูง เช่น มะละกอ กล้วยหอม หรือแอปเปิ้ล เพื่อช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารให้กลับมาเป็นปกติ และไม่ควรทานอาหารในปริมาณมาก กระเพาะอาหารจะได้ไม่ทำงานหนัก

หลายคนเข้าใจว่าเมื่อกรดไหลย้อนกำเริบ การรับประทานนมจะช่วยเคลือบกระเพาะ แต่แท้จริงแล้ว นมอาจไปเพิ่มปัญหาให้กระเพาะโดยไม่รู้ตัว เพราะลำไส้ของบางคน ไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ย่อยน้ำตาลแลคโตสที่อยู่ในนม จึงมักเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จนถึงท้องเสีย แทรกขึ้นมาจากอาการกรดเกินที่เป็นอยู่ ดังนั้น ควรเลือกนมที่ไม่มีแลคโตสที่หาได้ตามท้องตลาด เพื่อหลีกเลี่ยงอาการดังกล่าว ให้กระเพาะไม่ทำงานหนักกว่าเดิม สามารถเคลือบกระเพาะได้ และอยู่ท้อง

เคล็ดลับง่ายๆ ในการดูแลตัวเองเมื่อกรดไหลย้อนมาเยือน

เมื่อมีอาการ ควรลุกขึ้นนั่งหลังตรงสักพัก เพื่อควบคุมอาการที่กำเริบ ให้กรดที่หลั่งออกมาอยู่ในบริเวณที่เหมาะสม ไม่ระคายเคืองหลอดอาหาร ปรับหมอนหนุนให้สูงขึ้นเล็กน้อยก่อนนอนต่อ เพื่อให้ศีรษะอยู่สูงกว่าลำตัว ป้องการเกิดอาการซ้ำ

เมื่ออยู่ในช่วงที่ทำงานหนัก หรือเร่งรีบ เจียดเวลาไปรับประทานข้าวไม่ได้ ควรมีขนมชิ้นเล็กๆ ติดกระเป๋าไว้ เพื่อรองท้องให้น้ำย่อยไม่กัดกระเพาะ ทางที่ดีควรเป็นขนมปังเพราะโซเดียมต่ำ ไม่ผ่านการทอด ไม่อย่างนั้นแล้ว กระเพาะจะต้องทำงานหนักและหลั่งกรดออกมาย่อยมากกว่าเดิม หรือจะพกกล้วยน้ำว้าไว้ใกล้ๆ ตัว เพราะกล้วยน้ำว้าสามารถแก้ปัญหากรดเกินเฉพาะหน้าได้ แต่มีเคล็ดลับคือ ต้องเลือกลูกที่กำลังเขียว-ห่าม เพราะกล้วยห่ามจะกระตุ้นให้ผนังกระเพาะสร้างเยื่อเมือกเคลือบกระเพาะและแผลในกระเพาะอาหาร แต่ไม่ทำลายระบบธรรมชาติของร่างกาย

อีกวิธีที่ดีคือมียาลดกรด-เคลือบกระเพาะไว้ใกล้ตัว ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการแสบท้อง จุกเสียด ปวดกระเพาะจากกรดเกินได้ทันท่วงที บางสูตรออกฤทธิ์เร็วเพียง 5 นาทีก็บรรเทาอาการได้แล้ว โดยหาซื้อได้ตามร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อทั่วไป เพียงเท่านี้ ก็สามารถบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้แล้ว

ขอบคุณสาระน่ารู้ จากทีมเภสัชกร บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์คุณภาพชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ