5 วิธี ช่วยลดความเสี่ยง เลี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านม

6

มะเร็งเต้านม ถือได้ว่าเป็นมะเร็งร้ายอันดับหนึ่งของผู้หญิง เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ควรมองข้ามไม่ จากสถิติของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า มีผู้หญิงไทยป่วยเป็นมะเร็งเต้านมรายใหม่ประมาณ 13,000 คนต่อปีหรือ 35 คนต่อวัน ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นทุกปี

พทป.ฐิตารีย์ สุนทรพิสิทธิ์ แพทย์แผนไทยประยุกต์ เปิดเผยว่า สัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกว่า คุณมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม คือ การที่รูปร่างของเต้านม หรือหัวนมเปลี่ยนไป เช่น เต้านมอาจโตขึ้น แฟบลง ผิดรูป บวมร้อนแดง หรือหัวนมบุ๋ม มีแผลเรื้อรังที่เต้านม มีของเหลวไหลออกจากหัวนม และในบางคนอาจมีรักแร้บวมร่วมด้วย มะเร็งเต้านมเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ บริเวณเต้านม ท่อน้ำนมหรือต่อมน้ำนม ซึ่งอาจเกิดจากการแบ่งเซลล์ที่ผิดปกติ รวมไปถึงความผิดปกติของ ฮอร์โมนเพศในร่างกาย อาจเคยเป็นซีสต์หรือถุงน้ำที่เต้านม หรือการอักเสบ ซึ่งตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทย การเกิดก้อนเนื้อ เนื้องอกหรือมะเร็ง เนื่องมาจากในร่างกายมีความร้อนสะสมกันเป็นเวลานาน ๆ ที่บริเวณใด บริเวณหนึ่งจนทำให้เกิดการอักเสบ บวม แดง ร้อน

รวมไปถึงการรับประทานอาหารผิดสำแดง อาหาร หมักดอง อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง อาหารค้างคืนที่ไม่สดใหม่ อาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดกรด หรือหินปูนในเลือดสูง เช่น หน่อไม้ สะตอ ยอดผักอ่อน ๆ อาทิ กระถิน ชะอม ซึ่งอาหารเหล่านี้ล้วนแต่จะทำให้เกิดการตกตะกอน และสะสมคั่งค้าง อุดตัน ทำให้ระบบเลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ไม่ดี จนเกิดการอักเสบ เมื่ออักเสบเรื้อรังเป็นระยะเวลานานอาจกลายเป็นตุ่มฝี ก้อนเนื้อ บวมโตและมีความร้อนกดเจ็บ ถ้าไม่ได้รับการดูแลและรักษาที่ถูกต้องตุ่มฝี หรือก้อนเนื้ออาจจะพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็งได้ เช่น การอักเสบของก้อนซีสต์บริเวณเต้านม

5 วิธีการลดความเสี่ยงป้องกันโรคมะเร็งเต้านม
1.หลีกเลี่ยง หรือจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียงไม่กี่ครั้งในหนึ่งอาทิตย์ สามารถทำให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นถ้าหากลดปริมาณการดื่มลงได้ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงลงได้ส่วนหนึ่ง

2. ออกกำลังกาย
การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ออกกำลังกาย โดยสามารถลดความเสี่ยงลงได้ 20–30% ด้วยการออกกำลังกายในระดับความเข้มข้นปานกลาง เช่น การเดินเร็ว เต้นแอโรบิค และโยคะ สัปดาห์ละ 3-4 ชั่วโมง การออกกำลังกายยังช่วยลดความเสี่ยงของการกลับเป็นซ้ำในผู้ที่เคยได้รับการรักษามะเร็งเต้านม

3. ใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทนวัยหมดประจำเดือน
ผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนมักจะมีอาการต่าง ๆ เช่น อาการร้อนวูบวาบ มีเหงื่อมากในเวลากลางคืน นอนไม่หลับ อารมณ์แปรปรวน และรู้สึกอ่อนเพลียง่าย เป็นต้น ดังนั้นการรักษาด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน ถือเป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งจากการศึกษาของ WHO พบว่า ผู้หญิงที่ได้รับยาฮอร์โมน มีโอกาสพบมะเร็งเต้านม เพิ่มมากขึ้น 24% เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้รับฮอร์โมนต้องใช้ภายใต้คำแนะนำและการดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด และไม่ควรไปซื้อยาหรือครีมสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิงมาใช้ เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านมได้

4.หมั่นตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
เราสามารถเลี่ยงการเป็น “มะเร็งเต้านม” ได้ คือ ควรเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็งเต้านม
และหมั่นตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อค้นหาความเสี่ยงมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้นให้ได้เร็ว โดยทั่วไปจะแนะนำให้ตรวจเต้านมด้วยตนเอง หรือถ้ามีความปกติบริเวณเต้านมควรไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยได้ถูกต้องและทันต่อการรักษา

5. ทานอาหารที่เน้นพืชเป็นหลัก
เน้นการทานพืชเป็นหลัก เช่น โฮลเกรน ผัก ผลไม้ และถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วเขียว ถั่วเลนทิล อาหารเหล่านี้อุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีนอยด์กลูโคไซโนเลท ฯลฯ ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ และยับยั้งการขยายตัวของเซลล์ผิดปกติ ซึ่งอาจจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนี้การทานผักและผลไม้ยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วนซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งเต้านม

นอกจากอาหารที่แนะนำแล้วยังมีอีกหนึ่งตัวช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งตามศาสตร์แผนไทยก็คือสมุนไพร ที่มีสรรพคุณในการช่วยฟื้นฟูระบบเลือดและน้ำเหลือง เสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง อาทิ เห็ดกระถินพิมาน ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ ล้วนแต่มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในการเสริมภูมิคุ้มกันและป้องกันการเกิดมะเร็ง โดยเห็ดกระถินพิมานมีงานวิจัยพบว่า มีสาร Polyphenols และ Hispolon ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มจำนวน และกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งเต้านมในหลอดทดลอง

ข้าวเย็นเหนือและข้าวเย็นใต้มีฤทธิ์ต้านมะเร็งเต้านม และยังพบว่าสารสกัดจากข้าวเย็นใต้ช่วยยับยั้งการเติบโตเซลล์มะเร็งเต้านมของมนุษย์ได้อีกด้วย ซึ่งสมุนไพรนี้พบได้ใน ยาแคปซูลสมุนไพร ตราเอ็ม เฮิร์บ