นครศรี “ดี๊ดี” ชวนหนีกรุงเทพ-มาหา-นคร

55

นครศรีธรรมราชได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีความพร้อม ด้วย “ภู ป่า นา เล พรุ”  เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่ามีอาหารอร่อยจากหลากหลายวัฒนธรรมที่อยู่รวมกันอย่างมีความสุข แถมยังได้ชื่อว่า “นครสองธรรม” ซึ่งพร้อมพรั่งด้วย ธรรมะ และ ธรรมชาติ

โดยก่อนหน้านี้ “เมืองคอน” เคยเป็นเมืองรอง “ต้องห้ามพลาด” ภายใต้แคมเปญ “นครศรี ดี๊ ดี” ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยว รู้จักนครศรีธรรมราชมากขึ้น จนปัจจุบัน นครศรีธรรมราช เป็นเมืองรองที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ และกำลังจะเปลี่ยนสถานะ จากเมืองรอง เป็นเมืองหลัก เนื่องจากหลักการคิดของเมืองรอง คือเมืองที่มีนักท่องเที่ยวต่ำกว่า 4 ล้านคนต่อปี แต่เมื่อปีที่ผ่านมา เมืองรองที่ไม่เป็นรองอย่างนครศรีธรรมราช มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 3.9 ล้านคน เป็นคนไทยถึง 90%

ล่าสุด จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดโครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร”  ชวนคนกรุงมุ่งเมืองคอน มาหา “นคร” แห่งความสุข หนุนเมืองรอง น่าลอง น่ารัก  ปักหมุด “นครศรีธรรมราช” โชว์โอโซนเด่นอันดับหนึ่งของประเทศไทย ให้เวลาเดินช้าลงด้วยหลายหลายแง่มุมที่หลายคนยังไม่รู้  ชูชุมชนเข้มแข็ง กระจายรายได้สู่เมืองรอง หนุนการท่องเที่ยวในประเทศเติบโตต่อเนื่อง

นายวิรัตน์ รักษ์พันธุ์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า  จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ชื่อว่า “นครสองธรรม” ประกอบด้วย ธรรมะ และ ธรรมชาติ จึงเป็น “นครแห่งความสุข” ที่มีศักยภาพและความพร้อมด้านการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง มีโบราณสถานสำคัญที่ทุกคนรู้จักกันดี คือ “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร”  นอกจากนั้นจังหวัดนครศรีธรรมราชยังมีเสน่ห์ที่น่าสนใจอีกมากในทุกอำเภอ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทั้งภูเขา ป่าไม้ แม่น้ำ ลำธาร และ ทะเล รวมถึงวิถีและวัฒนธรรมที่ร่ำรวยด้วยมรดกศิลป์ ทั้งการเล่นหนังตะลุง รำมโนราห์ เครื่องถม เครื่องเงิน ผ้ายก งานจักสานย่านลิเภา ตลอดจนเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีที่มีชื่อเสียง เช่น การแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ ประเพณีบุญสารทเดือนสิบ เป็นต้น

กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในโครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” จะช่วยสร้างการรับรู้และส่งเสริมให้ผู้ที่ยังไม่เคยมาเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวกรุงเทพที่ต้องการพักผ่อน หลีกหนีจากความวุ่นวาย และมลภาวะต่างๆในเมืองกรุง ได้มีโอกาสสัมผัสความสุขในแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งผู้ที่เคยมาท่องเที่ยวแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่ายังมีเสน่ห์ของการท่องเที่ยวอีกมากมายรอให้ไปสัมผัส รวมทั้งช่วยส่งเสริมภาพรวมเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมการกระจายรายได้ไปยังชุมชนต่างๆ จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกภูมิภาค เดินทางมาสัมผัสความสุขในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่เหมาะกับการพักผ่อน เพื่อสัมผัสถึงประโยคที่ว่า “เวลาเดินช้าลง” โดยทางเจ้าบ้านพร้อมต้อนรับด้วยความยินดี

นายนิธี สีแพร ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากนโยบายรัฐบาลที่มุ่งหวังให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสามารถกระจายรายได้ไปถึงท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง  55 จังหวัด ททท. จึงได้ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและชุมชน เพื่อสร้างการกระจายรายได้ไปสู่พื้นที่ พร้อมทั้งให้ความสำคัญในการเติบโตที่สมดุล ขานรับยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งให้ประเทศมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ควบคู่กับการพัฒนาประเทศ ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ในช่วงปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความสนใจและเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น  ในปี 2561 นักท่องเที่ยวไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ 114.82 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 3.93% โดยสำรวจพบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่างๆ  เป็นนักท่องเที่ยวที่มีที่พำนักในกรุงเทพและปริมณฑล ททท. จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ภายใต้โครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นนักท่องเที่ยวในกรุงเทพและปริมณฑลไปสู่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจังหวัดมีความโดดเด่นทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรม โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่าง “บ้านคีรีวง” ซึ่งเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 1 ของประเทศ รวมทั้งจุดท่องเที่ยวต่างๆ ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากเมืองหลวงซึ่งเต็มไปด้วยความรีบเร่ง ได้สัมผัสมิติของการท่องเที่ยวอย่างผ่อนคลาย ในแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสุข ทั้งจากธรรมะ และ ธรรมชาติ

กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ “กรุงเทพ-มาหา-นคร” มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างการรับรู้แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครศรีธรรมราชให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ได้รู้จักและให้เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราชมากยิ่งขึ้น นำมาซึ่งรายได้ การสร้างงานและการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค

นายสุชาติ ชายมัน ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดนครศรีธรรมราช 3,972,748 คน เติบโต 7% จากปีก่อนหน้า มีรายได้ 17,135 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่านโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เป็นหนึ่งในปัจจัยในการพัฒนาเศรษฐกิจและก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน โดยปัจจุบัน จังหวัดนครศรีธรรมราช มีศักยภาพและความพร้อมทางด้านการท่องเที่ยว โดดเด่นด้วยความเป็นเมืองประวัติศาสตร์ มีโบราณสถานอันงดงาม พร้อมด้วยวิถีชุมชนอันเป็นเอกลักษณ์ ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบ รวมทั้งอาหารการกินอันอุดมสมบูรณ์

นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความเงียบสงบ ความมีเสน่ห์น่าหลงใหล จะได้พบกับหลากหลายแง่มุมของการท่องเที่ยวในนครแห่งความสุข อาทิ “หมู่บ้านคีรีวง” อ.ลานสกา ซึ่งมีอากาศที่ดีที่สุดในประเทศไทย “หาดในเพลา” อ.ขนอม ซึ่งเป็นชายหาดที่ยังคงความสงบและเป็นธรรมชาติ “ทะเลหมอกเขาจังโหลน” อ.นบพิตำ ทะเลหมอกภาคใต้ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันแสนสดชื่น เป็นต้น

ปัจจุบัน การเดินทางสู่จังหวันครศรีธรรมราช ยังสะดวกทั้งทางรถ ทางรถไฟ และเครื่องบิน นอกจากนั้นในตัวเมืองและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ยังมีที่พักให้เลือกหลากระดับ มีของกินของใช้ ของฝาก ของที่ระลึก ให้เลือกซื้อหามากมายหลายชนิด ภายใต้การต้อนรับอย่างเป็นมิตรของเจ้าบ้าน

สำหรับแนวทางการส่งเสริมการเติบโตของจังหวัดนครศรีธรรมราช จะยังคงนำเสนอวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ภายใต้ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเจ้าบ้านและนักท่องเที่ยว เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน เคียงข้างความสมดุลของสิ่งแวดล้อมและวีถีชุมชน โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของนักท่องเที่ยวและรายได้ไว้ที่ 10% ในปี 2562

โดยในวันแถลงข่าวที่จัดขึ้น   ได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์โครงการ นายภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์ และนางสาวภัสราภรณ์ ภูริพงศ์ธนวัต พร้อมเล่าประสบการณ์ความประทับใจที่ได้ไปถ่ายทำวีโอและเที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมชมการแสดงศิลปะวัฒนะธรรมของจังหวัดนครศรีธรรมราชในงานอีกด้วย