“มั่นคงฯ” จับมือ “ไดกิ้น” เตรียมมอบเครื่องปรับอากาศดักจับฝุ่น PM2.5

10

เป็นปัญหาหนักปอดคนไทยจนน่าเป็นห่วง สำหรับฝุ่น PM2.5 “มั่นคงเคหะการ” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขาย เพื่อเช่าและเพื่อการบริการ เล็งเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพและเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค เดินหน้าตอกย้ำแนวคิด “Well-being” เต็มสูบ จับมือ “สยามไดกิ้นเซลส์” เตรียมมอบโปรโมชั่นของแถมสุดพิเศษ เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ ที่โดดเด่นด้วยคุณสมบัติพิเศษ สามารถช่วยดักจับฝุ่น PM2.5 เริ่มปักหมุดติดตั้งสำหรับลูกค้าที่ซื้อโครงการภายใต้แบรนด์ “ชวนชื่น” บนทำเลศักยภาพ 12 โครงการ ตั้งแต่ 20 กุมภาพันธ์นี้

นายศักดินา แม้นเลิศ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารโครงการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า ฝุ่น PM2.5 กำลังเป็นปัญหาสำคัญที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างให้ความสำคัญ อีกทั้งช่วยกันรณรงค์ทั้งหาวิธีป้องกัน รวมถึงแนวทางการลดปริมาณฝุ่น เพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยทั้งประเทศ มั่นคงฯ ในฐานะผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “Well-being” การเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย ที่สามารถตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและมีความสุข เล็งเห็นถึงความสำคัญเรื่องคุณภาพอากาศที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของผู้พักอาศัยทุกเพศทุกวัย และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่ให้ความใส่ใจด้านสุขภาพเป็นสำคัญ ล่าสุดจึงได้จับมือกับ สยามไดกิ้นเซลส์ ผู้นำด้านระบบปรับอากาศแบรนด์ “ไดกิ้น” มอบโปรโมชั่นของแถมสุดเศษเครื่องปรับอากาศอินเวอร์เตอร์ที่มีระบบกรอง PM2.5 ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อโครงการบ้าน “ชวนชื่น” พร้อมโอนฯ ทั้ง บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด และทาวน์โฮม จำนวน 12 โครงการบนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ

“เราจะใส่ใจทุกรายละเอียดและพร้อมพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อช่วยในเรื่องของสุขภาวะที่ดีของ ผู้อยู่อาศัย ซึ่งปัญหาใหญ่สุดตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องฝุ่น PM2.5 บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับ สยามไดกิ้นเซลส์ นำเครื่องปรับอากาศ “ไดกิ้น” ที่ผ่านการทดสอบว่าสามารถช่วยลดระดับฝุ่น PM2.5 มาติดตั้งให้แก่ลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการต่างๆ ของ มั่นคงฯ ซึ่ง “สยามไดกิ้นเซลส์” นับเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีที่เราไว้วางใจและเลือกใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นผู้ประกอบเจ้าแรกที่มีการนำเครื่องปรับอากาศติดตั้งฟิลเตอร์ PM2.5 มาทดสอบกับสถาบันที่น่าเชื่อถือภายในประเทศไทย และลดระดับจากอันตรายมาก เหลือระดับปลอดภัยดีได้ภายใน 190 นาที โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยติดตั้งตามโครงการต่างๆ เริ่มตั้งแต่ 20 กุมภาพันธ์ นี้”

“บริษัทฯ มั่นใจว่าจากนโยบายดังกล่าวจะยิ่งช่วยตอกย้ำภาพผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ให้ความสำคัญ พัฒนาต่อยอด เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้าและบริการ ตอกย้ำแนวคิด “สุขภาวะที่ดี” หรือ “Well-being” ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น” นายศักดินา กล่าว

ด้าน นายบัณฑิต ศรีวัลลภานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลล์ จำกัด  ผู้นำด้านระบบปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัยและการพาณิชย์ที่คนทั่วโลกไว้วางใจ เผยว่า ไดกิ้น ได้ร่วมมือกับภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นำเครื่องปรับอากาศ ไดกิ้นที่มีการติดฟิลเตอร์ PM2.5 ไปทดสอบประสิทธิภาพโดยทดสอบปล่อยฝุ่น PM2.5 ในห้องที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศไดกิ้น ซึ่งสามารถลดระดับ PM2.5 ในห้องขนาด 26 ลูกบาศก์เมตร จากระดับเป็นอันตรายมาก ลดลงเหลือระดับปลอดภัยดีได้ภายใน 190 นาที ซึ่งผลที่ได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ

อีกทั้งยังเป็นเจ้าแรกที่มีการนำเครื่องปรับอากาศติดตั้งฟิลเตอร์ PM2.5 ไปทดสอบกับสถาบันที่น่าเชื่อถือภายในประเทศไทย ทั้งนี้ไดกิ้นจะมีการติดตั้งฟิลเตอร์ PM2.5 เข้าไปในเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ที่จะขายในปี 2563 นี้ ประกอบกับไดกิ้นยังเป็นเครื่องปรับอากาศแบรนด์แรกที่ใช้ระบบอินเวอร์เตอร์ ตอบโจทย์การใช้งานผู้ใช้ตามฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ใหม่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่ได้เริ่มประกาศใช้เมื่อต้นปี 2562 ที่ผ่านมาครบทุกรุ่น

ทั้งนี้เครื่องฟอกอากาศด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง Flash streamer ลิขสิทธิ์เฉพาะไดกิ้น และ Active Plasma Ion ที่สามารถยับยั้งเชื้อโรคทั้งภายนอกและภายใน เสริมด้วยแผ่นกรองฝุ่นไฟฟ้าสถิต ดักจับฝุ่นขนาดเล็ก 2.5 ไมครอนได้ถึง 99% และแผ่นกรองคาร์บอนระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์ มีเซ็นเซอร์วัดฝุ่นขนาด PM2.5 และฝุ่นขนาดใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการขั้นสูงสุดสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพอีกด้วย

“ความร่วมมือกับทาง “มั่นคงฯ” ครั้งนี้ นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้ผู้บริโภคห่างไกลฝุ่น PM2.5 และยังสร้างความปลอดภัยจากฝุ่นดังกล่าวแม้แต่ขณะที่พักอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง ซึ่งจากความร่วมมือดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธสำคัญในการรุกขยายตลาดของเรามากยิ่งขึ้น” นายบัณฑิต กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการบ้านภายในเครือ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.mk.co.th หรือ โทร.1622