INET ชูศักยภาพผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร เผยผลสำรวจครองอันดับ 1 ในกลุ่มผู้ประกอบการไทย ลุยปั้น ‘อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์’ รับดีมานด์เติบโต พร้อมระดมทุนผ่านกองทรัสต์
INET ชูศักยภาพผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจร ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการรับ Digital Economy และสนับสนุนภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่การให้บริการรูปแบบดิจิทัลในช่วง COVID-19 และหลังสถานการณ์โรคระบาด ประเมินแนวโน้มความต้องการใช้บริการระบบคลาวด์และศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าระดมทุนผ่านการจัดตั้งกองทรัสต์ เผยผลสำรวจธุรกิจให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยจาก IDC Semiannual Public Cloud Services Tracker ปี 2020 INET ครองส่วนแบ่งตลาด 14.8% เป็นเบอร์ 1 ของผู้ประกอบการไทย
มรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์เทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีแบบครบวงจรที่มีประสบการณ์กว่า 26 ปี เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการนำเทคโนโลยีด้านไอซีทีเข้ามาเพิ่มความศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขันแก่องค์กร ด้วยการนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่การเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ การให้บริการศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (INET-IDC) พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ และการนำเสนอบริการระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง โซลูชันส์ (Cloud Computing Solutions) จนปัจจุบันถือได้ว่าเป็นผู้นำด้านการให้บริการคลาวด์ เซอร์วิส ในประเทศไทย
โดยผลสำรวจธุรกิจให้บริการคลาวด์ในประเทศไทยจาก IDC Semiannual Public Cloud Services Tracker ปี 2020 (ปี 2563) INET มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ในไทย (รวมผู้ประกอบการต่างชาติ) คิดเป็นสัดส่วน 14.8% ของมูลค่าตลาดรวมกว่า 6,000 ล้านบาท (197.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รองจาก Amazon Web Services และ Microsoft นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์ที่เป็นผู้ประกอบการไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่าผู้ให้บริการที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 4 เกือบ 10% ตอกย้ำศักยภาพผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของไทย
ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสการขยายธุรกิจ จากความต้องการใช้บริการระบบคลาวด์และศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลต่างๆ ขององค์กรที่เพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาล และสนับสนุนภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่การให้บริการรูปแบบดิจิทัลในช่วง COVID-19 และหลังสถานการณ์โรคระบาด โดยมีปัจจัยมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีไอทีและเครือข่ายระบบอินเทอร์เน็ต การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีสื่อสารรองรับระบบ 5G การทำงานแบบ Work from Home หรือ Work from Anywhere รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ที่ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐใช้งานระบบคลาวด์จากภาคเอกชนเพิ่มขึ้น
ล่าสุดบริษัทฯ จึงวางแผนขยายการลงทุนศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ คาดว่าใช้งบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีศูนย์ INET-IDC 3 แห่ง ได้แก่ อาคารบางกอกไทย ทาวเวอร์ (INET-IDC 1) อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ (INET-IDC 2) และที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี (INET-IDC 3) โดยจะใช้จุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีและนวัตกรรมไอที รวมถึงเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์รายแรกๆ ในประเทศไทยเพื่อขยายฐานลูกค้าในอนาคต
“INET-IDC ทั้ง 3 แห่งของเรา ถือเป็นศูนย์อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ ที่มีความทันสมัยได้มาตรฐานระดับโลก โดยได้รับรางวัล Center Service Vendor of the Year 2013 จากบริษัท Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก พร้อมรับประกันคุณภาพด้วย Service Level Agreement (SLA) Uptime ตั้งแต่ระดับ 99.90% ถึง 99.99% และให้บริการตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 20000 1:2011 (Cloud Service Management) ISO/IEC 27001:2013 และ CSA STAR Certification โดยมีเครือข่ายสำรองที่สามารถใช้เป็นศูนย์สำรองข้อมูลกรณีฉุกเฉิน Disaster Recovery (DR) Site นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบก่อสร้างภายใต้แนวคิด Clean, Green และ Energy Saving มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมทั้งได้รับการออกแบบให้เชื่อมต่อระบบระหว่าง 3 ศูนย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้กรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน” มรกต กล่าว
กรรมการผู้จัดการ INET กล่าวต่อว่า บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 ตั้งเป้าหมายรายได้ประมาณ 2,200 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 1,846.48 ล้านบาท ซึ่งมาจากการให้บริการ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.บริการ Cloud Solutions ประกอบด้วย Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นการให้บริการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที Platform as a Service (PaaS) ที่ผู้ใช้บริการสามารถนำแอปพลิเคชันมาทำงานอยู่บนระบบดังกล่าวโดยไม่ต้องลงทุนด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และ Software as a Service (SaaS) เป็นการให้บริการด้านแอปพลิเคชัน เช่น Email on Cloud, ERP on Cloud
2.บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet access) สำหรับธุรกิจด้วยความเร็วที่หลากหลายครอบคลุมทุกจังหวัด และ 3.บริการ
Co-Location โดยให้บริการศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต ซึ่งเป็นศูนย์กลางให้บริการสำหรับหน่วยงานหรือองค์กรธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการนำเสนอข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ต ทั้งที่เป็นเครือข่ายสาธารณะและเครือข่ายส่วนบุคคล
ล่าสุด บริษัทฯ ได้เดินหน้าระดมทุนโดยจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต หรือ INET Leasehold Real Estate Investment Trust (INETREIT) เพื่อเข้าลงทุนครั้งแรกในทรัพย์สินโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 4,500 ล้านบาท ปัจจุบันได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบหน่วยทรัสต์ (ไฟลิ่ง) แล้ว