เรื่องราวของป้าจัน สู้กับหนี้นอกระบบด้วยหัวใจไม่เกษียณ

12
ป้าจัน” หรือ นางจันแก้ว มาโยง

เสียงหัวเราะดังขึ้น หลังจากหยอดคำถามไปว่า “อายุเท่าไรแล้วคะเนี่ย”
“63 ปีแล้วค่ะ” เสียงของป้าจัน ผู้หญิงที่มีใบหน้าสาวกว่าอายุในวัยเกษียณ อีกทั้งท่าทางคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง จนอดทึ่งกันไม่ได้

“ป้าจัน” หรือ นางจันแก้ว มาโยง เป็นพนักงานบริการชุมชนของบริษัท แอล พี ซี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (LPC) วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) ในเครือ “แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป” ที่มีอายุอยู่ในวัยเกษียณแล้ว แต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ป้าจันเลือกที่จะ “อยู่ต่อ” ไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพร่างกาย และจิตใจที่ยังคงแข็งแรงอยู่เท่านั้น แต่ด้วยภาระหนี้สิน และความรับผิดชอบต่อครอบครัว และลูกชายวัย 18 ปี ที่กำลังจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ล้วนส่งผลต่อการตัดสินใจ “อยู่ต่อ” และนั่นทำให้ผู้หญิงแข็งแกร่งคนนี้ มีฉายาพ่วงท้ายชื่อว่า “ป้าจัน หัวใจไม่เกษียณ”

ก่อนหน้านี้ ป้าจันมีปัญหาหนี้นอกระบบ เหตุจากน้องชายป่วยจึงกู้ยืมเงินมารักษา และไม่สามารถจ่ายหนี้ตามเวลาที่กำหนดจึงทำให้หนี้สินเพิ่มพูน ช่วงเวลานั้น LPC มีโครงการช่วยเหลือพนักงาน “ปลดหนี้นอกระบบ” จึงตัดสินใจเข้าร่วมจนสามารถทำให้ปลอดหนี้ได้ จนทำให้ทุกวันนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่มีความกังวลเรื่องการหาเงินมาใช้หนี้ ส่งผลให้ปัจจุบันการทำงานมีประสิทธิภาพ ส่งต่อรอยยิ้มและความสุขไปยังลูกค้าที่ได้รับการบริการจากป้าจัน

“ในวันที่ป้าต้องเกษียณอายุ ป้าจันรู้ว่าบริษัทมีนโยบายให้โอกาสพนักงานที่ถึงวัยเกษียณสามารถทำงานต่อได้ ป้าจึงเข้าไปพูดคุยกับผู้บริหารว่ายังมีไฟที่จะทำงานต่อ ซึ่งทาง LPC ก็ได้ให้โอกาส หยิบยื่นบทบาทหน้าที่ใหม่ๆ มาให้ทำ เป็นหนึ่งความท้าทายจากเดิมมาก เพราะที่ผ่านมาป้ารับผิดชอบทำความสะอาดเป็นหลัก ซึ่งเราก็มีความสุขในงานที่ทำมาตลอด 7 ปี พอมาเริ่มบทบาทใหม่ในฝ่ายบริหารคุณภาพบริการ ได้มาหยิบจับเอกสาร และทำงานตามที่ผู้ใหญ่ไว้วางใจ รู้สึกได้ถึงความรับผิดชอบของการทำงานที่มีมากขึ้น และทุกคนก็ให้การยอมรับ ทำให้ป้ามีความสุขกับการทำงานมากค่ะ ยิ่งอยู่ยิ่งมีความสุข และมีความอบอุ่นในการทำงานกับ LPC”

สิ่งสำคัญที่ทำให้ป้าจัน ยังคง “อยู่ต่อ” ได้ แม้ว่าจะอยู่ในวัยเกษียณแล้วก็ตาม นั่นคือ “โอกาส” จากทาง LPC ที่มุ่งหวังในการมีส่วนช่วย “แก้ไขปัญหาสังคม” โดยการแบ่งปันโอกาสในการทำงานให้กับหญิงด้อยโอกาสทางสังคม ให้มีอาชีพการงานที่มั่นคง หารายได้เกื้อหนุนครอบครัว และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สุรัสวดี ซื่อวาจา กรรมการผู้จัดการ LPC ได้เล่าให้ฟังว่าบริษัทมีพนักงานส่วนใหญ่เป็นสตรีด้อยโอกาส การศึกษาน้อย มีภาระเลี้ยงดูครอบครัวคนเดียว เคยถูกเอารัดเอาเปรียบจากการจ้างงาน เป็นผู้สูงวัยอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และเป็นผู้พิการ จึงมีนโยบายที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงานกลุ่มนี้ ทั้งในรูปแบบค่าตอบแทนและสวัสดิการต่างๆ ที่สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป 10% ส่งเสริมการศึกษาพนักงานและมอบทุนการศึกษาให้บุตร นอกจากนี้ ยังฝึกทักษะวิชาชีพให้มีอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้ในวันหยุด เช่น การนวดแผนไทย และที่สำคัญ คือเปิดโอกาสการทำงานต่อเมื่ออายุครบ 60 ปี

“สำหรับผู้สูงอายุนั้น บริษัทไม่ใช่แค่ให้ “โอกาส” เพราะแท้ที่จริงแล้ว ผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยยังมีศักยภาพในการทำงานไม่แพ้วัยทำงาน ทั้งยังมีทักษะความชำนาญ รวมถึงความรับผิดชอบงานสูง ซึ่งการให้ผู้สูงอายุได้มีอาชีพ และรายได้สำหรับดูแลครอบครัว ก็จะช่วยให้เขามีความภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง”

สุรัสวดี ซื่อวาจา

จะเรียกว่าเป็นบทพิสูจน์การทำงานของคนเราที่ไม่มีวันหมดอายุ อย่างป้าจันก็ว่าได้ แต่คำว่า “โอกาส” เองก็มีส่วนสำคัญในการสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง และการทำงานในบทบาทใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน ขอเพียงมีใครสักคนหยิบยื่น “โอกาส” มาให้ เชื่อว่าหัวใจของคนที่กำลังท้อ และหาทางออกไม่ได้นั้น จะกลายเป็นหัวใจที่พร้อมจะทำงานแบบไม่มีวันเกษียณกันเลยทีเดียว

“ขอขอบคุณ LPC ที่ได้ให้โอกาส และได้มอบสิ่งดีๆ ในวันนั้นจนถึงวันนี้ นอกจากช่วยให้ป้าได้มีโอกาสทำงานต่อแม้จะเกษียณอายุไปแล้วก็ตาม ยังช่วยปลดหนี้จากการติดหนี้นอกระบบอีกด้วย ผ่านมา 7 ปีแล้ว ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่ LPC ได้ให้โอกาสป้าเข้าร่วมโครงการ “ปลดหนี้” ทำให้หลุดพ้นจากบ่วงหนี้สินที่สร้างไว้ โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยสักบาท ทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้น มีเงินใช้จ่ายภายในครอบครัว ไม่ลำบากเหมือนเมื่อก่อน” ป้าจันกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

ป้าจันเล่าให้เราฟังต่อว่า ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นหนี้ใครแล้ว ชีวิตคล่องตัว และมีเงินเก็บมากขึ้น จากการที่เข้าร่วมโครงการ “รักการออม” ที่บริษัทมุ่งหวังจะสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับพนักงานอย่างยั่งยืน โดยป้าจันได้แบ่งเงินมาออมเดือนละ 500 บาท ซึ่งฝากมาครบหนึ่งปีและได้รับเงินสมทบจากบริษัทแล้ว

“นอกจากนั้น บริษัทยังส่งเสริมให้ป้าได้เรียนหนังสือ และส่งเสริมอาชีพให้ติดตัวไป อย่างเช่นการเรียนนวดแผนไทย ซึ่งไม่ใช่แค่ป้านะคะ ยังรวมถึงพนักงาน LPC ทุกคนที่ได้รับโอกาสเช่นเดียวกัน และอนาคตจากนี้ไป จะขอทำงานอย่างสุดความสามารถ สู้เพื่อ LPC ตลอดไปค่ะ” ป้าจัน หัวใจไม่เกษียณ กล่าวปิดท้าย