อ.ส.ค. หนุนจัดงานวิวาห์คาวบอยจดทะเบียนสมรสบนหลังม้า

273

วาเลนไทน์ปีนี้คึกคัก อ.ส.ค. เนรมิตอาณาจักรฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค หนุนพ่อเมืองโคนม จัดงานวิวาห์สุดเท่ห์จดทะเบียนสมรสบนหลังม้าในงาน “14 กุมภาพันธ์ สัญญารัก วิวาห์คาวบอย”

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)   กล่าวว่า ปัจจุบัน อ.ส.ค. มีนโยบายในการยกระดับฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสำคัญของจังหวัดสระบุรี เนื่องจาก อ.ส.ค. มีอาณาจักรฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์คกว้างขวางถึง 2,700ไร่ ซึ่งมีทัศนียภาพทุ่งหญ้าที่สวยงาม  ประกอบกับมีฟาร์มโคนมขนาดใหญ่มีโคนมจำนวนกว่า  400 ตัว ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้

ทั้งนี้  เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ค  อ.ส.ค. ได้ให้การสนับสนุนจังหวัดสระบุรีและสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรีในการใช้พื้นที่อาณาจักรฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์คจัดงานกิจกรรม  “14 กุมภาพันธ์ สัญญารัก วิวาห์คาวบอย” ประจำปี 2561เพื่อต้อนรับ วันวาเลนไทน์ที่จะมาถึง   โดยภายในงานคู่บ่าว-สาวจะแต่งกายชุดคาวบอย-คาวเกิร์ลแสดงอัตลักษณ์ของเมืองคาวบอยซึ่งมีขึ้นในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้

 

 

ทั้งนี้  การจัดงานดังกล่าว อ.ส.ค. จะสนับสนุนให้จังหวัดสระบุรีใช้โลเคชั่นที่งดงามไปด้วยทุ่งหญ้าที่มีอาณาจักรกว้างขวางกว่า 2.7 พันไร่ของฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คในการจัดงานเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของจังหวัดซึ่งมีฟาร์มของ อ.ส.ค. อยู่ในแผนดังกล่าวด้วย  โดยธีม (Theme) การจัดงานให้เป็นรูปแบบคาวบอยที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต สภาพภูมิประเทศ โดยไฮไลท์กิจกรรมในงาน ได้แก่ กิจกรรม “การจดทะเบียนสมรสบนหลังม้า” ซึ่งคู่บ่าว-สาวสวมชุดแต่งงาน ด้วยธีมคาวบอย คาวเกิร์ล และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ร่วมงานเลี้ยงฉลองให้กับ คู่บ่าว-สาว ในสไตล์คาวบอย ซึ่งได้นำอาหารเด่น และมีชื่อเสียง ของจังหวัดสระบุรี อาทิ นมคุณภาพดี จากฟาร์ม อ.ส.ค. สเต็กเนื้อนุ่ม บาร์บีคิว หมูหัน ฯลฯ พร้อมชมการแสดงคาวบอย และดนตรีสไตล์คันทรี นอกจากนี้ ได้จัดที่พักท่ามกลางธรรมชาติขุนเขา ให้แก่คู่บ่าว-สาว 1 คืน สำหรับ  การจัดงาน “14 กุมภา สัญญารัก วิวาห์คาวบอย ในปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 2

ดร.ณรงค์ฤทธิ์  กล่าวต่อว่า  ตลอด 55 ปีที่ผ่านมา อ.ส.ค. ได้ผลักดันให้ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คเป็นฟาร์มตัวอย่างและศูนย์กลางการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมในประเทศ ปัจจุบัน อ.ส.ค. ยังเปิดให้ฟาร์มแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัส และชื่นชมความงามของธรรมชาติพร้อมเรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจรตั้งแต่การ ทดลองรีดนมโค, การป้อนนมลูกโค การทำปุ๋ยอินทรีย์จากนม และยังได้สัมผัสบรรยากาศคาวบอยที่มีฝูงโคนมใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ มีกิจกรรมสำหรับผู้รักการผจญภัย เช่น การขับรถเอทีวี, ขี่จักรยานเสือภูเขาหลากกิจกรรมเหล่านี้ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ในอัตราค่าบริการที่ถูกและคุ้มค่าล่าสุดยังได้จัดกิจกรรม“ดื่มนมชมฟาร์ม ตามรอยเท้าพ่อ” โดยเปิดให้ประชาชนเที่ยวฟาร์มในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ทางรถไฟในราคาเพียง 249 บาท/ท่าน (เป็นราคาที่ไม่ได้รวมค่าตั๋วรถไฟ) โดยนักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถชมวิวทิวทัศน์ สูดอากาศบริสุทธิ์ และพบกับประสบการณ์ใหม่ๆพร้อมทั้งได้เรียนรู้ในเรื่อง“โคนมอาชีพพระราชทาน” จากในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกด้วย

ผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงเกษตรสามารถมาเที่ยวที่ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์คได้ทุกวัน เวลา
09.00 – 15.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายท่องเที่ยวเชิงเกษตร องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย โทร. 0-3634-4926 และ www.facebook.com/Farmkonom