กระแสสุขภาพในประเทศไทย ยังคงได้รับความสนใจ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อาจจะเล็งเห็นได้ด้วยสายตาว่า มีผู้ออกมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน แบดมินตัน โยคะ วิ่ง เป็นต้น
เรื่องราวเหล่านี้สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่า คนไทยมีสัดส่วนของผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานอยู่เป็นจำนวนมาก หรือราว 32% ของจำนวนประชากร
นั่นจึงทำให้สมรภูมิสุขภาพที่ว่ากันว่าเป็นสมรภูมิปราบเซียน ยังคงมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาปักธงในเมืองไทย โดยล่าสุด Anytime Fitness (เอนี่ไทม์ ฟิตเนส) ได้เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย ที่ อาคารเคี่ยนหงวน ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ หรือด้านหลังของสวนลุมพินี
เท่าที่ได้รับฟังมา ได้เห็นแนวทางการทำธุรกิจที่ศึกษามาเป็นอย่างดี เพราะมีจุดยืนว่าไม่ได้เป็นฟิตเนสที่เน้นความหรูหรา ไม่ได้มีบริการเสริมอื่นๆ อย่างสระว่ายน้ำหรือซาวน่า อีกทั้งยังไม่เลือกทำเลในห้าง เน้นการลงทุนที่ไม่สูงมาก การขยายสาขาก็มุ่งไปตามแหล่งชุมชน สร้างบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง กลุ่มเป้าหมายก็เป็นคนที่อยากออกกำลังเพราะต้องการสุขภาพที่ดี ไม่จำกัดแค่กลุ่มที่ออกกำลังกายเพื่อหุ่นดีแบบนายแบบนางแบบ อย่างที่ฟิตเนสทั่วไปใช้เป็นจุดขาย นั่นหมายถึงทุกคนในครอบครัว ไม่เฉพาะกลุ่มวัยรุ่นหรือคนทำงานในชุมชนเมืองเท่านั้น
“ที่นี่ไม่มีการกดดันว่าต้องยกน้ำหนักมากๆ หรือต้องพยายามทำให้สมาชิกดูเหมือนนายแบบ นางแบบ ทีมงานของเราใส่ใจสมาชิกทุกคนที่เข้ามาใช้บริการอย่างแท้จริง สถานที่ของเรา มีความปลอดภัยและได้มาตรฐานระดับโลก คือสิ่งจูงใจที่ทำให้ผู้คนเข้ามาหาเรา ทว่าสิ่งที่ทำให้คนกลับมาใช้ บริการ คือทีมงาน วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของเรา” มอริซ เลอวีน ผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้ดูแลหลักของ Anytime Fitness ในประเทศไทย กล่าว
ในวันเปิดตัว Anytime Fitness ได้รับเกียรติจาก นายสุวิทย์ คุณกิตติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานพิธี โดยกล่าวย้ำอย่างชัดเจนว่า การออกกำลังกายคือยาที่ใช้รักษาทุกโรค และการที่ประชาชนมีสุขภาพที่ดีก็เป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ อีกทั้งยังได้รับเกียรติจาก ชัค รันยอน ซีอีโอของ Anytime Fitness เข้ามาร่วมงาน
“เรามีความตื่นเต้นที่จะได้เปิดสาขาในเมืองไทยและได้มีส่วนช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นและ ยังได้นำเสนอระบบธุรกิจแฟรนไชส์ที่ปลอดภัยในบรรยากาศที่เป็นมิตร สำหรับชาวไทยที่จะได้ไปสู่การมี สุขภาพที่ดีขึ้น” มอริซ เลอวีน ผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้ดูแลหลักของ Anytime Fitness ในประเทศไทยกล่าว รับประกันเกียรติคุณความยอดเยี่ยมของ Anytime Fitness ด้วยการได้รับรางวัล แฟรนไชส์ยอดเยี่ยม ระดับโลกในปี 2015 และ 2016 จากนิตยสาร Entrepreneur รวมทั้งรางวัล International Franchise of the Year จาก Franchise License Asia ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน” ชัค กล่าว
จากการศึกษาข้อมูลของ Anytime Fitness พบว่า ในประเทศไทยมีจำนวนฟิตเนสที่มีมาตรฐาน 1,241 แห่ง และมีคนไทยเพียง 2% เท่านั้นที่เป็นสมาชิกของฟิตเนส ทำให้มองเห็นถึงโอกาสในการเติบโต โดยตั้งเป้าขยายสาขา 600 แห่ง ภายใน 3 ปี โดยมีจุดขายที่การเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด แอบคิดว่าทางเซเว่นอีเลฟเว่นสามารถพ่วงเปิดสาขาไปพร้อมกันก็ได้เลย และอาจจะมีสโลแกนที่ว่า “อยากได้เหงื่อเมื่อไหร่ก็แวะมา” อะไรทำนองนั้น
เรียกได้ว่าเอาใจคนที่มักจะบอกตัวเองว่า “ไม่มีเวลาออกกำลังกาย” และที่น่าสนใจ ก็เพราะเจ้ากุญแจที่ใช้สำหรับการเข้าใช้บริการในทุกส่วนภายใน Anytime Fitness ยังสามารถนำไปใช้บริการในทุกสาขาทั่วโลก
ได้ยินแล้วก็ทำให้อยากรู้ว่าตลอดระยะเวลา 13 ของการเปิดตัว Anytime Fitness จะมีสมาชิกคนไหนทำสถิติการเข้าใช้บริการสาขาหรือในประเทศต่างๆ ไว้มากที่สุด
เกี่ยวกับ Anytime Fitness
Anytime Fitness คือแฟรนไชส์ฟิตเนสที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก ด้วยสาขามากกว่า 3,600 สาขา ใน 25 ประเทศทั่วโลก ให้บริการสมาชิก 3 ล้านรายครอบคลุมทั้ง 5 ทวีป ครองอันดับ 1 Top Global Franchise จากนิตยสาร Entrepreneur ติดต่อกัน 2 ปีซ้อน เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง 365 วันตลอดทั้งปี Anytime Fitness ภาค ภูมิใจในการเป็นฟิตเนสที่ให้บริการสมาชิกด้วยทางเลือกที่สะดวกสบายรวมทั้งการให้บริการที่เป็นมิตร และการให้บริการ แบบส่วนตัว ในสถานที่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งอุปกรณ์ออกกำลัง กายระดับชั้นนำ
ปัจจุบัน Anytime Fitness มีสาขาครบทั้ง 50 รัฐในอเมริกา แคนาดา, เม็กซิโก, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, อังกฤษ, สก็อตแลนด์, ไอร์แลนด์, แกรนด์ เคย์แมน, โปแลนด์, เนเธอร์แลนด์, สเปน, กาตาร์, อินเดีย, ชิลี, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฮ่องกง, จีน, ไต้หวัน, เบลเยียม, ฟิลิปปินส์, อิตาลี และสวีเดน