The Balance พาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักกับ 2 ดาวดังจากประเทศเมียนมาร์ให้มากขึ้น นั่นคือ นักร้องฮิปฮอปยอดนิยม SAI SAI KHAM LENG และดาราดังด้วยรางวัลการันตี WUTT HMONE SHWE YI ทั้งคู่ติดโผ 100 คนผู้ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียลมีเดียสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคในปี 2020 ที่จัดโดยนิตยสาร Forbes Asia
เนื่องจากทั้งคู่เป็นคนบันเทิงดังระดับประเทศ มีคนติดตามบนโลกโซเชียลเป็นล้านๆคน พวกเขาจึงเป็นที่จับจ้องจากสังคมว่า จะแสดงจุดยืนอย่างไรหลังกองทัพของเมียนมาร์ได้ก่อรัฐประหาร
SAI SAI KHAM LENG (ไซ ไซ คำแลง)
ไซ เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง นักแสดง และนายแบบ ถือเป็นนักร้องฮิปฮอปที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของประเทศเมียนมาร์ในประวัติศาสตร์ของดนตรีฮิปฮอปในเชิงธุรกิจ ในปี 2020 Forbes Asia รายงานว่า ชายหนุ่มวัย 41 ปีคนนี้มีจำนวนผู้ติดตามบน Facebook มากที่สุด 9 ล้านคน เป็นจำนวนคนติดตามที่มากที่สุดของประเทศเมียนมาร์

ไซ มีเชื้อสายฉาน เขาเกิดที่เมืองตองยี (Taunggy) เมืองหลักในรัฐฉาน (Chan) ต่อมาย้ายเข้ามาอยู่กรุงย่างกุ้งเพื่อเป็นนักร้อง ด้านการศึกษา เขาเรียนจบปริญญาตรีสาขาภาษาอังกฤษที่ Dagon University หลังเรียนจบก็เรียนเพิ่มเติมในสาขาเดียวกันที่ Yangon University of Foreign Languages เมื่อปีที่ผ่านมายังได้ช่วยเหลือประเทศจากวิกฤตโควิด 19 และที่ผ่านมา ยังสนับสนุนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และดนตรีอีกด้วย
สำหรับรัฐประหารโดยกองทัพล่าสุด อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ออกมาแสดงจุดยืนใดๆหรือโพสต์ข้อความใดๆบนโซเชียลมีเดียหลังทหารเข้ายึดอำนาจ และมีรายงานจาก Myanmar Times ว่า ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้มีคนเลิกติดตามเขามากกว่า 20,000 คนในเพียงวันเดียว
บนโลกโซเชียลมีเดียต่างมีการโพสต์แสดงความคิดเห็นมากมาย บ้างก็โจมตีการเข้ายึดอำนาจของทหาร ในขณะเดียวกันได้ตั้งคำถามถึงจุดยืนของบรรดานักร้องกับการปฏิวัติครั้งนี้ ตัวอย่างเช่น มีคนหนึ่งได้โพสต์ว่า “ในฐานะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ คุณต้องมีความรับผิดชอบกับสังคม โดยใช้เสียงเรียกร้องของคุณเพื่อสนับสนุนสิ่งอื่นๆ สิ่งแวดล้อมและโลกโดยรวม เพื่อให้มีสภาพที่ดีกว่าที่มันเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณยังเงียบงัน นั่นหมายความว่า คุณไม่ได้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอีกแล้ว ฉันก็จะเลิกสนับสนุนในตัวคุณ”
WUTT HMONE SHWE YI (วุด มน ชเว ยี)

เธอเป็นนักแสดงมืออาชีพ Forbes Asia รายงานว่า เธอเป็นดาราหญิงของเมียนมาร์ที่มีคนติดตามบน Facebook สูงสุดคือ 6 ล้านคน นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า เธอเป็นนักแสดงหญิงที่มีค่าตัวสูงสุดเป็นอันดับสองของประเทศและถูกมองว่า เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศ ด้านการศึกษา เธอจบระดับปริญญาตรีสาขาภาษาอังกฤษจาก Dagon University
นักแสดงวัย 32 ปีนี้ ตีบทบาทแตกกระจุยจนได้รับรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมถึง 2 ครั้งจาก Myanmar Academy Award โดยในปี 2019 เธอแสดงเรื่อง The Only Mom และเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดของปี และในปีเดียวกันนี้ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาดารานำหญิงยอดเยี่ยมจากเวที Asian Academy Creative Awards ที่ประเทศสิงคโปร์

กับรัฐประหารในประเทศของเธอล่าสุด เธอประกาศจุดยืนชัดเจนที่จะสนับสนุนการอารยะขัดขืนและพร้อมจะยืนหยัดร่วมกับประชาชนชาวเมียนมาร์อื่นๆ เธอบอกว่า เธอเป็นนักแสดงของประเทศเมียนมาร์และเป็นคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบประเทศนี้ด้วย
References:
1. www.forbes.com
2. https://www.mmtimes.com/news/myanmar-celebs-and-artists-stand-against-military-coup.html?qt-social_plugin=1