‘โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล’ สวนกระแสระดม ขยายตลาดเครื่องสำอางค์

81

แม้ที่ผ่านโรคระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจความงาม หลายค่ายประสบปัญหาขาดทุน ขอฟื้นฟูกิจการ แต่บริษัทโรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพแบรนด์ไทย ขอยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 166 ล้านหุ้น รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพของไทยและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ยังได้แต่งตั้ง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชูจุดแข็งด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมสินค้าคุณภาพสูง ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยและขยายสู่ภูมิภาคเอเชีย ผ่านแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งและหลากหลาย (Brand Portfolio) ได้แก่ Rojukiss, PhDerma, Best Korea และ Sis2Sis ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง และมีช่องทางจำหน่ายที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ

วรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ โดยบริษัทฯ มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า (Facial Moisturizer) ของประเทศไทยในปี 2562 เทียบกับกลุ่มบริษัทที่ก่อตั้งและบริหารงานโดยคนไทย* มีวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านความงามและสุขภาพแห่งอนาคตของเอเชีย โดยการพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเป็นนวัตกรรมที่มีคุณภาพสูง มีความโดดเด่น แตกต่าง ใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ชัดเจน คุ้มค่า ปลอดภัย และผู้บริโภคทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย (Beauty Convenience) พร้อมเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและหลากหลาย (Brand Portfolio) ภายใต้ 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ Rojukiss (โรจูคิส), PhDerma (พีเอชเดอร์มา), Best Korea (เบสท์ โคเรีย) และ Sis2Sis (ซิสทูซิส)

จุดแข็งของบริษัท คือ การมีระบบบริหารจัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพและมีประสิทธิภาพเหมือนบริษัทสากลขนาดใหญ่ แต่มีความยืดหยุ่นคล่องตัวเหมือนบริษัทท้องถิ่นขนาดเล็ก ภายใต้ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจสินค้าความงามในระดับนานาชาติ มีระบบการบริหารจัดการต้นทุนผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ และมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญและน่าเชื่อถือสูง

“ทั้งหมดนี้จึงช่วยสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา (2560 – 2562) บริษัทฯ ได้พัฒนาสินค้าใหม่กว่า 80 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นส่วนผลักดันที่สำคัญให้บริษัทฯ มีรายได้รวมถึง 1,140.6 ล้านบาทในปี 2562 และส่งผลให้ Rojukiss เป็นแบรนด์เซรั่มบำรุงผิวหน้าที่มียอดขายเป็นอันดับ 1” วรวรรณ กล่าว

สำหรับกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. ธุรกิจพัฒนา จ้างผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพ จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ประกอบด้วย กลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ และร้านค้าทั่วไป ขณะที่ช่องทางขายต่างประเทศ บริษัทฯ ดำเนินการผ่านตัวแทนจัดจำหน่ายสินค้าที่บริษัทฯ แต่งตั้งขึ้นในประเทศ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชา และมีแผนที่จะขยายตลาดใหม่เพิ่มเติมต่อไป 2. ธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการพัฒนาธุรกิจ การตลาดและการขาย แก่พันธมิตรผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ในต่างประเทศ

บริษัทตั้งเป้า กว้าเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรมความงามและสุขภาพที่ดีที่สุด ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ผ่านกลยุทธ์การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อผู้บริโภคที่แตกต่างและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกและความคุ้มค่า โดยนำจุดแข็งด้านการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อขยายธุรกิจให้ครอบคลุมสินค้ากลุ่มความงามและสุขภาพอย่างครบวงจร ภายใต้การสร้างแบรนด์ต่างๆ ของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งและพัฒนาแบรนด์ใหม่ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและสุขภาพเพิ่มเติม รวมถึงขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย

ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 309 ล้านบาท แบ่งเป็น 618 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยเป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 270 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 166 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็นไม่เกิน 27.7% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยแบ่งการขายเป็น (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 60,000,000 หุ้น (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จำนวนไม่เกิน 106,000,000 หุ้น เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ ขยายธุรกิจในต่างประเทศ ลงทุนและพัฒนาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล รวมถึงการลงทุนควบรวม ซื้อกิจการ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไป