การ์ทเนอร์คาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกสำหรับปี 2564 จะแตะ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4% จากปี 2563 โดยคาดว่าปีนี้ 2563 มูลค่าใช้จ่ายไอทีจะอยู่ที่ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยลดลงจากปี 2562 ประมาณ 5.4%
นักวิเคราะห์ได้แสดงความคิดเห็นถึงแนวโน้มตลาดไอทีทั่วโลก ภายในงาน Gartner IT Symposium/Xpo Americas ที่จัดขึ้นในรูปแบบเวอร์ชวลเมื่อเร็ว ๆ นี้
“นับเป็นปีที่ 25 ที่การ์ทเนอร์คาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายไอทีและไม่เคยมีการคาดการณ์ครั้งไหนที่ตลาดมีความผันผวนมากเท่าครั้งนี้” นายจอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัท การ์ทเนอร์ กล่าว “ขณะที่มีปัจจัยกดดันเกิดขึ้นไม่ซ้ำกันในทุกอุตสาหกรรมช่วงการแพร่ระบาดที่ยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง แต่องค์กรที่นำดิจิทัลมาปรับใช้ต่างรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และสร้างการเติบโตต่อเนื่องในปีหน้า”
คาดว่าการใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในปี 2563 จะลดลงทุกเซกเมนต์ ประมาณการณ์ว่าตลาดซอฟต์แวร์ระดับองค์กรจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในปี 2564 (7.2%) เนื่องจากแรงกระตุ้นขององค์กรที่มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาส่งเสริมการทำงานจากระยะไกลของบุคลากรมากขึ้น รวมถึงบริการแบบเวอร์ชวล อาทิ บริการเรียนหรือบริการด้านสุขภาพทางไกล และการประยุกต์ใช้ระบบไฮเปอร์ออโตเมชั่นเพื่อให้องค์กรตอบรับความต้องการที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดได้อย่างเหมาะสม
ตลาดระบบดาต้าเซ็นเตอร์จะเติบโตสูงเป็นอันดับสองที่ 5.2% ในปี 2564 เนื่องจากไฮเปอร์สแคลเลอร์เร่งสร้างศูนย์ข้อมูลและองค์กรทั่วไปกลับมาดำเนินแผนการขยายศูนย์ข้อมูลตามปกติ โดยอนุญาตให้พนักงานกลับเข้าทำงานในสำนักงานได้เหมือนเดิม
แม้ว่ากิจกรรมบนคลาวด์จะเพิ่มขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่องค์กรเปลี่ยนไปใช้ระบบการทำงานผ่านระยะไกล หรือมีการใช้จ่ายของคลาวด์ระดับองค์กรในหลากหลายหมวดหมู่แต่กิจกรรมเหล่านั้นจะยังไม่ส่งผลต่อรายได้ของผู้ผลิตต่าง ๆ จนถึงปี 2564
“ภาวะการใช้จ่ายชะลอตัวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ราวเมษายนจนถึงสิงหาคมปีนี้ รวมถึงโครงการต่าง ๆ ประเภท “ทดลองใช้ ก่อนซื้อ” ของผู้ให้บริการระบบคลาวด์ กำลังทำให้รายได้จากคลาวด์ขยับขึ้นจากปีนี้” นายเลิฟล็อคกล่าว “คลาวด์พิสูจน์แล้วในปีนี้ – ว่าสามารถทำงานได้เป็นอย่างดีตลอดช่วงเวลาของการแพร่ระบาด ปรับใช้งานเพิ่ม/ลดได้ตามความเหมาะสม ส่งผลให้ระบบคลาวด์มีอัตราการเติบโตรวดเร็วยาวไปจนถึงปี 2565
“ด้วยความผันผวนของรายได้ทำให้ “เงินสด” มีสถานะสำคัญสูงสุด ทำให้ตอนนี้เหล่าซีไอโอกำลังจัดลำดับความสำคัญว่างานไหนเหมาะสมกับการลงทุนด้วยต้นทุนต่ำที่สุด” นายเลิฟล็อคกล่าวเพิ่ม
“บริษัทต่าง ๆ มีงานด้านไอทีต้องทำมากขึ้นด้วยเงินให้ใช้ที่น้อยลง ดังนั้นพวกเขาจึงดึงงบประมาณในส่วนที่พอรับได้กลับไป เช่น การเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือและเครื่องพิมพ์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้การเติบโตของตลาดอุปกรณ์และบริการด้านการสื่อสารลดลง” นายเลิฟล็อคกล่าวเสริม “แต่ซีไอโอยังคงใช้จ่ายมากขึ้นในด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเร่งธุรกิจดิจิทัลของพวกเขา เช่น บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IaaS) หรือซอฟต์แวร์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)”
จากนี้ต่อไปการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่ดิจิทัลจะไม่อยู่ภายใต้เหตุผลเรื่อง ROI แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นก่อนการแพร่ระบาด ทั้งนี้เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศวันนี้ได้เป็นตัวกำหนดความอยู่รอดของธุรกิจมากกว่าแง่ของการเติบโต
ชมรายละเอียดและบทวิเคราะห์เกี่ยวกับภาพรวมมูลค่าใช้จ่ายไอทีทั่วโลกได้ที่เว็บบินาร์ของการ์ทเนอร์ ‘IT Spending Forecast, 3Q20: Technology Trends Accelerated by COVID.”
การคาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายด้านไอทีของการ์ทเนอร์ ใช้วิธีการวิเคราะห์ยอดขายอย่างเข้มข้นจากผู้ค้าหลายพันรายครอบคลุมผลิตภัณฑ์และบริการด้านไอทีทั้งหมด การ์ทเนอร์ใช้เทคนิคการวิจัยขั้นต้นซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยแหล่งข้อมูลทุติยภูมิที่เชื่อถือได้ในการสร้างฐานข้อมูลที่ครอบคลุมข้อมูลขนาดตลาดซึ่งเป็นฐานการพยากรณ์
การคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของการ์ทเนอร์ รายไตรมาสนำเสนอมุมมองที่แตกต่างครอบคลุมกลุ่มฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริการทางด้านไอทีและในกลุ่มของการสื่อสารโทรคมนาคม รายงานเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าของการ์ทเนอร์ ตระหนักถึงโอกาสและความท้าทายทางการตลาด ลูกค้าของการ์ทเนอร์สามารถอ่านรายงานการคาดการณ์การใช้จ่ายด้านไอทีล่าสุดได้จาก Gartner Market Databook, 3Q20 Update การคาดการณ์การใช้จ่ายไอทีไตรมาสนี้รวมลิงก์ข้อมูลของรายงานการใช้จ่ายด้านไอทีล่าสุด webinar blog posts และข่าวประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ไว้ด้วย