บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“พรูเด็นเชียล ประเทศไทย”) และ อีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ บริษัทบริหารการลงทุนชั้นนำในภูมิภาคเอเชียของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ร่วมสนับสนุนงบประมาณจำนวน 4,900,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลด่านหน้าสี่แห่งในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ได้แก่ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล วชิรพยาบาล โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงฆ์
สำหรับเงินสนับสนุนในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างห้องแยกโรคความดันลบ (Airborne Infectious Isolation Room: AIIR) และห้องตรวจโรคระบบทางเดินหายใจ (Acute Respiratory Infection (ARI) Clinic) ให้แก่โรงพยาบาลทั้งสี่แห่งในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยอันสืบเนื่องมาจากโรคด้านทางเดินหายใจ อาทิ โรคโควิด-19 เป็นต้น พร้อมกันนี้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ยังได้มอบ face shield จำนวน 2,500 ชิ้น ซึ่งพนักงานของ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ร่วมใจกันทำขึ้น เพื่อแสดงความขอบคุณและเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่ท้อถอยในการต่อสู้กับการแพร่ของโรคระบาดตลอดมา
ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกฯ เป็นสถานพยาบาลแห่งแรกจากทั้งหมดสี่แห่งที่พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ให้การสนับสนุนที่พร้อมเปิดให้บริการ ซึ่งมีคณะผู้บริหารของพรูเด็นเชียล ประเทศไทย นำโดย นายโรบิน สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสายพิณ โชคนำกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานรัฐกิจสัมพันธ์ นางสาวเปสลารี ธีระสาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานลูกค้า และตัวแทนผู้บริหารจาก อีสท์สปริง อินเวสต์เมนท์ ร่วมแสดงความยินดีในพิธีเปิดพื้นที่อย่างเป็นทางการ โดยมีคณะผู้บริหารของศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก นำโดยรองศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ กลลดาเรืองไกร ผู้อำนวยการ และ นพ. สมชาย ดุษฎีเวทกุล รองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกฯ ให้การต้อนรับในครั้งนี้
อนึ่ง การบริจาคครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกองทุนฟื้นฟูพรูเด็นเชียลโควิด-19 (Prudential Covid-19 Relief Fund) (“กองทุน”) ที่ให้การสนับสนุนทางด้านการเงินแก่ชุมชนและเหล่าอาสาสมัครในเครือข่ายของพรูเด็นเชียลที่ให้ความช่วยเหลือแก่เพื่อนมนุษย์ในภูมิภาคเอเชีย สหรัฐอเมริกา และแอฟริกา เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19
โรบิน สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า “พวกเราได้ร่วมกันต่อสู้กับโรคโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา และแม้ว่าในประเทศไทยจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคได้ดี อันเนื่องมาจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนชาวไทยในการปฏิบัติตามข้อบังคับและมาตรการต่างๆ เป็นอย่างดี แต่เราก็ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมในกรณีเกิดการแพร่ระบาดในรอบที่สอง สำหรับ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ด้วยความมุ่งมั่นและนโยบาย “We Do Health” เรามีเจตจำนงค์ในการให้ความสำคัญกับการดูแลคุ้มครองสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยด้วยการมอบสาธารณูปโภคด้านการบริการทางการแพทย์ รวมถึงการปกป้องคุ้มครองเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหลายที่เสียสละทำงานเป็นด่านหน้าในการต่อสู่กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อแทนคำขอบคุณและส่งต่อกำลังใจให้พวกเขาเหล่านั้น บรรดาพนักงานของพรูเด็นเชียล ประเทศไทย เองยังพร้อมใจกันจัดทำ face shield เพื่อมอบให้กับบุคลากรผู้เสียสละเพื่อขอบคุณที่ช่วยปกป้องพวกเราจากโรคร้ายในกิจกรรมการกุศลครั้งนี้อีกด้วย”
อดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย อีสท์สปริง และ บลจ.ธนชาต อีสท์สปริง ผู้จัดการกองทุนของ อีสท์สปริง อินเวสต์เมนท์ ในประเทศไทย กล่าวว่า “เราเชื่อว่าความมั่งคั่งที่ดีประกอบด้วยสององค์ประกอบหลัก คือ การเงินและสุขภาพ ยามที่เรามีสุขภาพแข็งแรง เราก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่า ทีมบริหารและพนักงานของ TMBAM Eastspring และ Thanachart Fund Eastspring พร้อมเป็นอีกแรงในการให้ความสนับสนุนโครงการของพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ซึ่งการก่อสร้างคลินิก ARI นี้ จะเป็นการช่วยส่งเสริมและดูแลรักษาโรคระบบทางเดินหายใจอย่างเช่น โควิด-19 นี้ กล่าวได้ว่าการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพที่ดีให้แก่ประชาชนและยังเป็นการเอื้อให้เกิดการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวมอีกด้วย”
นพ. สมชาย ดุษฎีเวทกุล รองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกฯ กล่าวปิดท้ายว่า “ในนามตัวแทนบุคลากรของศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกฯ และประชาชนชาวไทย ผมรู้สึกซาบซึ้งและขอขอบคุณ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย และ อีสท์สปริง อินเวสต์เมนท์ ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญและให้การสนับสนุนการก่อสร้างห้องตรวจโรคระบบทางเดินหายใจ หรือคลินิก ARI ขึ้นในครั้งนี้ การปกป้องเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่มีโอกาสติดเชื้อขณะปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วย ด้วยการสนับสนุนจากพรูเด็นเชียล และ พรูเด็นซ์ ฟาวน์เดชัน ในครั้งนี้จะเป็นการช่วยเสริมศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยให้กับโรงพยาบาลของเรา ในฐานะที่เป็นโรงพยาบาลรัฐ เราไม่เพียงแค่มุ่งมั่นที่จะมอบการรักษาพยาบาลที่ดีให้แก่ผู้ป่วยเท่านั้น แต่ต้องเป็นบริการสุขภาพที่ครอบคลุมและประชาชนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า”
ทั้งนี้ ห้องรักษาพยาบาลผู้ป่วยในอีกสามโรงพยาบาล อันได้แก่ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงฆ์ กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินงานก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563 นี้