รู้ทันโรค มือ เท้า ปาก โรคใกล้ตัวเด็กวัยเรียน

14

หน้าฝนนี้นอกจากไข้หวัดที่พบบ่อยแล้ว อีกหนึ่งโรคที่ต้องระมัดระวังในเด็กเล็ก และเด็กวัยเรียน นั่นก็คือ โรคมือเท้าปาก ที่มีการแพร่ระบาดได้มาก 

แพทย์หญิงนงนภัส เก้าเอี้ยน กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า โดยโรคนี้เกิดจากการเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโรไวรัสในลำไส้คน ซึ่งทารก-เด็กเล็กมีโอกาสป่วยง่าย และจะรุนแรงกว่าเด็กโต มักพบในสถานรับเลี้ยงเด็ก และโรงเรียนอนุบาล ลักษณะอาการของโรคนี้ ทำให้มีตุ่มผื่นหรือแผลที่ผิวหนังบริเวณมือ เท้า หรือมีแผลภายในปาก ทำให้เด็กๆ เจ็บปาก จนรับประทานไม่ได้ นอกจากนี้อาจจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไอ เจ็บคอ ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย สามารถติดต่อกันได้ผ่านการไอหรือจาม น้ำมูก การสัมผัสตุ่มน้ำตามผิวหนัง น้ำลายหรืออุจจาระที่ปนเปื้อนเชื้อ

โดยโรคมือเท้าปากมีระยะฟักตัว 3-6 วัน และหลังจากได้รับเชื้อ ผู้ป่วยจะเริ่มมีไข้ต่ำๆ เจ็บคอ ไม่อยากอาหาร อ่อนเพลีย หลังจากมีไข้ 1-2 วัน จะเริ่มมีตุ่ม ผื่น หรือแผลอักเสบที่ผิวหนังบริเวณมือ เท้า และมีแผลในปาก เช่น ที่กระพุ้งแก้ม เพดาน ลิ้น รวมถึงริมฝีปาก ส่วนใหญ่แล้วผู้ปกครองหรือคุณครูที่โรงเรียนสามารถสังเกตอาการของเด็กในเบื้องต้นได้ เช่น มีไข้ ¬ตุ่มหรือผื่นตามมือ เท้า และแผลในปาก

นอกจากแผลที่เกิดขึ้นตามตัวและในบริเวณปาก จะสร้างความเจ็บปวด รำคาญ ให้เด็กทรมานแล้ว โรคมือเท้าปาก ยังอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ อัมพาตกล้ามเนื้ออ่อนปวกเปียก หรือกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ไปจนถึงเสียชีวิตได้

โดยคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ควรพาเด็กๆ มาพบพบแพทย์เพื่อตรวจป้องกันภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะตรวจร่างกายเพื่อดูผื่นหรือตุ่มที่ผิวหนัง และแผลในปากเป็นหลัก ในบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจนำตัวอย่างของเหลวภายในลำคอ หรืออุจจาระส่งตรวจในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของอาการป่วยต่อไป ซี่งโดยทั่วไปแล้ว โรคมือ เท้า ปากอาการจะดีขึ้นและหายป่วยเองภายในเวลา 7-10 วัน

ปัจจุบันโรคมือเท้าปากยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดในทันที และยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปากได้ ฉะนั้นแนวทางการป้องกันไม่ใหเกิดการติดเชื้อจึงเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงโรคได้ อาทิ การรักษาความสะอาดของร่างกาย หมั่นล้างมือบ่อยๆ ไม่ใช้สิ่งของหรือภาชนะร่วมกัน เช็ดทำความสะอาดของเล่นบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการให้เด็กคลุกคลีหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วย เมื่อเช็ดน้ำมูกหรือน้ำลายให้เด็กแล้วต้องล้างมือให้สะอาดโดยเร็ว หากเด็กมีอาการของ

โรคมือเท้าปากให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และเมื่อแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคมือเท้าปาก ต้องให้เด็กหยุดเรียนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหาย หากมีเด็กในโรงเรียนป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ต้องแยกเด็กที่ป่วยออก ให้ผู้ปก ครองรับกลับบ้าน และพักอยู่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ รวมถึงควรปิดโรงเรียนเพื่อทำความสะอาดหากพบเด็กติดเชื้อโรคมือเท้าปากพร้อมกันหลายคน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้โรคมือเท้าปาก เป็นโรคที่ใกล้ตัวหนูน้อยอย่างมาก แต่หากพ่อแม่มีความใส่ใจ ดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิดและเฝ้าสังเกตอาการ หากพบว่ามีอาการผิดปกติดังที่กล่าวมาข้างต้น แนะนำให้รีบพาไปพบแพทย์ เพื่อจะได้ให้การดูแลรักษาอย่างทันท่วงที

โดย แพทย์หญิงนงนภัส เก้าเอี้ยน
กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ
โรงพยาบาลพระรามเก้า