กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งแจกถุงยางอนามัย โดยส่งทางไปรษณีย์ให้ประชาชนและคิดค่าส่ง เผยประชาชนสามารถขอรับถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นได้ฟรีที่หน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ไม่มีการส่งตรงให้กับประชาชนและคิดค่าส่งแต่อย่างใด
นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งอ้างชื่อกรมควบคุมโรคโพสต์แจกถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น โดยส่งทางไปรษณีย์ให้ประชาชนและคิดค่าส่ง นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า กรมควบคุมโรค ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการแจกจ่ายของผู้ใช้เฟสบุ๊ครายดังกล่าว
กรมควบคุมโรค โดยสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จัดซื้อถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น ส่วนในการกระจายโดยวิธีจัดส่งตรงถึงพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และโรงพยาบาลรัฐ มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ มีระบบการติดตาม และมีนโยบายที่ชัดเจน คือ “ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นของกรมควบคุมโรค แจกฟรี ห้ามนำไป ซื้อ-ขาย ไม่มีนโยบายจัดส่งให้แก่ประชาชนโดยตรงและคิดค่าส่ง แต่สามารถขอรับถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นได้ฟรี ที่หน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ” กรมควบคุมโรค จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อผู้ที่แอบอ้างชื่อกรมควบคุมโรค แจกถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นฟรีและคิดค่าส่ง ที่ประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ
นายแพทย์ปรีชา กล่าวต่อไปว่า ถุงยางอนามัยนอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ ท้องไม่พร้อมแล้ว ยังป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กรมควบคุมโรค จึงขอเตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นว่า “คิดจะรัก ต้องรู้จักรับผิดชอบ” โดยขอให้ป้องกันตนเองและคู่ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อดังกล่าว รวมถึงตระหนักในการใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกติในการดูแลสุขภาพทางเพศ รับผิดชอบต่อตนเองและคู่ ซึ่งประชาชนสามารถขอรับถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นได้ฟรีที่หน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน
นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ฟรีปีละ 2 ครั้ง ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยแสดงบัตรประชาชนที่มีเลข 13 หลัก สำหรับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รับบริการปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีได้โดยไม่ต้องขอคำยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อจะได้รู้สถานะการติดเชื้อของตนเอง หากรู้ว่าติดเชื้อจะได้เข้ารับการรักษาทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนปรึกษาเอดส์ โทร.1663 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422