ทีเอ็มบีแจ้งความคืบหน้าการรวมกิจการกับธนาคารธนชาตล่าสุด ธุรกรรมการขาย TFUND 25.1% ให้กับ Prudential เสร็จสิ้นเรียบร้อยตามแผนที่วางไว้ ตอกย้ำการให้บริการด้านกองทุนรวมแบบ Open Architecture
ตามที่ทีเอ็มบีได้เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 ว่าธนาคารธนชาตและธนาคารออมสินซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบลจ.ธนชาต ในสัดส่วน 75% และ 25% ตามลำดับ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นบลจ.ธนชาตกับบริษัท พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น โฮลดิ้งส์ (Prudential) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ (โดยอ้อม) ของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (สิงคโปร์) ทีเอ็มบีแจ้งว่าในวันนี้ ธนาคารธนชาตและธนาคารออมสินได้ขายหุ้นในสัดส่วน 25.1% (จากสัดส่วนที่ถืออยู่ทั้งหมดร้อยละ 75) และ 25% ตามลำดับ ให้กับ Prudential เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีมูลค่าธุรกรรมรวมไม่ต่ำกว่า 8.4 พันล้านบาท
พร้อมกันนี้ ธนาคารธนชาตและ Prudential ได้เข้าทำสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น โดยภายใต้สัญญาดังกล่าว ธนาคารธนชาตมีสิทธิที่จะเลือกขายหุ้นในบลจ.ธนชาต ในส่วนที่ตนถืออยู่ที่เหลือในสัดส่วน 49.9% (หรือ บลจ.ที่เกิดขึ้นจากการรวมกิจการ) ให้แก่ Prudential ในอนาคตตามข้อตกลงที่ได้กำหนดไว้ภายใต้สัญญาดังกล่าว ทั้งนี้คาดว่าการขายหุ้นที่เหลือดังกล่าวจะเกิดขึ้นใน 5 ปีข้างหน้า
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า “ธุรกรรมดังกล่าวตอกย้ำจุดยืนของธนาคารใหม่ในการให้บริการด้านกองทุนรวมแบบ Open Architecture ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการที่ธนาคารสามารถนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”
“สำหรับทีเอ็มบีนั้น ปัจจุบันมีสัดส่วนการถือหุ้นใน บลจ.ทหารไทย (TMBAM Eastspring) 35% ซึ่งหลังจากเข้าซื้อหุ้นธนาคารธนชาต ทีเอ็มบีก็จะถือหุ้นบลจ.ธนชาต 49.9% โดยอ้อม โดยทั้งทีเอ็มบีและอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (สิงคโปร์) ได้มีการวางแผนที่จะรวมกิจการของ 2 บลจ. ระหว่างบลจ.ทหารไทย (TMBAM Eastspring) และบลจ. ธนชาตเข้าด้วยกันภายในปี 2564 และภายใน 5 ปี ทีเอ็มบีสามารถดำเนินการขายหุ้นที่ถืออยู่ในทั้ง 2 บลจ. ให้กับ Prudential เน้นย้ำจุดยืนและกลยุทธ์การให้บริการด้านกองทุนรวมแบบ Open Architecture”
ทั้งนี้ สำหรับการขายหุ้นของธนาคารธนชาตในส่วนแรก 25.1% จำนวน 2.1 พันล้านบาท ทีเอ็มบีจะมีการบันทึกรายการขายดังกล่าวจากธนาคารธนชาตซึ่งเป็นบริษัทย่อย ในงบการเงินรวมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2562
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวว่า “การรวม 2 บลจ. ครั้งนี้ คาดว่าจะใช้เวลาแล้วเสร็จภายในปี 2564 ในระหว่างนี้ลูกค้าของทั้ง 2 บลจ. ยังสามารถถือครองผลิตภัณฑ์กองทุนรวม และทำธุรกรรมได้ตามปกติ โดยปัจจุบันทีเอ็มบีได้นำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนรวมจาก 11 บลจ. รวมทั้งผลิตภัณฑ์ของบลจ.ธนชาตผ่านช่องทางการขายของธนาคาร โดยการรวมกันในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการและนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า และในส่วนของการรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนาคารธนชาตก็จะแล้วเสร็จภายในปี 2564 เช่นกัน ซึ่งลูกค้าของทีเอ็มบีและธนาคารธนชาตก็ยังสามารถใช้บริการด้านการลงทุน บริการต่างๆ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของทั้งสองธนาคารในทุกๆ ช่องทางได้ตามปกติ”