เมื่ออาเซียนรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว ความสัมพันธ์ของประเทศที่มีอาณาเขตชายแดนติดต่อกัน ก็ยิ่งฉายภาพแห่งโอกาสการเติบโตร่วมกันมากขึ้น แม้แต่ละประเทศ จะมีลักษณะความเป็นอยู่ที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างที่สร้างภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจให้กับเราอยู่เสมอ
ไม่นานมานี้ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้จัดกิจกรรมทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวหลัก เพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี และมองหาแนวทางการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยมุ่งไปที่การสร้างประโยชน์ให้เกิดกับชุมชนเป้าหมายและชุมชนระหว่างทางของทั้งสองประเทศ ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าค้นหา
นายสุธารักษ์ สุนทรวิภาต รองผู้จัดการ อพท.3 ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ อพท. และ สื่อมวลชน เดินทางไปยัง จ.ตราด เป็นการออกสตาร์ทเพื่อชมบรรยากาศของชุมชนท่องเที่ยวบ้านไม้รูด อ.คลองใหญ่ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยัง เกาะกง และ สีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา
Day 1 บ้านไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด
ทริปนี้เราอาจจะไม่ได้เห็นฟ้าใสๆ ในช่วงหน้าฝน แต่ทะเลที่บ้านไม้รูดยังคงงดงาม โดดเด่นด้วยหาดทรายสองสีที่ท้าให้มาพิสูจน์ เพราะชายหาดเดียวกัน ด้านหนึ่งเป็นทรายสีขาว แต่อีกด้านกลับเป็นทรายสีแดงดูแปลกตา โดยในวันนี้เรามีพี่หม่อง ชาวบ้านไม้รูด มาเป็นไกด์บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ทำให้รสชาติของการเดินทางมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
เดินต่อไปอีกไม่ไกลจะพบกับ “บ่อญวน” บ่อน้ำจืดขนาดเล็กที่มีความลึกประมาณ 1 เมตร แหล่งน้ำจืดริมชายหาดที่มีอายุนานนับ 100 ปี เป็นบ่อน้ำจืดที่คงความจืดได้อย่างยืนยง เพราะแม้ว่าน้ำทะเลจะหนุนเข้ามาเพียงใด เมื่อตักน้ำที่เค็มออกไปสักพัก ก็กลับมาจืดได้ และใช้ได้ดังเดิม และนี่คือบ่อน้ำจืดที่หาได้ยากในบริเวณนี้ เพราะเจาะตรงไหนก็เป็นน้ำเค็ม จึงถือเป็นบ่อน้ำที่มีความสำคัญกับชาวบ้านมาอย่างยาวนาน
อีกสถานที่ที่น่าสนใจคือ “ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทย เขาล้าน” หรือ “พิพิธภัณฑ์บ้านเขาล้าน” ซึ่งเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการจัดตั้งศูนย์รับผู้อพยพชาวกัมพูชาในอดีตกว่าแสนคน ปัจจุบันมีการจัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวด้านมนุษยธรรมที่ประเทศไทยมีต่อชาวกัมพูชาเมื่อครั้งลี้ภัยสงคราม
ค่ำคืนที่บ้านไม้รูดเดินทางไปอย่างเรียบง่ายและเงียบสงบ เป็นอีกชุมชนที่ยังคงความสดใสไร้การเติมแต่ง สายกินต้องโดนใจกับความสดของอาหารทะเล และเสน่ห์ของอาหารพื้นบ้าน กุ้ง ปู ปลา มาพร้อมเพรียงกัน ขณะที่ “แกงหอยถ่าน” ที่ได้ชื่อว่าเป็นการกินอาหารท้องถิ่นแบบ “ตัดตูด ดูดปาก” ที่พากันสนุกไปตามๆกัน
บริเวณที่เรานั่งรับประทานอาหาร ยังเป็นจุดชมความงามของหมู่บ้าน และเป็นที่พักแบบโฮมเสตย์อีกด้วย
เราเข้าที่พัก LANLAY Resort นอนฟังเสียงฝนพรำ ก่อนที่พรุ่งนี้จะเดินหน้าสู่ เกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นอีกดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และมีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว
Day 2 เกาะกง
ไม่เฉพาะเมืองไทย ที่มีเรื่องเล่าหรือตำนานของแหล่งท่องเที่ยว ในการเดินทางครั้งนี้ เราก็ได้พบกับแหล่งท่องเที่ยวที่มาจากตำนาน
เริ่มต้นจากตำนานขุนช้างขุนแผน ซึ่งคล้ายคลึงกับเมืองไทย โดยตำนานเขมรเล่าว่า กาลครั้งหนึ่ง “ทับทิม” ลูกสาวชาวบ้าน ที่ต้องจำใจแต่งงานกับ “ขุนช้าง” ซึ่งเป็นผู้มีฐานะ ในขณะที่ใจกลับผูกพันอยู่กับ “ขุนแผน” แม้ว่าแต่งงานแล้วก็ยังแอบไปรักกับคุณเพ็ญ (คุณเพ็ญ คือ ขุนแผน ออกเสียงในสำเนียงเขมร) เรื่องถึงพระมหากษัตริย์ ทับทิมจึงถูกตัดสินประหาร โดยขุนช้างได้ฝังศพเธอไว้ในที่ที่เธอถูกฆ่าตาย และได้สร้าง “เจดีย์โบราณสถานขุนช้างขุนแผน” ไว้ใกล้ๆ กัน บริเวณแม่น้ำเกาะกง ซึ่งห่างจากตัวเมืองเกาะกงไปราว 1 กิโลเมตร
อีกเรื่องราวจากตำนานของ “ตาไต” และลูกชาย ชาวบ้านที่ออกไปตกปลาบริเวณน้ำตก ที่เป็นจุดเชื่อมระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็ม แต่เมื่อครั้งพายุเข้ามีน้ำท่วมฉับพลัน พัดพาลูกชายของตาห่างจากตัวเมืองไปราว 20 กิโลเมตร ชาวบ้านจึงเรียกชื่อน้ำตกและลำน้ำที่มีความสวยงามอลังการนี้ว่า “ตาไต๊” “ตาไต” หรือ “ตาไท” มาโดยตลอด
จากนั้นเรายังได้แวะชม Koh Andet Eco Resort รีสอร์ทสวยที่อิงแอบธรรมชาติอย่างเงียบสงบ นับเป็นความเก๋ไก๋อีกอย่างของเกาะกงในวันนี้ ที่ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาการท่องเที่ยวที่อยู่เคียงข้างกับธรรมชาติ
แม้ว่าวันนี้คณะของเราจะพบกับกลุ่มฝนเป็นระลอกๆ ตลอดทั้งวัน ลำน้ำตาไต๊มีปริมาณมากจนทำให้ไม่สามารถจอดเรือเพื่อลงไปเดินชมน้ำตกได้แบบใกล้ชิด ปกติจะสามารถไต่โขดหินขึ้นไปถ่ายภาพ หรือเดินไปใกล้น้ำตกได้ แต่หน้าฝนที่มีน้ำมากและไหลแรง จึงไม่ใช่สิ่งที่ควรฝ่าฝืนกฎระเบียบ ดังนั้นเสื้อชูชีพจึงต้องสวมติดตัวอยู่เสมอ
ไม่ได้เห็นน้ำตกแบบเต็มตา แต่ความอุดมสมบูรณ์ของภูเขาและผืนป่า ทำให้ทุกคนได้สัมผัสถึงอากาศอันบริสุทธิ์ ตลอดระยะทางการล่องเรือจากโรงแรมตาไต ซึ่งเป็นสถานที่รับประทานอาหารเที่ยงของเรา ได้รับความสดชื่น สุดสายตา เป็นอีกที่หมายของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติ การผจญภัย รวมทั้งวิถีชุมชน ซึ่งสามารถเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวจากเกาะกงและภาคตะวันออกของประเทศไทยได้
โดยในวันนี้นายสุธารักษ์ สุนทรวิภาต รองผู้จัดการ อพท.3 เป็นตัวแทนพูดคุยกับคณะกรรมการการท่องเที่ยวของเกาะกง ถึงความร่วมมือในการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ไทย-กัมพูชา โดยเชื่อมโยง จ.ตราด-เกาะกง ซึ่งมีลักษณะความเป็นอยู่ที่ใกล้เคียงกัน มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ไม่ต้องเดินทางไกลมาก มีชุมชนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยทางกัมพูชา ได้เสนอให้มีการจัดงานอีเว้นท์ แสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยว พร้อมประชุมสัมมนาในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม
Day 3 สีหนุวิลล์
สีหนุวิลล์ ได้ชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศของกัมพูชา ด้วยความพร้อมของธรรมชาติ แต่วันนี้หากใครเดินทางไปสู่จังหวัดพระสีหนุวิลล์ ไม่ว่าจะทางรถหรือทางเครื่องบิน ก็จะเห็นว่า เมืองกำลังพัฒนาไปในด้านแสงสีและเมืองศิวิไล ซึ่งมีกลุ่มทุนชาวจีน และนักท่องเที่ยวชาวจีนบินตรงเข้ามากันอย่างคึกคัก
นายตัง โสเชียตกฤษณา ผอ.การท่องเที่ยว จ.พระสีหนุวิลล์ กล่าวว่า สีหนุวิลล์เป็นเมืองยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวระดับโลก โดยมุ่งพัฒนาทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้า การคมนาคม เมืองแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความพร้อมด้านธรรมชาติทางทะเล ประกอบด้วยเกาะต่างๆ อันสวยงาม 32 เกาะ ในปี 2561 นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสีหนุวิลล์มีปริมาณที่เติบโตขึ้นถึง 50% หรือประมาณ 2 ล้านคน 30% เป็นชาวต่างชาติ 70% เป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ ปัจจุบันมีบริการด้านการท่องเที่ยวในสีหนุวิลล์ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สปา คาสิโน ฯลฯ จำนวน 922 แห่ง รวมห้องพักมากกว่า 10,000 ห้อง และมีบริการเรือสำราญ 9 บริษัทเข้ามาลงทุน
นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวที่สีหนุวิลล์มากที่สุด คือ ชาวจีน นอกจากนั้น คือ ชาวฝรั่งเศส อังกฤษ รัสเซีย เวียดนาม มาเลเซีย และไทย
การขนส่งสินค้าและผู้โดยสารทั้งทางน้ำและทางบก เป็นนโยบายการพัฒนาที่สำคัญ มีแผนการปรับปรุงถนน 22 เส้นทางแผนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารบริเวณท่าเรือสีหนุวิลล์ รวมทั้งแผนก่อสร้างท่าเรือที่เกาะกงเพื่อเชื่อมโยงระหว่างกัน นอกจากนั้นยังมีแผนการสร้างถนนเชื่อมโยง พนมเปญ-สีหนุวิลล์ ระยะทาง 190 กิโลเมตร และ การขยายสนามบินสีหนุวิลล์
นี่เป็นเพียงตัวอย่างคร่าวๆ ของการพัฒนาของประเทศกัมพูชา เพื่อเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพงานประชุมสุดยอดอาเซียน ในปี 2565
นายชูวิทย์ มิตรชอบ รอง ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า กิจกรรมทดสอบเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน ไทย-กัมพูชา เพื่อร่วมหารือความเป็นไปได้ที่จะร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างไทย – กัมพูชา ในเส้นทาง ตราด – เกาะกง – สีหนุวิลล์ ตามเส้นทาง R10 เพื่อส่งเสริมแนวความคิด Two Countries, One Destination ศักยภาพที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือการประสานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกัน เพราะนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังสีหนุวิลล์เป็นกลุ่มไฮเอนด์ และมีความเป็นไปได้ที่จะเดินทางท่องเที่ยวต่อไปยังเมืองไทย โดยจะใช้จุดเด่นของแต่ละประเทศเป็นตัวเกื้อหนุนและเชื่อมโยงกัน
แม้จะใช้เวลาในสีหนุวิลล์ไม่มากนัก เราก็ได้สัมผัสกับวิถีความเป็นอยู่ของชุมชนท่ามกลางการเติบโตของเมือง ได้จิบกาแฟระหว่างการเดินทาง รับประทานอาหารหลากหลายสไตล์ พร้อมการเที่ยวชมชายหาดที่ยังมีความเงียบสงบ พร้อมธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์
เป็นทริปที่ได้ทั้งความรู้และประสบการณ์ การเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวฝั่งตะวันออกของไทยไปสู่กัมพูชา เป็นอนาคตที่น่าจับตามอง และด้วยการพัฒนาที่เน้นความยั่งยืนของ อพท. ที่มุ่งเน้นให้ชุมชนทั้งในแหล่งท่องเที่ยวระหว่างทางเกิดความเข้มแข็ง ทั้งด้านรายได้และความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ถือเป็นเส้นทางในอนาคตที่อยากส่งเสริมให้เกิดขึ้นดังที่ตั้งเป้าหมายไว้
ติดต่อท่องเที่ยวบ้านไม้รูด จ.ตราด
คุณน้อย 08 1982 2775
คุณหม่อง 08 7136 6375