ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำกว่า 7 ล้านไร่ในจังหวัดชัยภูมิ ทำให้มีสภาพที่ชุ่มชื่นตลอดทั้งปี ซึ่งนอกจากฝนที่ตกตามฤดูกาลแล้ว ชัยภูมิยังมีลักษณะของ “ฝนหยาด” ในช่วงกลางคืนซึ่งเกิดจากธรรมชาติ แม้จะอยู่ในช่วงเมษาหน้าร้อน ป่าชัยภูมิก็ยังมีสภาพชุมเย็น
นักเดินป่ารู้จักชัยภูมิจากสภาพผืนป่าที่มีความชุ่มชื้น ขณะที่คนทั่วไปมักจะรู้จักชัยภูมิในนามของดินแดนแห่งป่าสายฝน เพราะในช่วงปลายมิถุนายนถึงสิงหาคมของทุกปี พืชพรรณแห่งฤดูกาลจะบานสะพรั่ง เป็นทุ่งดอกกระเจียวสีหวานแทรกตัวขึ้นมาท่ามกลางทุ่งหญ้าในป่าใหญ่
เป้าหมายของคนตื่นเช้าคือการก้าวลุกจากที่นอนตั้งแต่ก่อนตีห้า มุ่งตรงไปปักหลักยัง อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เพื่อเฝ้ารอแสงแรกแห่งวันที่จะส่องสีสันของหมอกจางให้เห็น แต่ธรรมชาติก็ไม่ได้สัญญาว่าจะเปิดฉากรับอรุณแบบเดียวกันทุกวัน แต่ที่รับรู้โดยทั่วกันคือ ความชุ่มใจสบายตาจากทัศนียภาพอันอุดมสมบูรณ์
สำหรับคนที่บอกว่าขอเวลาอุ้ยอ้ายอยู่ในผ้าห่มอีกหน่อย ก็สามารถเข้าชมทุ่งดอกกระเจียวกันในช่วงสาย หรือจะลากยาวไปถึงช่วงบ่ายถึงเย็นก่อนอุทยานจะปิดทำการก็ได้บรรยากาศที่แตกต่างกันไป รอบนี้เราเข้ามาที่อุทยานป่าหินงามประมาณ 10.00 น. นับเป็นโชคดีของหน้าฝน ที่อากาศยังครึ้มเย็นสบาย
พื้นที่ใน อช.ป่าหินงาม เป็นเทือกเขาที่มีความสูงประมาณ 200 – 800 เมตร ทางธรณีวิทยาของพื้นที่เป็นหมวดหินภูพานหมวดหินพระวิหาร และหมวดหินภูกระดึง หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นมา ภายใต้รูปแบบ New Normal พร้อมจำกัดจำนวนผู้เข้าชม ซึ่งนักท่องเที่ยวควรติดต่อสอบถามล่วงหน้าก่อนการเดินทาง
เขตอุทยานมีค่าเข้าชมคนละ 40 บาทสำหรับผู้ใหญ่ เด็ก 20 บาท ค่าจอดรถยนต์ 30 บาท ภายในมีบริการรถรางให้บริการคนละ 30 บาท เพิ่มความสะดวกในการเดินทางไปตามจุดต่าง ๆ วันนี้เรานั่งรถรางไปเริ่มต้นกันที่ผาสุดแผ่นดิน ชมความงามของเนินผาซึ่งคลาคร่ำไปด้วยผู้คนในช่วงวันหยุด แล้วเดินเท้าต่อไปยังส่วนของทุ่งดอกกระเจียว ระยะทางรวมประมาณ 1 กิโลเมตร โดยจะมีสะพานไม้ทอดยาวคดเคี้ยวไปในผืนป่า เพื่อไม่เป็นการรบกวนเจ้าหญิงน้อยที่กำลังอวดสีสันในช่วงก่อนเที่ยงที่สภาพอากาศกำลังดี
ในช่วงปลายสิงหาที่เราได้เดินทางมานี้ จำนวนความหนาแน่นของดอกกระเจียวเริ่มบางตา แต่ด้วยสภาพของทุ่งหญ้าเขียวสด เมื่อมีสีชมพูอมม่วงมาแซมอยู่อย่างพอเหมาะ ก็เป็นภาพที่งามไปอีกแบบ ย้ำอีกครั้งว่า จะใช้เวลาอยู่ในทุ่งนานเท่าไหร่ก็ไม่มีใครว่า ขออย่าให้อยู่กันแต่บนสะพาน ห้ามหยิบจับขยับดอกใบโดยเด็ดขาด
ใช้เวลากันพอสมควรแล้ว เมื่อออกจากทุ่งกระเจียวก็จะมีจุดขึ้นรถรางเพื่อเดินทางไปยังป่าหินงาม ซึ่งมีกลุ่มหินลักษณะต่าง ๆ ให้เดินเยี่ยมชมกันอย่างจุใจ จากนั้นก็ใช้บริการรถรางกลับมายังลานจอดรถ นับเป็นอุทยานที่ใช้เวลาเที่ยวชมไม่นาน แต่หลายคนที่มาแล้วก็อยากจะอยู่นาน ๆ เพราะทั้งสวยและอากาศดีมากจริง ๆ
ก่อนกลับอย่าลืมแวะอุดหนุนสินค้าชุมชนที่เรียงราย ทั้งของกิน ของใช้ และต้นกระเจียวที่ซื้อหากลับไปลองปลูกกันที่บ้านได้ แม้จะอนุญาตให้เข้าชมทั้งวันตั้งแต่เช้าจดเย็น แต่แนะนำว่าให้มาชมกันในช่วงเช้า-สายจะได้บรรยากาศที่ดีมาก
- ติดต่อเข้าชมอุทยานล่วงหน้าในช่วงโควิด-19 อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ โทรศัพท์ 0 4489 0105