เต็ดตรา แพ้ค เผยข้อมูลเชิงลึก กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในธุรกิจนมธัญพืช

56

เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำเสนอโซลูชั่นการแปรรูปอาหารและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก เปิดเผยรายงานการวิจัยเรื่อง “สร้างโลกแห่งผลิตภัณฑ์จากพืช (Grow Your Plant-Based World)” นำเสนอข้อมูลของตลาดผลิตภัณฑ์จากพืช รวมทั้งระบุถึงแรงผลักดันและปัจจัยสำคัญต่างๆ ที่ทำให้ตลาดเติบโตขึ้น

ตลาดผลิตภัณฑ์นมธัญพืชทั่วโลกจะมีมูลค่าที่ 19.7 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งจะสูงเป็นสองเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าเมื่อ 6 ปีก่อนหน้า  ทำให้ผลิตภัณฑ์อาหารและนมธัญพืชไม่นับเป็นตลาดสินค้าเฉพาะกลุ่มได้อีกต่อไปและจะกลายเป็นตลาดที่เติบโตในกระแสการบริโภคหลัก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้น หมวดผลิตภัณฑ์จากพืชได้รับความนิยมอย่างมาก กล่าวได้ว่าที่นี่เป็นตลาดผลิตภัณฑ์จากพืชที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยครองส่วนแบ่งในตลาดนมถั่วเหลืองทั่วโลกมากถึง 93% และส่วนแบ่งในตลาดผลิตภัณฑ์จากข้าว ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วฝัก และธัญพืช (ธัญพืชรวม) ทั่วโลกมากถึง 63%

สำหรับในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยทั่วไปและโดยเฉพาะประเทศไทย การบริโภคนมธัญพืชเป็นส่วนหนึ่งในมื้ออาหารประจำวันที่ถือเป็นเรื่องปกติ ในประเทศไทยเองนั้น สามารถหาซื้อถั่วเหลืองได้ง่าย ด้วยราคาที่ไม่แพง และเป็นวัตถุดิบปรุงอาหารที่ใช้กันแพร่หลายมาอย่างยาวนาน อีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว คือ หมวดผลิตภัณฑ์นมธัญพืชรวม ซึ่งมีอัตราการเติบโตในเชิงปริมาณถึง 14% ในปีที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์ในหมวดนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสุขภาพที่มองหาผลิตภัณฑ์นมทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งมาพร้อมกับคุณประโยชน์อย่างครบถ้วน

ข้อมูลเชิงลึกของเต็ดตรา แพ้ค ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่สามารถดึงดูดใจผู้บริโภคได้ มักจะมีคุณสมบัติ เช่น “เป็นแหล่งของโปรตีน” “ไขมันต่ำ” และ “มีใยอาหารสูง” อีกทั้งผู้บริโภคยังมีความคาดหวังที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ว่าอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดควรที่จะต้องมีคุณประโยชน์เพิ่มเติมในด้านสุขภาพที่จะดึงดูดความสนใจ และเพิ่มโอกาสที่สินค้าจะถูกหยิบลงตะกร้าของผู้ซื้อมากขึ้น โดยคุณประโยชน์เพิ่มเติมนั้น จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์นมธัญพืชซึ่งดีต่อสุขภาพได้อย่างชัดเจนมากขึ้น

เทรนด์ที่มีความเชื่อมโยงกันอย่างมากในบริบทของเรื่องนี้คือโปรตีน แหล่งโปรตีนคุณภาพสูงทางเลือกถือเป็นหนึ่งในข้อกังวลหลักเมื่อผู้บริโภคต้องการเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์นมไปสู่ไลฟ์สไตล์การบริโภคอาหารจากพืชหรือแบบปลอดเนื้อสัตว์ งานวิจัยเผยว่า ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มี “โปรตีนจากพืช” เป็นส่วนประกอบสูงถึง 36% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และมากถึง 31% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร การอ้างอิงเรื่องคุณภาพของโปรตีนก็สามารถนำมาตอกย้ำกับผู้บริโภคได้ว่าแหล่งโปรตีน “จากพืช” รูปแบบใหม่มากมายที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการไม่แตกต่างจากแหล่งโปรตีนจากสัตว์ และเป็นเรื่องน่าสนใจที่พวกเขาเห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาจากนมวัวนั้นก็มีโปรตีนสูงเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจคือหมวดธัญพืชรวมซึ่งมีวัตถุดิบให้เลือกหลากหลายและให้คุณประโยชน์ที่แตกต่างกัน โดยนับเป็นหมวดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพสูง จนแทบจะไร้ข้อจำกัดในการคิดค้นสูตรหรือส่วนผสมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด เนื่องจากองค์ประกอบหลักที่มีตั้งแต่ตัวเลือกวัตถุดิบที่หลากหลาย เทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมกับวัตถุดิบที่เลือกสรรไว้เพื่อให้ได้รสชาติและรสสัมผัสที่ต้องการ ช่วยลดความเสี่ยงของการแยกชั้นของผลิตภัณฑ์อันเนื่องมาจากกระบวนการผลิต รวมทั้งสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นในกระบวนการผลิตเพื่อให้ง่ายต่อการสลับสายการผลิตเพื่อใช้งานกับวัตถุดิบที่แตกต่างกันได้ องค์ประกอบเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตผลิตภัณฑ์ได้อย่างมากเพื่อให้สอดคล้องกับประสิทธิภาพในการเก็บรักษาและอายุของผลิตภัณฑ์

สุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การวิเคราะห์ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดผลิตภัณฑ์จากพืช นับตั้งแต่นมถั่วเหลืองเพิ่มคุณประโยชน์ (Soy+) ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบจากข้าว ถั่วเปลือกแข็ง ถั่วฝัก และธัญพืช (ธัญพืชรวม)  จำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง ซึ่งไม่ได้มีหน่วยงานเฉพาะอยู่กับผู้ผลิตทุกรายไป

สำหรับบริษัทผู้ผลิตเหล่านี้ เต็ดตรา แพ้ค สามารถนำเสนอโซลูชั่นแบบครบวงจรตลอดเส้นทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งหมด นับตั้งแต่การระบุถึงปัญหาและการสร้างแนวคิดสินค้าเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ต้นแบบและพัฒนาสูตรเพื่อการจำหน่าย  ทั้งนี้ ในหมวดผลิตภัณฑ์นมธัญพืช เต็ดตรา แพ้ค มีความล้ำหน้ามากกว่าโซลูชั่นการผลิตและบรรจุภัณฑ์โดยเราสามารถนำเสนอการบริการที่ครบครันในหนึ่งเดียวเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจผลิตภัณฑ์จากพืช ศูนย์นวัตกรรมและแนวคิดผลิตภัณฑ์ (Innovation and Ideation Centre) จะช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาแนวคิดและผลิตภัณฑ์ต้นแบบได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

” ในขณะที่ ศูนย์ความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์จากพืชของเต็ดตรา แพ้ค  สามารถนำเสนอบริการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง ทั้งในรูปแบบที่ลูกค้าสามารถเดินทางไปที่ศูนย์ฯ เองหรือรูปแบบประชุมทางไกล (รีโมท) โดยนักวิทยาศาสตร์ด้านอาหารที่มีความเชี่ยวชาญในการทดสอบด้านคุณภาพ รสสัมผัส และรสชาติ ด้วยโซลูชั่นที่พร้อมสรรพเช่นนี้ทำให้บริษัทของเราเป็นผู้บุกเบิกที่โดดเด่นและเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการช่วยให้ลูกค้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและประสบความสำเร็จทางธุรกิจในหมวดผลิตภัณฑ์นี้” สุภนัฐ กล่าวเสริม