อย่างที่ทราบสังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ และมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่ยังมีศักยภาพ ความสามารถในการทำงาน การฝึกอาชีพที่เหมาะสมจะช่วยยกระดับรายได้ คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ไม่เป็นภาระลูกหลานและลดภาระรายจ่ายของภาครัฐได้ด้วย
ข้อมูลสถิติกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่า จำนวนผู้สูงอายุในปี 2561 มีประมาณ 10.6 ล้านคน คิดเป็น 16% ของจำนวนประชากรทั้งหมด 66.4 ล้านคนในประเทศไทย
จังหวัดที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 1,020,917 คน 2.นครราชสีมา 435,347 คน 3.เชียงใหม่ 316,847 คน 4.ขอนแก่น 299,639 คน และ 5.อุบลราชธานี 264,957 คน
สุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กพร.ได้ดำเนินการฝึกอบรมวิชาชีพให้แก่แรงงานทุกกลุ่ม ตามนโยบายของกระทรวงและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพบุคคล โดยกลุ่มผู้สูงอายุเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายที่กพร.ให้ความสำคัญและพัฒนาศักยภาพ เพื่อให้มีทักษะฝีมือ สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว รวมถึงเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุ ได้เข้าสังคมและพบปะผู้คนมากยิ่งขึ้น ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน อีกทั้งช่วยลดภาระของภาครัฐได้อีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับปีงบประมาณ 2562 กพร.มีเป้าหมายฝึกอาชีพให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 8,420 คน ปัจจุบันมีผู้มาสมัครและดำเนินการฝึกอาชีพแล้ว 9,092 คน และมีงานทำ 5,570 คน คิดเป็นร้อยละ 62.01 ของผู้เข้าฝึกอาชีพทั้งหมด
สาขาที่ดำเนินการฝึกและเหมาะสมกับผู้สูงอายุ เช่น การทำขนมไทย การทำผลิตภัณฑ์สมุนไพร การประดิษฐ์ตะกร้าจากหนังเทียม การถักพรมเช็ดเท้าจากเศษผ้า การทำไม้กวาดดอกหญ้า การแปรรูปผลผลิตการเกษตร การสานตะกร้าจากเส้นพลาสติก และการทำยาหม่องลูกสมุนไพรประคบ เป็นต้น
สำหรับผู้สนใจฝึกอบรมในด้านอื่นๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 หรือเว็บไซด์กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน www.dsd.go.th
เชาวฤทธิ์ รัตนรังษี ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 23 ปัตตานี (สพร.23 ปัตตานี) กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ได้ดำเนินการอบรมสาขาการจักสานไม้ไผ่ จากการติดตามประเมินผล พบว่า ผู้ผ่านการฝึกอบรมได้รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน ทำผลิตภัณฑ์จักสานส่งจำหน่ายไปยังต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 3,000-4,000 บาทต่อครัวเรือน เป็นต้น