ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ภัยเงียบที่ไม่ควรเพิกเฉย

10
ศาสตราจารย์นายแพทย์พันธุ์เทพ อังชัยสุขศิริ

กระบวนการสร้างลิ่มเลือด เป็นกลไกสำคัญในการป้องกันการเสียเลือดมากเกินไปเมื่อหลอดเลือดเกิดการบาดเจ็บ โดยปกติหลังจากแผลหายดีแล้ว ร่างกายจะทำการสลายเลือดที่แข็งตัวตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามในบางกรณี เลือดเกิดการแข็งตัวภายในหลอดเลือดโดยไม่ได้เกิดจากอาการบาดเจ็บและไม่เกิดการสลายโดยธรรมชาติ เมื่อเลือดเกิดการแข็งตัวจะส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดช้าลงหรือปิดกั้นการไหลเวียนระบบไหลเวียนโลหิต ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะเลือดอุดตันที่รุนแรง หรือที่รู้จักกันในชื่อ โรคลิ่มเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดอุดตัน

หนึ่งในสี่ของประชากรทั่วโลกเสียชีวิตจากภาวะที่เกี่ยวเนื่องกับโรคลิ่มเลือดอุดตัน และโรคดังกล่าวพบได้ในผู้คนทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กถึงผู้สูงอายุ โดยมีปัจจัยเสี่ยงได้แก่การสูบบุหรี่ การมีน้ำหนักตัวมากเกินไป ความดันโลหิตสูง หรือคอเลสเตอรอลสูง รวมถึงโรคอักเสบเรื้อรัง การตั้งครรภ์ หรือช่วง 6 เดือนภายหลังจากตั้งครรภ์ เพิ่งรับการรักษาหรือกำลังทำการรักษาโรคมะเร็ง หลังเข้ารับการผ่าตัด สูงวัย ติดเชื้อโควิด-19 มีประวัติคนในครอบครัวมีภาวะเลือดแข็งตัว การรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นประจำ และกลุ่มที่มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ

ยิ่งไปกว่านั้น สมาคมการแพทย์อเมริกันได้เผยว่ามีประชากรราวปีละ 2 ล้านคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งนับเป็นจำนวนที่มากกว่าอุบัติการณ์ของโรคภาวะหัวใจล้มเหลว หรือโรคหลอดเลือดสมองในแต่ละปี
แต่ที่น่าเสียดายคือจากผลสำรวจโดยวันโรคลิ่มเลือดอุดตันโลกจาก 9 ประเทศพบว่า การตระหนักรู้ของผู้คนเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันโดยรวมยังอยู่ในระดับต่ำ (68%) และแค่เพียง 50% สำหรับภาวะลิ่มเลือดอุดตันของหลอดเลือดดำ (Venous Thromboembolism: VTE) ในขณะที่การรับรู้เกี่ยวกับโรคร้ายแรงอื่นๆอยุ่ในระดับที่สูงกว่านี้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และโรคเอดส์ (ที่ 90%, 85%, 82%, 87% ตามลำดับ)

ดังนั้น การทำความเข้าใจและรับรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จึงเป็นแนวทางการป้องกันที่เหมาะสม รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการตรวจภาวะลิ่มเลือดอุดตันโดยแพทย์ศาสตราจารย์นายแพทย์พันธุ์เทพ อังชัยสุขศิริ สาขาวิชาโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวว่าอาการและอาการแสดงของภาวะลิ่มเลือดอุดตันประกอบไปด้วยอาการปวดบวมที่ขา มีอาการกดเจ็บ ผิวหนังเปลี่ยนสีหรือเป็นสีแดง พบเส้นเลือดฝอยบนผิวหนัง เส้นเลือดขอด หรือรู้สึกอุ่นๆบริเวณผิวหนัง อย่างไรก็ตามผู้ป่วยภาวะลิ่มเลือดอุดตันบางรายแสดงอาการน้อยมากดังนั้นจึงถือเป็นภัยเงียบที่น่ากังวล

“เมื่อการไหลเวียนของเลือดเพื่อไปหล่อเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญถูกขัดขวาง อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพที่รุนแรง เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว (หัวใจวาย) โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด และไตวาย จากการศึกษาล่าสุดพบความสัมพันธ์ระหว่างผู้ป่วยโควิด-19 และภาวะลิ่มเลือดอุดตัน รวมถึงผู้ป่วยที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล” นายแพทย์พันธุ์เทพกล่าว

ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (VTE) ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตและการพิการอันดับต้นๆ ทั่วโลก เป็นภาวะที่เกิดการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดบริเวณขา ขาหนีบ หรือแขน (ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก – deep vein thrombosis, DVT) หากลิ่มเลือดเกิดการหลุดออกและไหลผ่านระบบไหลเวียนโลหิตไปยังปอด จะกลายเป็นภาวะที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตที่เรียกว่าภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด

ในประเทศไทยภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ส่งผลให้ผู้ป่วยพบปัญหาหายใจลำบาก ส่งผลให้เกิดอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 30 ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดพบว่าตั้งแต่ปี 2560-2563 มีผู้ป่วยประมาณ 12,900-26,800 คนที่เผชิญปัญหาดังกล่าวในประเทศไทย ซึ่งเท่ากับว่าจะมีผู้ป่วย 200-400 คนในประชากรทุกๆหนึ่งล้านคน1 ทั้งนี้ จากที่กล่าวมาข้างต้น ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำมากที่สุดคือหลังจากการผ่าตัดใหญ่ การบาดเจ็บ ภาวะหัวใจล้มเหลว มะเร็งหรือภาวะหัวใจวาย ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ประกอบไปด้วยโรคอ้วน การบริโภคสุรา การสูบบุหรี่ การบาดเจ็บทางร่างกาย หรือการใช้ยาที่มีส่วนประกอบของเอสโตรเจน

ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (AFib) เป็นภาวะที่พบบ่อยที่สุดของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะและเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน คลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกตินี้ทำให้หัวใจห้องบนสุดเกิดอาการสั่นพลิ้ว อาการของภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ได้แก่ อาการอ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติ วิงเวียนศีรษะ หายใจถี่และวิตกกังวล อาการเจ็บหน้าอกและเหงื่อออก อย่างไรก็ตาม บางครั้งไม่พบมีอาการแสดงที่ชัดเจน และตรวจพบภาวะนี้ในระหว่างการตรวจร่างกายเท่านั้น ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด

ทั้งนี้ นายแพทย์พันธุ์เทพได้แนะนำว่าการตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องจำเป็น และควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการหรือมีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน