ตัวแทนชาวบ้านชุมชนบ่อแก้ว จากจังหวัดชัยภูมิได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ 7 พรรคฝ่ายค้านเรื่องการขอให้ยกเลิกหมายบังคับคดีขับไล่ชาวบ้านให้ออกจากพื้นที่ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 ส.ค.นี้ เสนอต่อนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้แก้ปัญหาของชาวบ้านชุมชนบ่อแก้วให้เป็นรูปธรรม
โดยนายนิด ต่อทุน ตัวแทนชาวบ้านพื้นที่พิพาทชุมชนบ่อแก้ว จังหวัดชัยภูมิกล่าวว่า ชาวบ้านเข้าถือครองทำประโยชน์ในที่ดินของพื้นที่ชุนบ่อแก้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 เป็นต้นมา โดยพวกเรามีหลักฐานเป็นเอกสารเสียภาษีบำรุงท้องที่ ภ.บท.11 ซึ่งต่อมาปี พ.ศ. 2516 รัฐได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม และในปี พ.ศ. 2521 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) ได้ขอเข้าทำประโยชน์ปลูกสร้างสวนป่าคอนสาร ในระบบสมาชิกโครงการหมู่บ้านป่าไม้ เนื้อที่ 4,401 ไร่ และนำมาสู่การผลักดัน ขับไล่ชาวบ้านออกจากที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย จำนวน 12 ครัวเรือน
ซึ่งนับตั้งแต่การเข้ามาของ ออป. ชาวบ้านเคลื่อนไหวคัดค้านมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถยุติการดำเนินงานได้ กระทั่งพื้นที่ทำกินกลายสภาพเป็นสวนยูคาลิปตัสในที่สุด โดยรายสุดท้ายที่จำต้องออกจากพื้นที่ ในปี พ.ศ. 2529 คือ นายวัก โยธาธรรม มีชาวบ้านจำนวน 277 ราย คือจำนวนผู้เดือดร้อนที่ผ่านการตรวจสอบของคณะทำงานเมื่อปี 2548 ครับ ปัจจุบันมีชาวบ้านอยู่ในพื้นที่พิพาทประมาณ 110 คน เนื่องจากมีพื้นที่จำกัดเพียง 96 ไร่
ตัวแทนชาวบ้านพื้นที่พิพาทชุมชนบ่อแก้ว จังหวัดชัยภูมิกล่าวว่า กรณีปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ได้มีการดำเนินงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับประชาชนที่เดือดร้อน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา โดยมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนพบว่าประชาชนอยู่มาก่อนการปลูกสร้างสวนป่าคอนสาร และสวนป่าคอนสารปลูกทับที่ของประชาชนจริง จึงมีมติให้ยกเลิกสวนป่าคอนสาร แล้วนำที่ดินมาจัดสรรให้กับประชาชนผู้เดือดร้อน และมีการพิจารณากรณีปัญหาดังกล่าวจากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ประชุมประชาคมตำบลทุ่งพระ ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องมีการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อให้เกิดข้อยุติ
นายนิดให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ในขณะเดียวกัน ออป. ได้เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่พวกเราออกจากพื้นที่ ซึ่งคดีได้ถึงที่สุด และอยู่ในชั้นบังคับคดี โดยเราได้มีหนังสือขอให้ชะลอการบังคับคดี ทั้งนี้ กระบวนการแก้ไขปัญหาทั้งในเรื่องพิพาทสิทธิที่ดิน และปัญหาคดีความ ได้มีกลไกการแก้ไขร่วมระหว่างรัฐบาลกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา โดยในกรณีปัญหาคดีความ ได้มีบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้แทนองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กับราษฎร เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2554 ในข้อที่ 1 ระบุว่า “จะไม่มีการเร่งรัดบังคับคดี” ตัวแทนชาวบ้านพื้นที่พิพาทชุมชนบ่อแก้ว จังหวัดชัยภูมิกล่าวว่า
นอกจากนี้ ภายหลังปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมา ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้มีการประชุมหารือ และแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมกับรัฐบาล รวมทั้งมติ ข้อตกลงหลายฉบับที่จะมีนัยสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้ยุติลงได้ ในกรณีสวนป่าคอนสาร สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีหนังสือเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิให้ชะลอการดำเนินการใดๆ ที่อาจเป็นมูลเหตุให้เกิดความขัดแย้งไว้ก่อน จนกว่ากระบวนการพิจารณาแก้ไขปัญหาจะมีผลเป็นที่ยุติต่อไป กระทั่งมีการพิจารณารับรองแผนการจัดการที่ดินและทรัพยากรอย่างยั่งยืนโดยชุมชน ของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ขณะที่ นายอภิชาติ สิริสุนทร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่เป็นหนึ่งในตัวแทนของพรรคฝ่ายค้านที่เข้าร่วมรับหนังสือของชาวบ้านในครั้งนี้กล่าวว่า เข้าในความเดือนร้อนของชาวบ้านในครั้งนี้และจะนำเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านชุมชนบ่อแก้วเสนอต่อประธานรัฐสภาเพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลให้แก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไปและในวันที่ 17 ส.ค.ที่จะถึงนี้ นายทิม พิธา และนายปิยบุตร แสงกนกกุล สส.จากพรรคอนาคตใหม่จะลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาของชาวบ้านและช่วยหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านด้วย