สิงห์ เอสเตท “#SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ”

19

สิงห์ เอสเตท เปิดโครงการ “#SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ” เดินหน้าสนับสนุนภาครัฐ พร้อมชวนคนไทยสร้างสำนึกรักทะเลเนื่องในวันทะเลโลก

สิงห์ เอสเตท ร่วมตระหนักถึงความสำคัญของท้องทะเล เปิดโครงการ “#SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ” มุ่งเน้นจิตสำนึกในการรักษา หวงแหน และสร้างสมดุลให้ธรรมชาติ พร้อมเดินหน้าสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐฯ และองค์กรต่างๆ เพื่อต่อยอดงานที่ผ่านมา ล่าสุดจับมือนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย ชวนประกวดภาพถ่ายแห่งท้องทะเลรณรงค์ให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์คุณค่าและความงดงามของทะเล

นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สิงห์ เอสเตท มีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างคุณประโยชน์ให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกกลุ่ม ซึ่งที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ได้ร่วมสนับสนุนโครงการประชารัฐเพื่ออุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ในการป้องกันและฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การร่วมสนับสนุนโครงการพีพี โมเดล ซึ่งเป็นแนวทางที่ใช้จัดการอุทยานฯ โดยอิงตามหลัก IUCN ด้วยการใช้หลักธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาเน้นการคืนสมดุลธรรมชาติ

เริ่มตั้งแต่การบริจาคเรือตรวจการ บริจาคทุ่นลอยเพื่อใช้จอดเรือ รวมไปถึงการสนับสนุนกิ่งปะการังที่ฟื้นฟูด้วยแปลงอนุบาลลอยน้ำให้กับทางอุทยานฯ และในปี 2561 บริษัทฯ ได้สนับสนุนโครงการติดตามและฟื้นฟูปะการังโดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศให้กับอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นที่ปรึกษา ซึ่งจากผลสำรวจปะการังบริเวณเกาะยูงตลอดระยะเวลา 1 ปี ( พ.ค. 61-เม.ย.62) พบว่าปะการังมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงยังได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้ทางทะเล (Marine Discovery Centre : MDC) แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตทางทะเล ณ โรงแรมพีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไป และนักท่องเที่ยวได้เข้าศึกษาเกี่ยวกับระบบนิเวศของเกาะพีพี”

นายนริศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เมื่อเราได้ลงมือทำแล้ว เห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ธรรมชาติเกิดการฟื้นฟูอย่างเห็นได้ชัด สังคม ชุมชน เกิดความตระหนักรู้อย่างจริงจังเราจึงตั้งใจที่จะทำอย่างต่อเนื่อง นโยบายด้านการสนับสนุนหน่วยงานของภาครัฐซึ่งนอกจากเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เรามองเป็นภาพระยะยาวแล้ว เรายังเน้นการสร้างความตระหนักรู้ที่ตัวบุคคลด้วย โดยในวันทะเลโลกปีที่ผ่านมา สิงห์ เอสเตท ได้จัดทำแคมเปญ #SeaYouTomorrow รณรงค์ลดขยะพลาสติก และการคัดแยกขยะที่ถูกต้อง เพื่อลดการสร้างขยะจากเมืองไปสู่ทะเล สร้าง และปลุกจิตสำนึกการแยกขยะที่ถูกต้อง ต่อยอดสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างยั่งยืนในการลด ละ เลิกใช้ถุงพลาสติก แล้วหันมาใช้ถุงผ้า

ล่าสุดในปี 2562 นี้ สิงห์ เอสเตท จึงจัดตั้งโครงการ“#SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ” ซึ่งจะเป็นโครงการหลักในด้านการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ พร้อมเปิดตัวแคมเปญดี ๆ ร่วมกับนิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย จัดโครงการประกวดภาพถ่ายหัวข้อ “ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ” ระหว่างวันที่ 1 มิ.ย. – 25 ก.ค. นี้ เพื่อมุ่งสร้างการตระหนักรู้ในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน

ขวา:นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน), ซ้าย : นายเจรมัย พิทักษ์วงศ์ กรรมการผู้จักการ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน

โดยเรามีเป้าหมายหลัก คือ อยากให้ทุกคนมาร่วมแบ่งปันภาพถ่ายแห่งท้องทะเล เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนร่วมกันอนุรักษ์คุณค่า และความงดงามของท้องทะเล ซึ่งทุกคนสามารถร่วมกิจกรรมนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นช่างภาพอาชีพ ใครก็ร่วมกับเราได้เพียงแค่คุณส่งภาพ พร้อมบรรยายสั้นๆ ถึงแง่คิดหรือวิธีการเพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของทุกคน เพื่อทำให้ทะเลวันพรุ่งนี้ดีกว่าเดิม โดยเราตั้งเป้าว่าจะมีคนส่งภาพเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 10,000 ภาพ และสร้างการรับรู้กับกลุ่มคนรุ่นใหม่มากกว่า 500,000 คน ซึ่งทุกภาพมีสิทธิ์ร่วมลุ้นทริปสุดพิเศษ “Explore the Maldives ครั้งแรกของคนไทยที่จะได้สัมผัสมัลดีฟส์ในมุมมองใหม่ แบบตัวต่อตัวกับช่างภาพสายธรรมชาติแถวหน้าของเมืองไทย โดยสามารถดูรายละเอียดกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ www.seayoutomorrow.org”

ด้าน ดร. ทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนัก สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า “กรมอุทยานฯ มุ่งสร้างจิตสำนึกให้ชุมชนมีความหวงแหนและมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรท้องถิ่น เพื่อเป็นการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมตลอดจนความหลากหลายทางชีวภาพ แต่สิ่งสำคัญคือเรื่องนี้ทางกรมฯ ไม่สามารถทำฝ่ายเดียวได้ ทรัพยากร ธรรมชาติเป็นของพวกเราทุกคน ทุกภาคส่วนจึงควรจะต้องมีส่วนรวม และให้ความร่วมมือในการดูแลรักษา

สิงห์ เอสเตท ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของภาคเอกชน ที่ได้เข้ามาสนับสนุนภาครัฐโดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จนเห็นเป็นรูปธรรม อาทิ การมอบทุ่นจอดเรือที่ทะเลแหวก เพื่อป้องกันรักษาไม่ให้แนวปะการังเสียหายจากการทิ้งสมอของเรือท่องเที่ยว สนับสนุนเรือตรวจการณ์เพื่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนการวิจัย สาหร่ายจิ๋ว (Zooxanthellae) ฟื้นฟูปะการังฟอกขาว หรือการสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวในเขตอุทยาน เป็นต้น

โอกาสนี้ถือเป็นอีกหนึ่งนิมิตหมายที่ดีและเป็นตัวอย่างที่ดีในการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อดูแลรักษาทรัพยากร ชุมชน ธรรมชาติ และพื้นที่แวดล้อม โดยเฉพาะพื้นที่ๆ เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตทุกภาคส่วนจะตระหนักถึงปัญหา และร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และเห็นผลได้มากขึ้น”

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเลมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวเพิ่มเติม “แนวคิดพีพี โมเดล นับเป็นต้นแบบของแผนปะการังแห่งชาติ ภายใต้แผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดำเนินมาเป็นเวลานาน และมีพัฒนาการที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนี้ปัญหาปะการังฟอกขาวได้กลับมาอีกและเป็นประเด็นที่สังคมวงกว้างควรตระหนักและร่วมกันแก้ปัญหา ปะการังเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นแหล่งอาหารหรือที่หลบภัยของสัตว์น้ำต่าง ๆ เป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล นำมาซึ่งแหล่งอาหารของมนุษย์ ปัญหานี้จึงเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวพวกเราอย่างมาก

ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับ สิงห์ เอสเตท เกิดโครงการขึ้นหลายโครงการ และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยน แปลงในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน เป็นผลดีกับทุกฝ่าย ส่วนตัวมองว่าสังคมยังคงต้อง การผู้กล้า หน่วยงานที่พร้อมร่วมมือกับภาครัฐอย่างจริงจังอีกมาก เพื่อให้เกิดการพัฒนาและดูแลทรัพยากรธรรมชาติกันอย่างยั่งยืน”