Airbnb ตอกย้ำผู้นำแพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก ฉลองการทุบสถิติใหม่ด้วยจำนวนผู้เข้าพักทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โดย Airbnb เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 11 ปี มีผู้คนจากทั่วโลกได้ใช้บริการเป็นจำนวนมากกว่าห้าร้อยล้านคนแล้ว
มิสเตอร์ไมค์ ออร์กิล (Mike Orgill) ผู้จัดการทั่วไปประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน ของAirbnb กล่าวว่า “พันธกิจของเราคือการสร้างโลกที่ทำให้ทุกคนสามารถเดินทางไปแห่งใดก็ได้ ตั้งแต่แรกเริ่ม Airbnb สามารถช่วยให้ผู้คนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ และเปลี่ยนจากคนแปลกหน้าสู่มิตรภาพ เรารู้สึกภูมิใจที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการสร้างชุมชน โดยค่อยๆ เริ่มสร้างชุมชนเจ้าของที่พัก, ผู้เข้าพัก และประสบการณ์ต่างๆ ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
Airbnb ได้สร้าง Airbnb Connection Index ขึ้นมาซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนให้เห็นถึงการจับคู่เจ้าของที่พักและผู้เข้าพักในแต่ละประเทศและภูมิภาค เช่น เมื่อมีผู้เข้าพักจากประเทศไทยเดินทางไปพักกับเจ้าของที่พักในประเทศไอซ์แลนด์เป็นครั้งแรกก็จะเกิดเป็นคอนเนคชั่นใหม่ขึ้นมา ในทางกลับกันเมื่อมีผู้เข้าพักชาวไอซ์แลนด์เดินทางมาพักกับเจ้าของที่พักในประเทศไทยก็จะเกิดเป็นคอนเนคชั่นใหม่เช่นเดียวกันซึ่งนี่เป็นวิธีที่ทำให้โลกเข้าใกล้กันมากขึ้น
ปี 2010 แพลตฟอร์ม Airbnb ทำให้เกิดการสร้างคอนเนคชั่นใหม่มากกว่า 1,300 คอนเนคชั่น และในปี 2015 มีเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด มากกว่า 16,500 คอนเนคชั่น จนถึงวันนี้ บนแพลตฟอร์ม Airbnb ได้สร้างสรรค์กว่า 26,000 คอนเนคชั่น และเมื่อดูจากอัตราการเติบโตของ Airbnb คาดว่า ภายในสิ้นปี 2019 จะเกิดการสร้างมากกว่า 30,013 คอนเนคชั่น
ปัจจุบันของแพลตฟอร์ม Airbnb ให้บริการใน 245 ประเทศในทุกภูมิภาคทั่วโลก เมื่อนำมาคำนวนในทางคณิตศาสตร์แล้วมีความเป็นไปได้ที่จะมีสถานที่ซึ่งเกิดการเชื่อมต่อเป็นคอนเนคชั่นระหว่างกันถึง 60,025 แห่ง และภายในปี 2027 คาดการณ์ว่าจะมีคอนเนคชั่นมากกว่า 50,000 คอนเนคชั่น
คอนเนคชั่นเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้เป็นเพราะขนาด ขอบเขต และสเกลของเครือข่าย Airbnb ที่กระจายอยู่ทั่วโลก และมีลิสติ้ง (รายการที่พัก) มากกว่า 6 ล้านแห่ง ในกว่า 100,000 เมือง ซึ่งจำนวนห้องพักบน Airbnb มีมากกว่าห้องพักของเชนโรงแรมชั้นนำ 7 แห่งรวมกันเสียอีก
จากรายงานล่าสุด ระบุว่า จุดหมายปลายทางที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด ตลอดจนความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวไปยังเอเชียแปซิฟิก แอฟริกา และลาตินอเมริกา มีเพิ่มมากขึ้น
นอกจากเป็นการเปิดโลกให้กับนักท่องเที่ยวได้สัมผัสจุดหมายปลายทางและวัฒนธรรมใหม่ๆ แล้ว เจ้าของที่พักเองก็ได้ประโยชน์จากการเติบโตที่เกิดขึ้นทั่วโลกแบบไม่น่าเชื่อ เฉพาะในปีที่ผ่านมา เจ้าของที่พักในเมืองต่างๆ 33 แห่งทั่วโลก สามารถสร้างรายได้รวมกันมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อหนึ่งเมือง
คุณพิม เจ้าของที่พัก Airbnb ในประเทศไทย กล่าวว่า “Airbnb ช่วยสร้างโอกาสให้ได้พบกับผู้คนที่เดินทางมาจากทั่วโลก และทำให้ได้เข้าใจว่า แม้จะมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ เราสามารถมีความสุข แบ่งปัน และมีความทรงจำดีๆ ด้วยกันได้โดยไม่ต้องสนใจว่าเป็นใครมาจากไหน”
