กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์เนื่องในวันมาลาเรียโลก ประจำปี 2564 ทุกภาคส่วนร่วมผลักดันสู่เป้าหมาย ตามคำขวัญวันมาลาเรียโลกในปีนี้ คือ “กำหนดเส้นชัย กำจัดไข้มาลาเรียเป็นศูนย์” ภายในปี 2567
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าในวันที่ 25 เมษายนของทุกปี กำหนดให้เป็นวันมาลาเรียโลก โดยปีนี้มีคำขวัญ คือ Zero Malaria – Draw the Line Against Malaria หรือ “กำหนดเส้นชัย กำจัดไข้มาลาเรียเป็นศูนย์” ซึ่งประเทศไทยกำหนดเป้าหมายให้ปลอดจากโรคไข้มาลาเรียภายในปี 2567
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จของการกำจัดโรคไข้มาลาเรียในไทย นั้น กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค จัดทำยุทธศาสตร์การกำจัดโรคไข้มาลาเรียประเทศไทย พ.ศ.2560-2569 ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี เมื่อ 26 เมษายน 2559 และตั้งแต่เริ่มดำเนินการตามยุทธศาสตร์ฯ ในปี 2560 สามารถทำให้อำเภอแพร่เชื้อมาลาเรีย ลดลงจาก 119 อำเภอ เหลือ 85 อำเภอในปี 2563 สำหรับผู้ป่วยโรคไข้มาลาเรีย จำนวนลดลงจาก 150,000 รายในปี 2543 เหลือ 3,939 รายในปี 2563 ส่วนในปี 2564 นี้ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพบผู้ป่วย 454 ราย โดยเป็นผู้ป่วยมาลาเรียชนิดรุนแรง (ฟัลซิปารัม) เพียง 21 ราย สำหรับจังหวัดที่พบเชื้อมาลาเรียรุนแรงใน 10 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ตาก แม่ฮ่องสอน ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ระนอง สงขลา และนราธิวาส ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายกำจัดเชื้อมาลาเรียรุนแรง ภายในปี 2566
การดำเนินการกำจัดโรคไข้มาลาเรีย จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับเครือข่ายต่างๆ โดยกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุข และร่วมมือกับหน่วยงานระหว่างประเทศ เช่น องค์การอนามัยโลก และ USAID/PMI เป็นต้น กระทรวงกลาโหม เน้นการควบคุมโรคในกลุ่มทหาร โดยจัดทำประกาศกรมแพทย์ทหารบก (ม.ค. 63) การป้องกันและควบคุมโรคไข้มาลาเรียในทหาร ตรวจหาเชื้อ ชุบมุ้ง พ่นเคมีในพื้นที่แพร่เชื้อ ทำให้สามารถลดจำนวนผู้ป่วยในทหารได้ร้อยละ 90 ในเวลา 2 ปี กระทรวงมหาดไทย เน้นการมีส่วนร่วมในการลงทุน โดยกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นจาก 1.5 ล้านบาท เป็น 5.1 ล้านบาท ภายใน 2 ปี ครอบคลุมร้อยละ 90 ของตำบลที่มีแหล่งแพร่เชื้อ สำหรับกระทรวงศึกษาธิการ เน้นการให้ความรู้ในเด็กนักเรียนเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการป้องกันตนเอง โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีพฤติกรรมป้องกันตนเอง และค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่แพร่เชื้อ
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422