สสส. เร่งสร้างความเข้าใจ “วัคซีนเพื่อสังคมไทย สู้โควิด”สำรวจพบคนไทยกว่า 60% พร้อมรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ยังเข้าใจผิด! ฉีดวัคซีนแล้วไม่มีโอกาสติดเชื้อ-ไม่แพร่ ห่วงฉีดวัคซีนแล้วป้องกันแบบชีวิตวิถีใหม่ลดลง “ไม่เว้นระยะห่าง-ไม่สวมหน้ากาก-ไม่ล้างมือ”
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส.เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการอำนวยการจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 โดยทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารสุข(สธ.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) องค์การอนามัยโลก(WHO) องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในการสร้างความเข้าใจเรื่องวัคซีน โดยสร้างการรับรู้ประชาชนให้มีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจ และรู้วิธีปฏิบัติตัวในการรับบริการวัคซีนและหลังรับวัคซีน ซึ่งสสส.ทำหน้าที่พัฒนากลไกการสื่อสาร “วัคซีนเพื่อสังคมไทย สู้โควิด” จึงได้จัดทำชุดข้อมูลความรู้ 2 ประเด็น คือ 1. การทำงานของวัคซีนในการป้องกันโรคข้อมูลชุดถามตอบข้อสงสัยของประชาชน และ 2. การฉีดวัคซีนป้องกันโรคต้องทำควบคู่กับชีวิตวิถีใหม่
ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า สสส. ได้สำรวจความคิดเห็นต่อการรับวัคซีนไวรัสโคโรน่าหรือ โควิด-19 (Covid-19) เกี่ยวกับความเข้าใจเรื่องวัคซีน ผ่านการทำแบบสอบถามจำนวน 1,017 คน พบว่า ส่วนใหญ่ 62.9% พร้อมเข้ารับวัคซีน มี 27.1% ไม่แน่ใจ และ 9.9% ไม่ต้องการฉีดวัคซีน ที่น่าสนใจคือ พบว่า 24% ยังเข้าใจผิด/ไม่แน่ใจ ว่าฉีดวัคซีนแล้วไม่มีโอกาสติดเชื้อโควิด และ 33% เข้าใจผิดว่าฉีดวัคซีนโควิดแล้ว หากติดเชื้อจะไม่แพร่เชื้อไปสู่บุคคลอื่น
“ที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อรับวัคซีนแล้ว คนไทยอาจจะมีแนวโน้มลดการปฏิบัติแบบ “ชีวิตวิถีใหม่” หรือ New Normal ทั้งการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือ ทั้งๆ ที่หลังฉีดวัคซีนยังจำเป็นต้องเคร่งครัดในการใช้ชีวิตแบบชีวิตวิถีใหม่ เนื่องจากวัคซีนในปัจจุบันมีประสิทธิภาพลดความรุนแรงของอาการป่วย แต่ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ ขณะเดียวกัน 40% กลัวผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน แต่ 75% ไม่รู้จักหมายเลข 1422 และ 1669 เพื่อสอบถามผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน”ดร.สุปรีดา กล่าว
สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส.กล่าวว่า สสส. รณรงค์สื่อสารสังคมให้ช่วยกันยกระดับป้องกันโควิด-19 โดยทำการศึกษาพฤติกรรมคนไทย เพื่อปรับปรุงพัฒนาชุดข้อมูลสื่อสาร โดยเฉพาะโจทย์สร้างความเข้าใจกับประชาชนเรื่องวัคซีนที่เป็นเรื่องใหม่ได้รับความร่วมมือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนที่ถูกต้อง ตอกย้ำกับสังคมว่า วัคซีนทำหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรค สร้างความรู้ความเข้าใจถึงอาการข้างเคียง หรือผลไม่พึงประสงค์ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับวัคซีน รวมถึงการดูแลตนเอง ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการรับวัคซีน
ที่สำคัญต้องกระตุ้นให้คนไทยแม้รับวัคซีนแล้วยังต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงในชีวิตวิถีใหม่ คือ เว้นระยะห่าง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย โดยได้ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ครอบคลุมทุกช่องทางการสื่อสาร ทั้งสปอตทางโทรทัศน์ สื่อเสียง โปสเตอร์ วิดีโอ สื่อออนไลน์ โดยในการสื่อสารเรื่องโควิดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สสส. ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน อาทิ สื่อโทรทัศน์ สื่อจอภาพเคลื่อนไหว จอในสนามบิน รวมทั้งสื่อรถไฟฟ้า รถประจำทาง และโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยไม่ได้คิดมูลค่าเป็นการมุ่งการทำงานเชิงรุกเพื่อร่วมเผยแพร่สื่อที่เป็นประโยชน์สู่ส่งคมไทย
“สสส.สื่อสารไปยังประชาชนให้ศึกษาข้อมูลในการฉีดวัคซีนให้เพียงพอต่อการตัดสินใจ เพราะการฉีดวัคซีนเป็นความสมัครใจ โดยผลิตชุดข้อมูลจำเป็น ก่อนรับวัคซีน หลังรับวัคซีน คือ ต้องดูแลร่างกายให้แข็งแรงก่อนฉีดวัคซีน ฉีดแล้วต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ผู้ป่วยโรคที่ควรฉีดวัคซีนก่อน เช่น โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอ้วน เบาหวาน มะเร็ง กลุ่มผู้สูงอายุ หรือกลุ่มที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้ เช่น ผู้มีอาการแพ้ส่วนประกอบของวัคซีน สตรีมีครรภ์ เด็กต่ำกว่า 18 ปี ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรง เหล่านี้เรามีการทำข้อมูลรอบด้าน ถูกต้องและชัดเจน” สุพัฒนุช กล่าว