เกือบ 30 ปี หลังการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของของการต่อต้านทุนนิยม หรือ แนวป้องกันการต่อต้านฟาสซิตส์ ในยุคสงครามเย็น ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหยุดยั้งไม่ให้คนเยอรมันตะวันออก อพยบไปเยอรมันตะวันตก ในช่วงปีพ.ศ. 2504 ก่อนถูกทลายในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532
สำหรับในเยอรมนีตะวันออก กำแพงเบอร์ลิน คือ แนวเขตแดนที่มั่นคง และสัญลักษณ์ของการต่อต้านทุนนิยม แต่สำหรับโลกเสรีแล้ว มันคือ สัญลักษณ์ของความขัดแย้งระหว่างระบบทุนนิยมของยุโรปตะวันตก ภายใต้การนำของสหรัฐอเมริกา กับระบบคอมมิวนิสต์ของยุโรปตะวันออก ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต
หลังการเกิดขึ้นของกำแพงเบอร์ลิน กรุงเบอร์ลินฝั่งตะวันตก กลายเป็นเสมือน หน้าต่างสู่เสรีภาพ การข้ามผ่านแดนจากเยอรมนีตะวันออก ไปยังเยอรมนีตะวันตก กลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากมีการฝ่าฝืนและถูกพบเห็น มีโทษสถานเดียว คือ การยิงทิ้ง ณ บริเวณกำแพงนั่นเอง ตลอดระยะเวลา 28 ปี คาดว่ามีผู้เสียชีวิตที่กำแพงเบอร์ลินขณะหลบหนีระหว่าง 137 ถึง 206 คน
แนวกำแพงเบอร์ลิน ที่ยังหลงเหลืออยู่ ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
ที่รู้จักกันในชื่อ อีสต์ไซด์แกลเลอรี (East Side Gallery) เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1990 หลังการล่มสลายของกำแพงศิลปินเพียง 3 เดือน โดยศิลปิน 118 คนจาก 21 ประเทศ เพื่อเฉลิมฉลองอิสรภาพด้วยงานศิลปะ โดยการวาดลงบนกำแพงฝั่งตะวันออกของกำแพงเบอร์ลิน หวังให้เป็นไปได้ที่มันจะเป็นห้องแสดงภาพกลางแจ้งที่ใหญ่ และคงทนที่สุดในโลก