ตอกย้ำความเป็นเลิศและความเชี่ยวชาญของสถาบันกระดูกและข้อ ด้วยนวัตกรรม Endoscopic Spinal Surgery แบบ “แผลเล็ก เจ็บน้อย หายไว กลับไปทำงานได้ใน 24 ชม.”
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่โรงพยาบาลเปาโลพหลโยธิน กลุ่ม PMC ซึ่งประกอบด้วย โรงพยาบาลพญาไท 1 โรงพยาบาลพญาไท 2 และโรงพยาบาลเปาโลพหลโยธิน จัดงานประชุมวิชาการ “Endoscopic Spinal Surgery” การผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทผ่านกล้อง เพื่อการพัฒนาทางวิชาการและทักษะทางการแพทย์ เสริมการเรียนรู้ เพื่อประโยชน์ในการแนะนำแนวทางรักษาที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วย
ศ.นพ.ธไนนิธย์ โชตนภูติ ผู้อำนวยการสถาบันกระดูกและข้อ โรงพยาบาลกลุ่ม PMC ‘พญาไท เปาโล เมดิคอล แคมปัส’ เปิดเผยว่า โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปัจจุบันกลายเป็นโรคยอดฮิตของกลุ่มคนทำงานอายุตั้งแต่ 25–50 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มักใช้งานหลังมากเกินไป และไม่ถูกวิธี เช่น การนั่งทำงานในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน ขับรถระยะทางไกลโดยไม่พัก หรืองานที่ต้องยกของหนักบ่อยๆ จึงไม่ใช่แค่ชาวออฟฟิศเท่านั้นที่เป็นโรคนี้ แต่แทบทุกอาชีพก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน
พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้หมอนรองกระดูกเสื่อมจนเกิดการฉีกขาด ของเหลวที่อยู่ภายในเคลื่อนออกมาทับเส้นประสาท ทำให้เกิดอาการปวดหลัง ร้าวไปตามเส้นประสาทที่ถูกกดทับ นานเข้าจะมีอาการชาและอ่อนแรงร่วมด้วย แม้ว่าผู้ป่วย80% จะหายได้จากการรักษาแบบประคับประคอง เช่น การให้ยา และทำกายภาพบำบัด แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น หรือมีการกดทับขั้นรุนแรงแพทย์จึงจำเป็นต้องแนะนำให้ผ่าตัดเอาส่วนที่เกิดการกดทับออกเป็นวิธีสุดท้าย เมื่อแพทย์แนะนำให้ผ่าตัด ผู้ป่วยมักปฏิเสธการรักษา เนื่องจากในมุมมองของผู้ป่วยการผ่าตัดเป็นเรื่องใหญ่และน่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดกระดูกสันหลังซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงเส้นประสาททั่วร่างกาย
ผศ.นพ.พรภวิษญ์ ศรีภิรมย์ ศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการผ่าตัดกระดูกสันหลัง อธิบายการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอ็นโดสโคป Endoscopic Spinal Surgery เพิ่มเติมว่า เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยลดความเจ็บปวด และยกระดับคุณภาพการรักษาให้กับผู้ป่วย โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดโดยใช้เครื่องมือที่ติดกล้องขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 0.8 เซนติเมตร สอดลงไปยังจุดที่เป็นสาเหตุเพื่อทำการตัดส่วนที่กดทับออกผ่านหน้าจอแสดงผลทำให้มองเห็นความผิดปกติได้ชัดเจน
จึงมีความแม่นยำมากกว่าการผ่าตัดแบบเปิดแผลปกติการผ่าตัดรูปแบบนี้มีโอกาสในการผ่าตัดสำเร็จเพิ่มขึ้นมากถึง กว่า90% นอกจากนี้แผลผ่าตัดยังมีขนาดเล็กมาก ไม่ถึง 1 เซนติเมตร และที่สำคัญคือส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อโดยรอบน้อยมาก จึงไม่จำเป็นต้องมีการให้เลือด ทั้งยังลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว หลังผ่าตัดผู้ป่วยหายปวดทันที 95% สามารถลุกเดินได้เลย และใช้เวลาพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากนี้ การผ่าตัดผ่านกล้องเอ็นโดสโคปยังเหมาะกับผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะกระดูกเสื่อมกดทับเส้นประสาท เนื่องจากผู้สูงอายุมักมีโรคประจำตัว จึงมีข้อจำกัดหลายอย่าง อาทิ บางรายหัวใจ ปอดไม่ดี หากผ่าตัดแบบเปิดแผลอาจมีความเสี่ยงมาก ต้องพยายามหาวิธีการผ่าตัดที่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัวน้อยและฟื้นตัวเร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน การผ่าตัดรูปแบบนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการรักษา
“แม้การผ่าตัดจะประสบความสำเร็จ ผู้ป่วยก็มีโอกาสเกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทซ้ำ หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้ป่วยหลังผ่าตัดต้องระวังเรื่องการใช้หลังเป็นพิเศษ สำหรับใครที่เริ่มมีอาการปวดหลังร้าวลงขา หรือปวดคอร้าวลงแขนควรรีบพบแพทย์ เพราะหากทำการรักษาก่อนที่อาการจะหนักก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด นอกจากนั้นหากปล่อยไว้ เส้นประสาทจะทำงานได้น้อยลง ไปจนถึงตายในที่สุด
ทำให้เกิดอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง ไปจนถึงควบคุมการขับถ่ายไม่ปกติ หากทำการรักษาช้าเกินไป แม้ทำการผ่าตัดเอาส่วนที่กดทับออกก็อาจไม่สามารถกลับมาใช้งานกล้ามเนื้อได้เหมือนเดิม เตือนคนทำงานทุกอาชีพควรระวังการใช้หลัง อย่านั่งหลังค่อม หรือนั่งนานเกินไป ควบคุมน้ำหนักเพื่อไม่ให้เป็นภาระของกระดูกสันหลังในการแบกรับน้ำหนักตัว และที่สำคัญควรออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อสามารถช่วยพยุงกระดูกสันหลังได้ ลดโอกาสการเกิดกระดูกสันหลังเสื่อม” ผศ.นพ.พรภวิษญ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้การผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องเอ็นโดสโคปจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่จะต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ และมีความคุ้นชินกับเครื่องมือ จึงจะได้ผลการรักษาที่ดี และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อย ซึ่งสถาบันกระดูกและข้อของกลุ่ม PMC มีศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องอันดับต้นของประเทศไทย
เป็นหนึ่งในแพทย์ที่เริ่มนำเทคโนโลยีการผ่าตัด Endoscopic Spinal Surgery มาใช้ในการรักษาผู้ป่วยจนเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ ด้วยประสบการณ์การรักษากว่า 12 ปี และผ่าตัดผู้ป่วยมาแล้วมากกว่า 1,000 ราย จึงมั่นใจได้ว่าทีมแพทย์และบุคลากรมีความเข้าใจโรค วินิจฉัยแยกโรคได้อย่างแม่นยำ และเข้าใจทุกความกังวลของผู้ป่วยและญาติ
ขณะที่ นางสาวศิวพร ศรีระเทศ อายุ53 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่เข้ารับการรักษาการผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทผ่านกล้อง แบบ Endoscopic Spinal Surgery กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพขายข้าวไข่เจียว ต้องยืนหน้าเตาเป็นเวลานาน ส่งผลให้ป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นมานานนับปี แรกเริ่มจะมีอาการชา ยืนนานไม่ได้ เมื่อไม่มีเงินไปรักษาอาการก็หนักขึ้นจนปวดร้าวลงขา เดินไม่คล่อง จึงไปรับการรักษาด้วยวิธีนวดและฝังเข็มแต่อาการไม่หายขาด ยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม โชคดีที่แพทย์ประจำตัวได้แนะนำให้เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ โดยมูลนิธิเวชดุสิต ทำให้เหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง หลังได้เข้ารับการผ่าตัด
“ขอบคุณทีมแพทย์จากโรงพยาบาลเปาโล ที่ให้การดูแลอย่างดี ตั้งแต่วันแรกที่มารักษา จากเดิมที่กังวลว่าต้องพักฟื้นนานและกลัวว่าจะเดินไม่ได้ แต่เนื่องจากโรงพยาบาลมีทีมแพทย์และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางทำให้มีความมั่นใจ ว่าตนเองจะหายจากโรคกระดูกทับเส้นประสาทและกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังออกจากโรงพยาบาล ทีมแพทย์ได้แนะนำไม่ให้ยกของหนัก และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจเสี่ยงทำให้เกิดโรคนี้อีกครั้ง” นางสาวศิวพร กล่าว