เช้าวันใหม่ที่ศรีลังกาเต็มไปด้วยความสดชื่น เราพบเห็นเด็กนักเรียนในชุดสีขาวล้วน บ่งบอกความสดใสบริสุทธิ์ของเด็กน้อยผู้มีนัยน์ตาคมเข้มเป็นเอกลักษณ์
วันนี้เรามุ่งหน้าสู่เมืองมิริสซ่า (Mirissa) ทางตอนใต้สุดของศรีลังกา เป็นเมืองทะเลที่มีความโดดเด่นทางด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากมีจุดชมวาฬและโลมาเป็นจุดขาย แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความโชคดีของแต่ละคน เช่นในครั้งนี้ เราต้องฝ่าคลื่นลมที่ค่อนข้างแรงจนเกิดเป็น “แก๊งขอถุง” ประจำทริป ส่วนใหญ่เป็นสาวๆ ที่เลือกที่นั่งชั้นบนของเรือ ซึ่งมีความโคลงเคลงมาก ใครที่ไหวตัวทันแล้วลงมาหลบมุมด้านล่าง ก็โบกมือลาความทรมานนั้นไปได้เลย
จุดชมโลมาต้องออกเรือไปค่อนข้างไกล เราใช้ชีวิตภายในเรืออย่างผู้มีความหวังอยู่ราว 3-4 ชั่วโมง เด็กเรือคอยตะโกนให้เตรียมตัวเป็นระยะ โลมาค่อนข้างแวบไปแวบมาอย่างรวดเร็ว แต่ก็นับว่าคุ้มค่ากับการได้เจอกัน ส่วนวาฬสีน้ำเงินอันเป็นไฮไลท์ พบเห็นค่อนข้างไกลจากเรือ กว่าสายตาจะโฟกัสหาเจอก็หายไป ต้องรออีก 15-20 นาทีมันจึงจะขึ้นมาโชว์ตัวอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่จุดเดิมอีกแล้ว เป็นการเล่นตัวของผู้ที่เพิ่งได้พบเจอกัน หวังว่าเมื่อได้รู้จักกันแล้ว โอกาสหน้าคงได้ใกล้ชิดกันมากกว่านี้
กลับเข้าชายฝั่งด้วยสภาพสะบักสะบอมของบางคนที่เมาเรืออย่างหนัก ขณะที่หลายคนยังยิ้มเริงร่า ใครได้รูปโลมาสวยๆ มาก็จะหน้าบานหน่อย นักท่องเที่ยวผมทองตรงดิ่งเข้ามาสอบถามถึงวาฬ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงเรือไปเที่ยวชม อธิบายได้ยาก เพราะเป้าหมายของเราไม่ได้จำกัดแค่นั้น
แค่ได้มาสัมผัสทะเลไกลบ้าน แถมวันนี้ยังได้เห็นทะเลสองสี ได้พบเจอกลุ่มชาวประมงกับวิธีการจับปลาแปลกๆ ได้มองเห็นสีสันของเรือ ซึ่งเป็นเฉดสีที่ไม่เหมือนบ้านเรา ได้พบกับเด็กเรือผู้กระตือรือร้นคอยลุ้นไปกับเราอย่างไม่มีเบื่อหน่าย…. ได้กินสับปะรดบนเรือที่เชื่อว่าทุกคนต้องชื่นใจสุดๆ
กลับมาชายฝั่ง นั่งตุ๊กๆ ไปกินข้าวเที่ยงที่ Beachmirissa บรรยากาศดี มีความสด สวย สะอาดตา และเป็นอีกเป้าหมายของนักโต้คลื่น แถมมื้อเที่ยงวันนี้ยังถูกใจชาวคณะแบบสุดๆ
เป็นครึ่งวันที่เล่าได้อีกยาว แต่เป้าหมายข้างหน้าก็ยังมีอีกยาวไกลเช่นกัน
ขอขอบคุณ ทริป “Journey to Sri Lanka with KTC” สนใจท่องเที่ยวศรีลังกากับเคทีซี ติดต่อ www.ktcworld.co.th KTC World Travel Service โทร. 02 123 5050