ก้าวต่อไป “เชียงคาน” แหล่งท่องเที่ยวระดับเวิร์ลคลาส

95

อพท. ยกระดับจังหวัดเลยเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับเวิร์ลคลาส (World Class Destinations) เมืองท่องเที่ยวและพักผ่อน ระดับสากล ชูความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมและวิถีชีวิต ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเลย ให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวและพักผ่อน หรือ Leisure Loei 

องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้นำหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC และเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชน หรือ CBT เป็นหลักในการพัฒนาให้พื้นที่และชุมชนเกิดความยั่งยืน อพท. ยังได้นำ นโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่กำหนดไว้ 4 ด้าน เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยว ได้แก่ Safe การท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย Clean สะอาดสวยงาม Fair มีความเสมอภาค เป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบ หรือหลอกลวงนักท่องเที่ยว บริการด้วยใจ และ Sustainability ความยั่งยืน สร้างชุมชนท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถให้ท้องถิ่นบริหารจัดการการท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเอง  ซึ่ง อพท. ได้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ควบคู่กันไปทำให้การพัฒนาพื้นที่อำเภอเชียงคานรุดหน้ายิ่งขึ้น

นำร่องสร้างการรับรู้ “เชียงคาน”

สำหรับแนวทางยกระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อพท. ได้นำร่อง “เชียงคาน” เป็นอำเภอแรก เพราะอำเภอเล็กๆ แห่งนี้ ในแต่ละปีมีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เป็นจำนวนรวมมากถึงปีละกว่า 1 ล้านคน แต่ความเข้มแข็งของชุม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังทำให้ถนนสายเล็กๆ เลียบแม่น้ำโขง ของอำเภอเชียงคาน ยังมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายคงไว้เสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เช่นการใส่บาตรข้าวเหนียว การทำผาสาดลอยเคราะห์  หรือวิถีประมงแม่น้ำโขง ยังคงยืนหยัดต่อไปได้และเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสนใจ และวันนี้ เชียงคานกำลังก้าวสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับสากล ด้วยการเสนอตัวเข้าสู่การจัดอันดับ Sustainable Destinations TOP 100 ในงานมหกรรมการท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง ITB ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในปี 2564

อพท. จึงได้นำนโยบายดังกล่าว ผนวกกับแนวทางการพัฒนาตามเกณฑ์ GSTC  เป็นแนวทางในการพัฒนาขยายพื้นที่ที่มีศักยภาพและเชื่อมโยงกับถนนคนเดินของเชียงคาน โดยพัฒนาชุมชนชาไทดำ บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน เพื่อยกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่จะนำเสนอต่อนักท่องเที่ยว อีกทั้งจังหวัดเลยยังได้สร้างสกายวอร์ค แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ให้กับเชียงคาน ที่ภูคกงิ้ว ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน สกายวอร์คแห่งนี้มีความสูงเท่ากับตึก 30 ชั้น เป็นจุดชมวิวงดงามของแม่น้ำโขง และแม่น้ำเหือง ที่กั้นชายแดนระหว่างไทยกับสปป.ลาว

ยกระดับชุมชนไทดำ

ในส่วนของบ้านนาป่าหนาด ซึ่งเป็นชุมชนไทดำ ที่ยังคงวิถีชีวิตที่มีอัตลักษณ์ดงาม ชุมชนแห่งนี้ อพท. ได้นำนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC มาพัฒนายกระดับให้ชุมชนมีความสามารถในการเปิดรับนักท่องเที่ยว

สำหรับชุมชนชาวไทดำ ที่บ้านนาป่าหนาด สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ซึ่งมีอัตลักษณ์เฉพาะกลุ่ม ทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน อาหาร การแต่งกาย เครื่องมือเครื่องใช้ และประเพณีวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาจะได้ทดลองทำตุ้มนกตุ้มหนู โคมไฟไทดำ หรือนักท่องเที่ยวที่สนใจชุดไทดำ สามารถเปลี่ยนชุด และใส่ชุดไทดำไปร่วมทำกิจกรรมร่วมกันกับชาวไทดำ ซึ่งได้รับความสนใจแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก  เชียงคานวันนี้จึงมีความยั่งยืน ที่สามารถรักษาวิถีชีวิต และยังทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาพักได้นานขึ้นและยังได้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

เมื่อการท่องเที่ยวมีผลต่อการกระจายรายได้ รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จึงให้ความสำคัญกับตลาดการท่องเที่ยว หรือ Tourism Market  แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ แต่ก็ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางภายในประเทศได้จากกลุ่มคนไทยและต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (Expat)  ดังนั้นในวันที่ 10-11 ตุลาคม 2563  ภายใต้แคมเปญ Explore the Unseen Thailand  หรือ “เรารู้จักกันดีพอหรือยัง” ที่มีเป้าหมายคือเชิญชวนเพื่อนชาวต่างชาติที่พำนักหรือทำงานอยู่ในประเทศไทย ได้รู้จักประเทศไทยและแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย มากยิ่งขึ้น  จึงได้เชิญเพื่อนชาวต่างชาติกลุ่มนี้ซึ่งมีศักยภาพการเดินทางและจับจ่ายไปเที่ยวชมวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่ายของเชียงคานและเสน่ห์ของจังหวัดเลย