โรลส์-รอยซ์ฉลองครบรอบ 25 ปีเครื่องยนต์เทรนท์ และแผนสำหรับอนาคต

16

ปีนี้สำหรับโรลส์-รอยซ์ เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองความสำเร็จของเครื่องยนต์ตระกูลหนึ่งที่พลิกโฉมการเดินทางของมนุษยชาติ – เครื่องยนต์ที่มาพร้อมความแข็งแกร่งทนทานและวางใจได้ ทำให้สายการบินทั่วโลกสามารถสร้างมาตรฐานให้กับบริการใหม่ ๆ ขึ้น

เมื่อยี่สิบห้าปีที่แล้ว – ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2538 – เครื่องยนต์เทรนท์เครื่องแรกได้ถูกติดตั้งในเครื่องบินแอร์บัส A330 ลำแรก และได้ทำการบินเพื่อส่งมอบให้กับสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิกในฮ่องกง นับแต่นั้นมา เทรนท์ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวแห่งความสำเร็จด้านการบินระดับโลก

เรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 25 ปี ของเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์:
• มีชั่วโมงบินรวมกว่า 145 ล้านชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับการเดินทางจากโลกไป-กลับดวงอาทิตย์ถึง 390 รอบ
• ขนส่งผู้โดยสารประมาณ 3.5 พันล้านคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดพักผ่อน หรือทริปสำหรับธุรกิจ และไปจนถึงภารกิจปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม
• ได้รับการสนับสนุนรับรองจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีผู้ใช้เครื่องยนต์เทรนท์ 132 รายทั่วโลก
• เปลี่ยนโฉมให้กับธุรกิจของโรลส์-รอยซ์จากที่มีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องบินลำตัวกว้างด้วยตัวเลขเพียงหลักเดียว ทะยานสูงไป จนวันนี้เกือบจะทุก ๆ 1 ใน 2 ลำของเครื่องบินลำตัวกว้างจะติดตั้งและบินด้วยเครื่องยนต์เทรนท์
• ปีที่แล้ว เครื่องบิน Aeroflot A330 ที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์เทรนท์ 700 ได้ถูกบันทึกสถิติโลกด้านชั่วโมงบินต่อเนื่องโดยทำการบินได้ถึง 50,000 ชั่วโมงโดยไม่ต้องยกเครื่องหรือซ่อมแซมครั้งใหญ่

เครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์ทั้งเจ็ดรุ่นประกอบด้วยเทรนท์ 500, เทรนท์ 700, เทรนท์ 800, เทรนท์ 1000, เทรนท์ XWB และเทรนท์ 7000 โดยแต่ละรุ่นเป็นผู้นำตลาดสำหรับเครื่องบินที่ออกแบบมารองรับโดยเฉพาะ หรือเป็นเครื่องยนต์แรกที่ใช้กับเครื่องบินรุ่นนั้น ๆ หรือในบางกรณีก็เป็นทั้งสองอย่างที่กล่าวมา

เดือนนี้เป็นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของการส่งมอบเครื่องยนต์เทรนท์เครื่องแรก ซึ่งจริง ๆ แล้วยังนับว่าไม่ถึงครึ่งของเรื่องเทรนท์ด้วยซ้ำ เพราะยังมีการผลิตเครื่องยนต์เทรนท์อย่างต่อเนื่องตามความต้องการของตลาด เมื่อสิบปีที่แล้วมีเครื่องยนต์เทรนท์ 1,500 เครื่องให้บริการ และตัวเลขในวันนี้ก็มากกว่า 4,000 เครื่องแล้ว และในเวลาอีกสิบปีจะเพิ่มจำนวนไปอยู่ที่ประมาณ 7,500 เครื่อง เครื่องยนต์เทรนท์ผลิตในสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ และเยอรมนี พร้อมรองรับและทำการบินต่อไปอีกหลายทศวรรษ

คริส โชเลอร์ตัน ประธาน – ฝ่ายการบินพาณิชย์ของโรลส์-รอยซ์ กล่าวว่า “ผมขอขอบคุณลูกค้าและพันธมิตรของเราทุกรายที่ให้ความมั่นใจและวางใจในเครื่องยนต์เทรนท์มาโดยตลอด และใช้เครื่องของเราในการสนับสนุนเครือข่ายการบินทั่วโลก ซึ่งเครือข่ายนี้เองเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารมากมายได้รับประสบการณ์การเดินทาง เปิดโลกที่น่าเหลือเชื่อ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราต้องฝ่าฟันอุปสรรคและความท้าทายนานัปการจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ และเรายังคงมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดการกับปัญหาใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์จะยังคงความโดดเด่นและเป็นผลิตภัณฑ์แห่งคุณภาพต่อไป

“เครื่องยนต์เทรนท์ถูกสร้างขึ้นด้วยความมานะ บากบั่น ไม่ย่อท้อในการเป็นผู้บุกเบิก – เพื่อทำให้เครื่องยนต์ของเรามีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทำให้เราค้นพบวิธีการใหม่ ๆ ในการทำการบินที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และจิตวิญญาณนั้นจะยังคงปรากฎอยู่ในโครงการรุ่นต่อ ๆ ไปของเรา เช่น เครื่องยนต์สาธิต UltraFan® และโปรเจกต์ด้านการพัฒนาระบบไฟฟ้าของเรา”

มีการสั่งซื้อเครื่องยนต์เทรนท์อีกหลายพันเครื่องในช่วงทศวรรษที่กำลังจะมาถึงและโรลส์-รอยซ์พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ความต้องการด้านการบริการซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามจำนวนฝูงบินที่เพิ่มขึ้น โรลส์-รอยซ์จึงตอบสนองความต้องการนี้ด้วยการขยายเครือข่ายบริการไปทั่วโลก

ในขณะเดียวกัน โรลส์-รอยซ์ได้จัดตั้งเครือข่ายศูนย์บริการลูกค้า (Customer Service Centres -CSCs) ซึ่งพัฒนามาเพื่อให้บริษัทมีความใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น แบ่งปันประสบการณ์การทำงานกับลูกค้าของเรา และเข้าใจถึงความต้องการด้านการบริการของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น ศูนย์ CSCs ได้จัดตั้งขึ้นในทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง ทวีปอเมริกา ยุโรปและจีน เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการตอบสนองความต้องการของลูกค้า

บริษัทยังมีการลงทุนในเรื่องเทสต์เบดหรือสถานที่ทดสอบใหม่เพื่อปรับปรุงปริมาณงานและคุณภาพของเครื่องยนต์ โดยสร้าง Testbed 80 ที่เมืองดาร์บี้ สหราชอาณาจักร ให้เป็นเทสต์เบดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีเนื้อที่กว้างขวางถึง 7,500 ตารางเมตร และจะเริ่มใช้กับเครื่องยนต์เทรนท์ในปีนี้

ภายในปี 2564 เทสต์เบดแห่งนี้จะมีบทบาทสำคัญต่อโลกการบินยิ่งกว่าเรื่องเครื่องยนต์เทรนท์ ตามแผนงานที่โรลส์-รอยซ์ได้กำหนดไว้แล้วจะมีการทดสอบเครื่องยนต์สาธิต UltraFan ณ ที่นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาที่จะส่งผลให้ต่อการบริการในช่วงปลายทศวรรษนี้ โดยมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิงลงถึงร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เทรนท์รุ่นแรก ๆ

เกี่ยวกับโรลส์-รอยซ์
1. โรลส์-รอยซ์เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีที่นำเสนอโซลูชั่นที่สะอาด ปลอดภัยและแข่งขันได้ เพื่อตอบสนองความต้องการในพลังงานที่สำคัญในโลก
2. โรลส์-รอยซ์ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 150 ประเทศ ประกอบด้วยสายการบินมากกว่า 400 แห่งรวมลูกค้าประเภทเช่า กองทัพ 160 แห่ง กองทัพเรือ 70 แห่ง และลูกค้า ด้านพลังงานและนิวเคลียร์อีกมากกว่า 5,000 ราย
3. ในปี 2561 รายได้พื้นฐานของโรลส์-รอยซ์อยู่ที่ 15,000 ล้านปอนดโดยรายได้ประมาณครึ่งหนึ่งมาจากการให้บริการหลังการขาย
4. ในปี 2561 โรลส์-รอยซ์ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาไป 1.4 พันล้านปอนด์ นอกจากนี้เรายังให้การสนับสนุนเครือข่ายระดับโลกของศูนย์พัฒนาเทคโนโลยีประจำมหาวิทยาลัย จำนวน 29 แห่ง ซึ่งส่งผลให้วิศวกรของโรลส์-รอยซ์ ก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแนวหน้าในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
5. กลุ่มธุรกิจของโรลส์-รอยซ์มีความมุ่งมั่นในการฝึกงานและรับสมัครบัณฑิตใหม่ และพร้อมที่จะพัฒนาทักษะต่างๆ ให้กับพนักงานต่อไป