มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เปิดเผยว่าองค์กรที่มี Wellness Culture สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ ก้าวสู่ผู้นำอย่างยั่งยืน ผลสำรวจพบผู้นำองค์กรปัจจุบันมีความเครียดมากขึ้น ส่งผลต่อการนำพาองค์กรสู่เป้าหมาย สลิงชอทรุกขยายตลาด Leadership Wellness รายแรกของไทย มั่นใจสร้างธุรกิจเติบโต 30%
ดร.สุทธิโสพรรณ ช่วยวงศ์ญาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด บริษัทที่ปรึกษาให้บริการด้านการพัฒนาผู้นำและการพัฒนาองค์กร เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจที่ปรึกษาด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดออกมาเปิดเผยว่าองค์กรใดให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและนำเรื่องสุขภาพมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์และการสร้างวัฒนธรรมองค์กร (Wellness Culture) ถือเป็นองค์กรที่อยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบทางธุรกิจของโลกยุคนี้
ขณะที่ สถาบัน MDA Leadership Consulting ออกมาเผยผลงานวิจัยผนวกกับผลการพยากรณ์ของนักอนาคตศาสตร์ พบว่า บทบาทใหม่ของผู้นำแห่งอนาคต คือการสร้างวัฒนธรรมสุขภาพ Wellness Culture ซึ่งจะกลายเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
หลักการสำคัญของการสร้าง Wellness Culture ให้ประสบผลสำเร็จ คือการสร้างต้นแบบที่ดีผ่านผู้นำ เพราะการที่ผู้นำมีสุขภาพดีจะช่วยให้สามารถดูแลสนับสนุนคนอื่นรอบตัวทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวได้ดีขึ้นถึง 10 เท่า การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นสุขภาพ จึงเป็นเทรนด์ที่ผู้นำและองค์กรไม่ควรพลาด ทั้งนี้ การจะสร้างองค์กรที่มีสุขภาพดี ผู้นำต้องมีสุขภาพดีก่อนในฐานะต้นแบบ เพราะผู้นำที่แข็งแรงจะนำพาองค์กรให้แข็งแรง และเป็นกุญแจนำองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
ปัจจุบันหลายองค์กรกำลังประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและธุรกิจมีความซับซ้อนมากขึ้นทำให้ผู้นำยุคใหม่ต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานจากงานวิจัยเกี่ยวกับผู้นำและความเครียดพบว่า
1. ผู้นำ 66% เชื่อว่าตนเองเครียดกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
2. ผู้นำ 88% บอกว่างานคือต้นเหตุแห่งความเครียดโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานในบทบาทผู้นำองค์กร
3. ผู้นำ 60% มองว่าองค์กรไม่ได้เตรียมเครื่องมือหรือวิธีการเพื่อช่วยเหลือการจัดการกับความเครียดในองค์กร
4. ผู้นำ 80% เชื่อว่าการมีโค้ช มีกลุ่มเพื่อนสามารถช่วยให้บริหารความเครียดและสร้างสุขภาพที่ดี
นางมัณฑนา รักษาชัด กรรมการผู้จัดการ กลุ่มกิจการธุรกิจหลัก บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากข้อมูลวิจัยของ Aro Ha Wellness Retreats ศูนย์ปรับวิธีคิดและวิธีการใช้ชีวิตตามหลักการ Wellness ชี้ให้เห็นว่าผู้นำที่ผ่านการโค้ชชิ่งจากสถาบันใน 6 วันแรก การใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรมมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดย 16% มีความเป็นอยู่และมีความสุขมากขึ้นหลังจากผ่านไป 1 เดือน
ผลการศึกษายังพบว่าด้านการทำงาน 13% ของผู้เข้าร่วมโปรแกรมมีผลการทำงานที่ดีขึ้น ในด้านของสุขภาพทางร่างกาย พบมีพัฒนาที่ดีขึ้น 22.4% นอกจากนี้ งานวิจัยยังกล่าวถึงความเครียด ซึ่งอีกปัจจัยมีผลต่อ Wellness ซึ่งการเกิดความเครียดฉับพลันจะส่งผลต่อการตัดสินใจ โดยทำให้มีการใช้อารมณ์เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจ มากกว่าการตัดสินใจบนพื้นฐานของเป้าหมายทางธุรกิจ อันจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดทางธุรกิจจนเกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา
สำหรับโปรแกรม Leading Well ภายใต้ธุรกิจใหม่ Leadership Wellness เป็นโปรแกรมการพัฒนาเปลี่ยนแปลงผู้บริหารให้สร้าง Wellness ตลอดระยะ 12 เดือน จุดเด่นของโปรแกรมคือการเน้นโค้ชผู้นำให้ก้าวข้ามการเปลี่ยน แปลง นับตั้งแต่ทัศนคติและวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง จนสามารถมี Wellness ได้ในระยะยาว
รวมทั้งสามารถนำไปกำหนดนโยบายและใช้เป็นต้นแบบในสร้าง Wellness Culture ที่เข้มแข็งให้องค์กรต่อไป ครอบคลุม Wellness ทั้งหมด 6 ด้าน เพราะ Wellness มากกว่าแค่มีสุขภาพทางกายที่ดี ได้แก่1.Emotional Wellness หรือ Wellness ด้านอารมณ์ 2. Physical Wellness หรือ Wellness ด้านร่างกายและสุขภาพ 3. Spiritual Wellness หรือWellness ด้านจิตใจ 4. Intellectual Wellness หรือ Wellness ด้านสติปัญญา 5. Social Wellness หรือ Wellness ด้านสังคม และ 6. Environmental Wellness หรือ Wellness ด้านสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ ผู้นำที่มี Wellness จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและความต่อเนื่องในการทำงาน 2 ด้านได้แก่ 1. เพิ่มประสิทธิภาพผลการดำเนินงานขององค์กรจากผลการทำงานที่ดีขึ้น 2. ในด้าน Business Continuity หรือการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง ด้วยสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจ (Business Risks) ไม่ว่าจะที่เกิดจากการที่ผู้นำเจ็บป่วย หรือแม้กระทั้งการถึงการเสียชีวิตจากการความเครียดและปัญหาสุขภาพ
ข้อมูลจาก London Business School พบกว่าจากการติดตามผลการดำเนินงานตลอด 25 ปีของบริษัทชั้นนำในอเมริกาที่ถูกระบุว่าเป็นบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุด มีมูลค่าหุ้นสูงกว่าบริษัททั่วไปถึง 50%
บริษัท สลิงชอท กรุ๊ป จึงได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ Leadership Wellness ขึ้นเป็นรายแรกของประเทศไทย เนื่องจากพบว่าผู้นำในปัจจุบันหันมาใส่ใจตนเองตาเทรนด์สุขภาพ ซึ่งหากศึกษาตลาดสุขภาพในระดับโลกจะพบว่า เป็นธุรกิจที่โตเร็วกว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวม โดยสัดส่วนหลักจะอยู่ที่ธุรกิจความงามและชะลอวัย (25%) ตามมาด้วยธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพและลดน้ำหนัก (16%) ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (15%) ส่วนด้านสุขภาพของผู้นำและในที่ทำงานมีเพียง 1% เท่านั้น ถือเป็นตลาดใหม่ที่ สลิงชอท กรุ๊ป จะเข้าไปเจาะเพื่อให้ความรู้และสร้างการเติบโต เชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 30% ในปีนี้