กลุ่มพลังงาม (The Blissfully Energy) กลุ่มงานเพื่อสังคมและผู้สนใจในศาสตร์การรักษาแบบทางเลือก จะจัดงานสัมมนาการกุศล “The Emotion Code โดยดร. แบรดลีย์ เนลสัน (Dr. Bradley Nelson)” นักบำบัดชาวอเมริกันผู้ค้นพบศาสตร์นี้และเจ้าของหนังสือ The Emotion Code ซึ่งบินตรงจากประเทศสหรัฐอเมริกา มาประเทศไทยและในแถบเอเซียเป็นครั้งแรก เพื่อสอนให้ความรู้แก่ผู้สนใจ ให้ค้นพบและรู้จักพลังแห่งการรักษาโรคด้วยตนเอง ช่วยให้ร่างกายดูแล ควบคุม และจัดการกับพลังงานและอารมณ์ในร่างกาย อันส่งผลโดยตรงให้เกิดโรคทางกายและจิตใจ เพื่อให้เรามีชีวิตที่สุขสมดุล
โดยงานสัมมนาครั้งนี้ จะจัดขึ้นใน ในวันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2562 เวลา 8.30 -18.00 น. ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพ ราคาบัตร 4,550 บาท (รวมอาหารกลางวัน และอาหารว่างเช้า-บ่าย) มีอุปกรณ์แปลภาษาบริการให้เช่า จำกัดที่นั่งเพียง 300 ท่านเท่านั้น! รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด บริจาคให้มูลนิธิรามาธิบดี ทุนโครงการผู้ป่วยมะเร็งในเด็ก และโรงเรียนมาแตร์ เดอี วิทยาลัย เพื่อคุณครูเกษียณ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและจองบัตรได้ที่ LINE : http://nav.cx/4QGXRHx หรือ @theblissfulenergy (มี @ ด้านหน้า)
ข้อมูล The Emotion Code คืออะไร และมีประโยชน์ต่อชีวิตอย่างไร
The Emotion Code คือศาสตร์ในการรักษาโรคทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วยตนเอง ผ่านการถาม-ตอบปัญหาสุขภาพกายและใจ ด้วยการคุยกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง ผ่านเทคนิค muscle testing (การทดสอบกล้ามเนื้อ) เพื่อปลดปล่อยอารมณ์ที่ติดค้าง (Trapped emotion) กำแพงแห่งหัวใจ (Heart-Walls) อารมณ์ที่ติดตัวมาจากบรรพบุรุษ (Inherited Emotions) ภายในเวลาไม่กี่นาที ช่วยให้ร่างกายดูแล ควบคุม และจัดการกับพลังงานและอารมณ์ในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคทางอารมณ์ และโรคทางร่างกาย
ศาสตร์นี้อาจยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศไทย แต่มีแพทย์จำนวนหนึ่งที่สนใจฝึก และใช้ The Emotion Code ทำการบำบัดในสถานบำบัดและโรงพยาบาลบางแห่งในประเทศ และยังมีบุคคลทั่วไปผู้ศึกษาและฝึกฝนศาสตร์นี้ด้วยตนเอง เพื่อบำบัดตนเอง ครอบครัว และช่วยเหลือคนรอบข้าง ให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความเป็นกลาง สุขสงบยิ่งขึ้นทั้งทางร่างกายและจิตใจ
อารมณ์ กับ ความคิด แม้เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง ความคิดที่ดีหรือคิดบวก มีค่าแรงสั่งสะเทือนที่ดี จะส่งผลให้เรามีสุขภาพที่ดี ร่างกายของมนุษย์เป็นดุจสิ่งมหัศจรรย์ เป็นเสมือนหมอที่เก่งที่สุด ร่างกายสามารถที่จะซ่อมแซม รักษาและฟื้นฟูตัวมันเองได้ แต่อารมณ์และความคิดที่เป็นลบ เป็นสาเหตุหลักที่ไปขัดขวางการไหลเวียนของพลังงานในร่างกาย นี่คือต้นเหตุของการเกิดความไม่สมดุลของร่างกาย การเจ็บป่วยตามจุดต่าง ๆ ในร่างกาย การทำงานที่ผิดปกติไปของอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิด “โรคทางอารมณ์” หรือ “โรคทางร่างกาย” เช่น ซึมเศร้า ย้ำคิดย้ำทุกข์ เจ็บป่วย ปวดตามจุดต่าง ๆ ในร่างกาย ไปจนถึงปัญหาเรื่องงาน ปัญหาครอบครัว ปัญหาความสัมพันธ์ อาการเหล่านี้ บางครั้งเราอาจรู้สึกได้อย่างชัดเจน หรือบางครั้งซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา และสะสมมาตั้งแต่วันที่เราเกิด จวบจนขณะปัจจุบัน
ศาสตร์แห่ง The Emotion Code จะช่วยให้เราสามารถดูแล ควบคุม ปลดปล่อย กำจัดอาการและอารมณ์ต่าง ๆทั้งหลายเหล่านั้นให้บรรเทาลง หรือหายไป จิตใจและร่างกายจะรู้สึกสบายขึ้น ผู้ที่ฝึกสติและสมาธิอยู่เป็นประจำ ย่อมรู้ดีว่า มีประโยชน์ที่ดีต่อทั้งสุขภาพและจิตใจ ยิ่งเมื่อมีสติ รู้เท่าทันอารมณ์ และสามารถจัดการกับอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ จะทำให้การใช้ชีวิตบนโลกนี้มีอย่างสุขแท้จริงทั้งทางร่างกายและจิตใจ
The Emotion Code ทำงานอย่างไร
เริ่มแรกของการฝึกฝน คือการเชื่อมโยงตัวของเรา เข้ากับจิตใต้สำนึกของเรา ด้วยการทำ Muscle Testing และขั้นต่อไป คือการฝึกจิตให้นิ่งเพื่อตามดูอารมณ์ ลบอารมณ์ และใส่พลังงานดี เข้าสู่จิตใต้สำนึกของเรา ร่างกายมีพลังงานดี ความเจ็บป่วย อาการเจ็บป่วยทั้งหลายก็จะคลายและบรรเทาไปได้เอง เพราะร่างกายของเราสามารถรักษาตัวเองได้ตามมหัศจรรย์ธรรมชาติ
หากไม่สามารถทำ Muscle Testing ได้ด้วยตนเอง และต้องการรับการบำบัดจากนักบำบัด นักบำบัดจะเชื่อมต่อกับจิตใต้สำนึกของผู้รับการรักษา นักบำบัดจะดำเนินตามขั้นตอนในคู่มือของนักบำบัด และจะถามคำถามต่าง ๆ โดยผู้ตอบตอบอยู่ในใจ ไม่ต้องออกเสียง และนักบำบัดจะลบอารมณ์ของท่านด้วยการใช้แผ่นแม่เหล็ก การใช้แผ่นแม่เหล็กนี้เปรียบเสมือนการลบข้อมูลบนบัตรเครดิต ข้อมูลด้านอารมณ์ในร่างกายจะถูกลบหรือมีการเปลี่ยนแปลง พลังงานลบที่ถูกฝังอยู่ในร่างกายจะถูกจัดการออกไป
การใช้ The Emotion Code จะแตกต่างกับการไปพบจิตแพทย์ เพราะผู้รับการบำบัดจะไม่ต้องเล่า เรื่องใด ๆ ของท่านให้นักบำบัดฟัง เพียงแค่นึกเรื่องนั้นในใจ นักบำบัดก็สามารถช่วยลบอารมณ์เหล่านั้นออกไปจากร่างกายและจิตใจได้ หลังจากรับการบำบัดอารมณ์จะนิ่งขึ้น สงบขึ้น แต่เพื่อให้สภาวะอารมณ์คงที่ เราก็ควรหมั่นฝึกสมาธิเป็นปัจจัยเสริม ให้เรามีสติรู้ตัวเร็วขึ้น รู้เท่าทันอารมณ์ตัวเองได้เร็ว เมื่อรู้แล้วก็จะทำให้เราจัดการกับอารมณ์ต่าง ๆ เหล่านั้นได้อย่างมีสติมากยิ่งขึ้น