จนท.สธ.ลั่นเผยใครสงสัยเรื่องไวรัสโคโรนา กับการแพร่ระบาดในประเทศไทยอยากถามปลัดฯ ให้ไปทำหนังสือมาตามระบบราชการ หลังเกิดคำถามเกี่ยวกับแพร่ระบาดของไวรัสในช่วงฤดูร้อน ขณะที่ “เสี่ยหนู”รมว.สธ.ประกาศเป็นโรคติดต่ออันตราย ใช้คุ้มครองประชาชน หลังเกิดกรณีผู้ติดเชื้อจากญี่ปุ่นปกปิดรายละเอียด
เพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน และกำลังเข้าสู่ฤดูร้อนในช่วงเดือนมีนาคม –เมษายน หลายฝ่ายเกิดความข้องใจสงสัยเกี่ยวกับ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVD-19) ที่จะสามารถทานทนต่อสภาพอากาศของประเทศไทยได้มากน้อยเพียงใด และมีผลต่อการแพร่ระบาดมากขึ้นหรือน้อยลงหรือไม่อย่างไร? เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดของหลายๆ ประเทศที่ส่วนใหญ่มีสภาพอากาศค่อนข้างชื้นและเย็น โดยเฉพาะในประเทศจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งกำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในขณะนี้
โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทย ที่กำลังอยู่ในระยะที่ 2 กับการเตรียมพร้อมเฝ้าระวังของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจสร้างความสับสนใจด้านข้อมูล และกลายเป็นความตระหนกของประชาชน เกี่ยวกับการแพร่ระบาดในประเทศไทย
เกี่ยวกับการสอบถามข้อมูลในเรื่องของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ กับการแพร่ระบาดในประเทศไทย ไปยัง “สำนักสารนิเทศกระทรวงสาธารณสุข” เพื่อรอคอยคำตอบจาก นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งน่าจะมีข้อมูลในเรื่องนี้และอาจจะเป็นข้อมูลที่สามารถสร้างความกระจ่าง และหยุดความตื่นตระหนกในเรื่องการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นี้ได้
โดยการแนะนำจากเจ้าหน้าที่สำนักปลัดให้สอบถามไปยัง “สำนักสารนิเทศฯ” และได้รับคำตอบว่า “เรื่องนี้ หากจะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา และการแพร่ระบาดในช่วงฤดูร้อน และเป็นตัวปลัดฯ โดยตรงก็ต้องสอบถามผ่านการทำหนังสือ ตามระบบราชการ ซึ่งทางปลัดฯ ไม่มีหมายแถลงข่าว หรือ การให้ข้อมูลในเรื่องนี้ในเวลานี้”
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสล่าสุดในประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า “ขณะนี้ประเทศไทยยังอยู่ในระยะที่ 2 ยังไม่เกิดการระบาดในประเทศ ไม่มีผู้ป่วย Super Spreader มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 24 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 16 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 40 รายจำแนกเป็นผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศ(Index case)หรือผู้ป่วยรายแรกๆในระบบรายงานจำนวน 26 ราย และผู้ป่วยในกลุ่มสัมผัสใกล้ชิด (High Risk contact) จำนวน 14 ราย
กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตราย ใช้เป็นเครื่องมือคุ้มครองประชาชนและสังคม เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจตามกฎหมาย ทำให้ตรวจพบได้เร็วขึ้น เช่น ผู้ป่วยรายใหม่และครอบครัว ที่ค้นพบหลังกลับจากเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เตรียมบังคับใช้กฎหมายหลังพบผู้ปกปิดประวัติการเดินทาง และสั่งไม่ให้ผู้มีความเสี่ยงเข้าเมือง เช่น การส่งกลับผู้เดินทาง 2 ราย ที่มาจาก Diamond princess ทั้งนี้ เพื่อควบคุมการระบาด ด้วยมาตรการขั้นสูงสุด หลังพบผู้ป่วยที่กลับจากญี่ปุ่น
ทั้งนี้กระทรวงได้เข้มมาตรการคัดกรองผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง ทั้งขยายประเทศเสี่ยง พื้นที่เสี่ยง และกลุ่มเป้าหมาย โดยขอความร่วมมือประชาชน งดเที่ยวงดเดินทางไปยังพื้นที่ระบาดของโรคต่อเนื่อง หากจำเป็นต้องไป ขอให้ระมัดระวังตัว หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย หากกลับมาให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หากมีไข้ ไอ ให้รีบพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง อย่ากลัวที่จะบอกหมอว่าเดินทางมาจากประเทศเสี่ยง จะเป็นผลดีต่อผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยรักษาโรคได้รวดเร็ว