ที่อยู่อาศัยนอกจากจะเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตของทุกคนแล้ว ยังเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์ทั้งในด้านความมั่นคงทางจิตใจ การสร้างสัมพันธ์ในครอบครัว รวมทั้งมีบทบาทในการดำรงชีวิตอย่างที่ทุกคนขาดไม่ได้ แต่ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันย่อมส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่น้อย
ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ลงถึง -7.8% และมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเป็นไปอย่างช้า ๆ ท่ามกลางความเสี่ยงสำคัญหลายด้าน อันเป็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคต้องพิจารณาการใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างรัดกุมมากขึ้น และอาจเกิดความลังเลใจหากจำเป็นต้องเลือกซื้อหรือเช่าที่อยู่อาศัยใหม่ในช่วงนี้ สอดคล้องกับผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดอสังหาฯ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study ฉบับล่าสุด ที่พบว่า 75% ของผู้ตอบแบบสำรวจฯ เลือกที่จะชะลอการซื้อ-ขายอสังหาฯ ออกไปก่อน เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ในขณะที่ผู้บริโภค 3 ใน 4 ยังคงวางแผนจะซื้อที่อยู่อาศัยในอนาคต
กมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยของดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า แม้สภาพเศรษฐกิจจะยังมีแนวโน้มชะลอตัว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสทองของผู้ซื้อและนักลงทุนที่มีความพร้อม เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังคงใช้สงครามราคามาช่วยระบายสต็อกคงค้าง ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ หรือนำเทคโนโลยีมายกระดับที่อยู่อาศัยเพื่อสร้างความแตกต่างในตลาดและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของผู้บริโภคยุคนี้ ในขณะที่ตลาดอสังหาฯ ให้เช่าก็ยังคงได้รับความนิยมเช่นกัน เห็นได้จากข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการค้นหาบ้านและคอนโดฯ ให้เช่าบนเว็บไซต์ DDproperty.com ที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก เทรนด์การเลือกที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะซื้อหรือเช่าของผู้บริโภคในยุค New Normal จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นเปรียบเทียบความคุ้มค่าในทุกด้าน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจกระทบแผนการเงินในอนาคต
“ซื้อ” มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาฯ ต่อยอดลงทุนได้ในอนาคต คนซื้ออย่ารีบร้อน คนขายต้องใจเย็น
● การซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ทำให้ผู้ซื้อมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น ๆ ที่นอกจากตอบโจทย์ในการเป็นที่พักอาศัย หรือสร้างรายได้จากการปล่อยเช่าหรือขายต่อแล้ว แน่นอนว่า ผู้ซื้อจำเป็นต้องมีความพร้อมทางด้านการเงินในระดับหนึ่งหรือมีเงินสดจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นค่าดำเนินการต่าง ๆ เช่น ค่าจอง ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง นอกจากนี้ยังต้องเตรียมค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมในอนาคตอีกด้วย และเป็นภาระผูกมัดหากต้องเปลี่ยนที่ทำงาน หรือโยกย้าย ซึ่งการประกาศขายหรือหาผู้เช่าต่อสามารถทำได้ผ่านช่องทางออนไลน์ที่จะอำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อค้นพบได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
● เนื่องจากการผ่อนชำระเป็นภาระทางการเงินระยะยาว ดังนั้นผู้ซื้อต้องใช้เวลาในการพิจารณาอย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ทั้งเปรียบเทียบคุณภาพหรือความคุ้มค่าของโครงการ ทำเล อัตราดอกเบี้ยจากธนาคารเพื่อเลือกสิ่งที่ดีและตอบโจทย์ที่สุด หรือหากแม้เจอเป้าหมายที่ถููกใจแล้วอาจยังย้ายเข้าอยู่ทันทีไม่ได้ ต้องเผื่อเวลาในการดำเนินการทางเอกสารต่าง ๆ รวมทั้งรอเวลาการอนุมัติจากธนาคาร การโอน การตกแต่งหรือปรับสภาพให้พร้อมอยู่
● ผู้ซื้อต้องวางแผนด้านการเงินที่รัดกุมทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพราะสินเชื่ออสังหาฯ ในปัจจุบันมีตัวเลือกระยะเวลาผ่อนชำระได้นานถึง 30-40 ปี นอกจากนี้ยังควรมีเงินเก็บสำรองเผื่อเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจกระทบต่อรายรับในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นจากสภาวะเศรษฐกิจ สังคม หรือแม้กระทั่งการว่างงานหรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด เป็นต้น
● เทรนด์ Work from Home ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณาเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์พฤติกรรมแบบ New Normal มากขึ้น ซึ่งโครงการหรือที่อยู่อาศัยแนวราบหรือคอนโดฯ ที่มีจำนวนยูนิตน้อย ๆ ไม่แออัดในแถบชานเมือง เมื่อเทียบความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในราคาที่ถูกกว่าการซื้อบ้าน/คอนโดฯ ย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ (CBD) นอกจากผู้ซื้อจะได้พื้นที่ใช้สอยมากขึ้นแล้ว ผู้ซื้อยังคงเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่กำลังพัฒนาในหลายทำเลอีกด้วย สอดคล้องกับเทรนด์ตลาดอสังหาฯ ตอนนี้ที่ผู้ประกอบการปรับตัวมาพัฒนาโครงการที่มีจุดขายสอดรับกับแนวโน้มพฤติกรรมในปัจจุบัน
● ราคาอสังหาฯ ในปีนี้ยังมีแนวโน้มลดลงอันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังไม่สามารถวางใจได้ สอดคล้องกับรายงานดัชนีราคาอสังหาฯ DDproperty Thailand Property Market Index ไตรมาสที่ 3 ปี 2563 ที่ระบุว่าดัชนีราคาอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาสที่ผ่านมาต่ำที่สุดในรอบ 11 ไตรมาส ผู้ประกอบการแข่งขันด้านราคาอย่างเข้มข้นและปล่อยโปรโมชั่นทั้งส่วนลด ทั้งผ่อนให้ก่อน หรือแหวกแนวแจกบัตรทางด่วนสิบปี เป็นต้น เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของผู้ซื้อ โดยเฉพาะตลาดคอนโดฯ ที่ยังคงมีสินค้าคงค้างอยู่เป็นจำนวนมากอยู่ในเวลานี้ จึงเรียกได้ว่าเป็นโอกาสทองที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ซื้อที่มีความพร้อมและกลุ่มเรียลดีมานด์ที่วางแผนซื้อบ้าน/คอนโดฯ ในอนาคต
“เช่า” ปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ ลดภาระผูกพันระยะยาว
● การเช่าที่อยู่อาศัยเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคที่เริ่มสร้างฐานะ หรือยังมีภาระค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น เพราะการมีเงินออมเก็บอยู่กับตัวถือเป็นสิ่งจำเป็นในยุคนี้ นอกจากลดความเสี่ยงของปัญหาทางการเงินจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแล้ว ยังช่วยให้สามารถวางแผนชีวิตเพื่อรับมือผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้
● ผู้บริโภคสามารถเลือกพิจารณาที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้ง่ายขึ้น เพราะการเช่าอสังหาฯ จะมีความยืดหยุ่นมากกว่าการซื้อ หากมีการเปลี่ยนงานหรือย้ายที่อยู่อาศัยตามครอบครัวก็สามารถโยกย้ายได้ง่ายกว่า หรือเลือกเช่าได้ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตามความต้องการในช่วงวัยต่าง ๆ เช่น เน้นความสงบใกล้ชิดธรรมชาติ เน้นพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้นเพื่อรองรับการสร้างครอบครัว มีความสะดวกในการเดินทางไปที่ทำงาน ความปลอดภัยในการดำรงชีวิต
● เมื่อพบที่พักอาศัยที่ถูกใจแล้วผู้บริโภคก็สามารถตกลงเช่าได้ทันที เพียงมีกระเป๋าใบเดียวสามารถเข้าอยู่ได้เลย เพราะอสังหาฯ ให้เช่าส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับการตกแต่งที่สวยงามรองรับการเข้าอยู่อาศัยได้ทุกเวลา นอกจากนี้บางแห่งยังมีเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยไว้อย่างครบครัน
● โดยปกติการเช่าบ้าน/คอนโดฯ ผู้เช่าไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อน ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นจะเป็นค่าเช่าล่วงหน้าและเงินประกันทรัพย์สินเท่านั้น ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการเงิน หรือผู้ที่ต้องการเก็บเงินก้อนไว้ใช้ในด้านอื่น เพราะไม่สร้างภาระผูกพันในระยะยาวเหมือนการซื้อขาดที่ต้องผ่อนธนาคารในระยะเวลาหลายสิบปี รวมทั้งไม่จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา หรือเสียภาษีต่าง ๆ หากเราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
● แม้การเช่าที่อยู่จะไม่ก่อให้เกิดภาระผูกพันระยะยาวแต่อีกมุมหนึ่งสำหรับคนที่มองอนาคตไกล ๆ อาจดูเป็นการปล่อยเงินให้จมหายไปกับการจ่ายค่าเช่าทุกเดือน เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่อนชำระสินเชื่ออสังหาฯ ที่ผู้ซื้อยังได้รับกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีนโยบายกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ หรือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินต่าง ๆ มากมาย จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้เช่าที่วางแผนอยากมีบ้านหรือคอนโดฯ เป็นของตัวเองในอนาคตที่น่าพิจารณาเปรียบเทียบกับข้อเสนอที่คุ้มค่าในช่วงนี้อย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง
นอกจากนี้ ข้อมูลจากผลสำรวจฯ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study ฉบับล่าสุด ยังพบว่า 43% ของผู้บริโภคชาวไทยที่ยังไม่ได้ครอบครองอสังหาฯ วางแผนจะเช่าที่อยู่อาศัยในปีหน้า ในขณะที่ 38% ของผู้ตอบแบบสำรวจฯ ตั้งใจจะเช่าก่อน 2 ปี และวางแผนจะซื้อบ้านในภายหลัง