ระวัง! เว็บไซต์ปลอม ลวงให้ร่วมทำธุรกิจ

17

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พร้อม ฟัน! มิจฉาชีพทำเว็บไซต์ปลอม ทำทีเป็นเว็บไซต์กรมฯ หลอกลวงประชาชนและธุรกิจไทย/ต่างชาติให้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลที่สมมติเลขนิติบุคคลขึ้นมา หวังผลทางธุรกิจให้ร่วมทุนหากเหยื่อหลงเชื่อ ขณะนี้เร่งดำเนินการหาตัวคนทำผิด และจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด   

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการติดตามและตรวจสอบด้านความปลอดภัยในการให้บริการข้อมูลนิติบุคคลแก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นข้อมูลผ่านทางระบบออนไลน์ของกรมฯ โดยเป็นมาตรการที่เคร่งครัดด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยีที่กรมฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง พบว่า ขณะนี้มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้ปลอมแปลงเว็บไซต์ โดยใช้ชื่อโดเมนเนมว่า http:///dbd-go-thdbdwebthaii.com ซึ่งมีลักษณะรูปแบบคล้ายกับเว็บไซต์หลักของกรมฯ หน้าภาษาอังกฤษ และมีช่องทางให้ผู้ที่เข้าไปในเว็บไซต์ปลอมข้างต้นสามารถกรอกข้อมูลเพื่อเข้าไปตรวจสอบเลขนิติบุคคล ซึ่งเลขดังกล่าวเป็นนิติบุคคลที่ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นจริงกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงเป็นที่ชัดเจนว่าการกระทำนี้ มีเจตนาเพื่อหลอกลวงให้ผู้ที่เข้าไปใช้เว็บไซต์ปลอมเชื่อว่าเลขนิติบุคคลที่ได้สมมุติขึ้น มีการจดทะเบียนจัดตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และอาจทำให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ติดต่อกับผู้ทำเว็บไซต์ปลอมนี้ถูกล่อลวงและหลงเชื่อให้ร่วมดำเนินธุรกิจ จนกระทั่งเกิดความเสียหายตามมา

“ขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำลังตรวจสอบเชิงลึกถึงที่มาและผู้ดำเนินการก่อตั้งเว็บไซต์ดังกล่าว ประกอบกับประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านกฎหมายและการปราบปรามผู้กระทำผิดทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ก่อนจะส่งผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบธุรกิจทั้งชาวไทยและต่างชาติ จนถึงขั้นเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย”

“โอกาสนี้กรมฯ จึงขอเตือนไปยังผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนให้ดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบการมีตัวตนของธุรกิจที่แน่ชัด โดยสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ผ่าน 2 ช่องทางคือ 1) Moblie Application: DBD e-Service และ 2) เว็บไซต์กรมฯ www.dbd.go.th เท่านั้น (ค้นหาได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) เลือกหัวข้อบริการออนไลน์ จากนั้นเลือก บริการข้อมูลธุรกิจ และ DBD Data Warehouse ไม่เสียค่าบริการใดๆ และใช้งานระบบได้ตลอด 24 ชั่วโมง  สำหรับผู้ประกอบธุรกิจชาวไทยที่กำลังติดต่อหรือจะร่วมลงทุนกับนักลงทุนชาวต่างชาติ นอกจากจะใช้หนังสือรับรองนิติบุคคลที่ออกจากกรมฯ เป็นเอกสารให้คู่ค้าพิจารณาเพื่อเป็นเครื่องยืนยันความมีตัวตนแล้ว กรมฯ มีข้อแนะนำเพิ่มเติมว่า ท่านสามารถให้ข้อมูลแก่นักธุรกิจชาวต่างชาติว่าสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงผ่านระบบ DBD Data Warehouse ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลไทยได้อีกช่องทางด้วย เพื่อเป็นการตรวจสอบข้อมูลแบบเชิงลึกสร้างความมั่นใจและตอกย้ำความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจอีกขั้น” อธิบดี กล่าวในท้ายที่สุด