พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์กรณีความสับสนของประชาชนในการโหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ว่า การรณรงค์ให้ใช้แอพพลิเคชั่นหมอชนะ เพื่อช่วยให้ติดตามควบคุมการแพร่เชื้อของโรค ที่ไปกับบุคคลและการออกแบบแอพพลิเคชั่นดังกล่าว จึงระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลและมีแนวคิดเพื่อติดตามสำหรับทุกคน โดยไม่ได้ไปละเมิดสิทธิของใคร
พุทธิพงษ์ ชี้แจงใน 3 ประเด็น ที่ยังมีข้อกังวลและเกิดความสับสนอยู่ในสังคม คือเมื่อโหลดแอปพลิเคชันไปแล้วมีความปลอดภัยหรือไม่ ยืนยัน ว่ามีความปลอดภัย เพราะเมื่อโหลดไปแล้วจะไม่ปรากฏชื่อ-นามสกุลแต่จะเป็นรหัสตัวเลขระบบคอมพิวเตอร์ เช่น 111 ดังนั้นเวลาเข้าไปดูจะไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งผู้ที่จะเข้าไปดูข้อมูลได้จะมีแต่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น และสามารถย้อนหลังไปได้ประมาณ 14 วัน แล้วจะทราบว่าตัวเลขนี้ไปพบกับใครบ้าง ก็จะส่งสัญญาณเตือนเจ้าของหมายเลขนั้น ๆ ว่ามีความเสี่ยง
ส่วนเรื่องข้อกังวลเกี่ยวกับไทม์ไลน์และไม่อยากบอกคนอื่น เรื่องนี้หากทุกคนพร้อมใจกันโหลด แอปพลิเคชันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปบอกไทม์ไลน์ให้คนอื่นรู้ เพราะระบบตรวจสอบเองว่าคนที่ติด 1 คนได้ไปสัมผัสกับใครบ้างที่โหลด จึงสบายใจได้ว่าถ้ามีปัญหา มีความเสี่ยงหรือติดเชื้อจะได้ไม่ต้องมานั่งนึกไทม์ไลน์ สำหรับข้อกังวลว่าใน แอปพลิเคชั่น ต้องมีการถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตนเกรงจะไม่ปลอดภัยถูกนำไปเก็บในข้อมูลของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายพุทธิพงษ์ ยืนยันว่าการถ่ายรูปในแอปฯ เป็นแค่การถ่ายรูปและเก็บไว้ในมือถือของบุคคลนั้น ๆ ไม่ได้นำมาเก็บไว้เป็นข้อมูลส่วนกลาง ซึ่งการถ่ายรูปยืนยันตัวตนในกรณีที่จะเดินทางข้ามจังหวัด ก็สามารถแสดงที่จุดตรวจหรือด่านได้
พร้อมยืนยันด้วยว่า ข้อกังวลที่หลายคนกลัว ว่าแอปพลิเคชันหมอชนะมีการติดตามทางไมโครโฟนว่าเวลาพูดอะไรออกไปแล้วจะดูดเสียงเก็บไว้เพื่อเอาข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงและแอพพลิเคชั่นหมอชนะปรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ใช้ท่ามกลางการให้ระบาดเป็นวงกว้าง เพื่อให้หมอพยาบาลเฝ้าติดตามข้อมูลและป้องกันการติดต่อของเชื้อที่จะไปกับประชาชนที่เดินทางสามารถทำได้เร็วขึ้น และจำกัดการแพร่ตัวของโรคได้เร็วขึ้น
พุทธิพงษ์ ย้ำว่า การไม่โหลดแอปพลิเคชัน หมอชนะ วันนี้ไม่ได้ผิดกฎหมาย ไม่โหลดไม่เป็นไร แต่เป็นหารขอความร่วมมือประชาชนให้โหลดหมอชนะไว้ทุกคน ช่วยโหลดกันเยอะ ๆ เพราะคนที่โหลดก็จะได้ประโยชน์แก่ตัวเอง แก่คนในครอบครัว ยิ่งที่บ้านมีผู้สูงอายุด้วย เมื่อโหลดแล้วเวลาไปไหนเมื่อ 7 หรือ 10 วันที่ผ่านมา ก็อาจจะไม่รู้ว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ คนที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือหรือระบบที่จะโหลดได้ ก็เข้าระบบปกติคือการบันทึกเอกสาร ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข ก็ได้มีการจัดทำเอกสารให้กรอกข้อมูล ทั้งนี้เมื่อโหลดและกรอกข้อมูลจะถือว่าทุกคนมีความเสี่ยงต่ำ เพราะระบบติดตามจะเริ่มเมื่อโหลดแอปพลิเคชันและติดตั้งเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นเมื่อเดินทางและไปอยู่ใกล้บุคคลที่มีความเสี่ยงไทม์ไลน์ก็จะเริ่มขึ้น ขอยืนยันว่าข้อมูลทั้งหมดปลอดภัยเป็นประโยชน์ต่อการติดตามควบคุมและง่ายต่อการสอบสวนโรค