BASEM เตรียมผ่าตัด ฉัตรชัย บุตรพรม หลังเอ็นไขว้หน้าเข่าข้างซ้ายขาด

11

สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย (BASEM) รพ.กรุงเทพ เผยอาการก่อนเตรียมผ่าตัด ฉัตรชัย บุตรพรม หลังเอ็นไขว้หน้าเข่าข้างซ้ายขาด ระหว่างการแข่งขัน AFF Suzuki Cup 2020

นพ.ภคภณ อิสรไกรศีล ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ด้านผ่าตัดผ่านกล้องข้อเข่าและข้อไหล่ สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย (BASEM) แพทย์ประจำทีมชาติไทย กล่าวว่า ทาง บอย ฉัตรชัย บุตรพรม ประสบอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขันในนัดที่ 2 ที่พบกับเวียดนาม ในรอบรองชนะเลิศของการแข่งขัน AFF Suzuki Cup 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในจังหวะออกไปตัดบอลจนทำให้เสียหลักเข่าซ้ายมีอาการบิด ได้ทำการตรวจร่างกายตั้งแต่มีอาการบาดเจ็บ พบว่าเข่าซ้ายเกิดการหลวม เป็นอาการแสดงของเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด ทำให้ไม่สามารถทำการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศต่อไปได้ มีการประเมินเพิ่มเติมด้วยการทำ MRI และได้ยืนยันว่ามีเส้นเอ็นไขว้หน้าฉีกขาดจริง

ทำให้จำเป็นต้องทำการรักษาต่อเนื่องด้วยการผ่าตัดส่องกล้องที่ รพ.กรุงเทพ แผนการรักษาระหว่างที่อยู่ประเทศสิงคโปร์ได้เตรียมความพร้อมของร่างกายด้วยการลดบวมที่บริเวณข้อเข่า และบริหารเหยียดงอข้อเข่า รวมทั้งสร้างกล้ามเนื้อและพยายามคงกล้ามเนื้อ ต้นขา สะโพก และทั่วร่างกายให้พร้อมสำหรับการผ่าตัดมากที่สุด โดยการผ่าตัดเป็นการสร้างเอ็นไขว้หน้าใหม่ ซึ่งเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน

การบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่า จะไม่ได้พบบ่อยในกีฬาฟุตบอล แต่มีความรุนแรง ถ้านักกีฬาบาดเจ็บจากอาการนี้จะใช้เวลาค่อนข้างนานในการฟื้นตัว นอกจากนี้ยังต้องมีการประเมินหลังผ่าตัด ฟื้นฟู กายภาพอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เพราะถ้ารีบให้นักกีฬากลับมาเร็วเกินไปจะส่งผลเสียต่ออาการบาดเจ็บได้ อาจจะมีการบาดเจ็บซ้ำหรืออาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บอีกข้างนึงได้

ทางเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดที่พัฒนามาตลอด ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและเวชศาสตร์การกีฬาที่มีการพัฒนามากขึ้น รวมทั้งทีมการภาพบำบัด นักวิทยาศาสตร์การกีฬา การทำงานและการดูแลอย่างใกล้ชิดของ บอย ฉัตรชัย ตั้งแต่ก่อนผ่าตัด ระหว่างผ่าตัด จนหลังผ่าตัด รวมทั้งประสานงานกับทางสโมสรต้นสังกัด เดอะ แรบบิท บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพื่อที่จะดูแลใกล้ชิดและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างเต็มที่

โดยมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากระหว่างการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศที่ไทยพบกับทีมชาติอินโดนีเซีย ทางบอย ฉัตรชัยต้องนั่งชมเกมส์เป็นเวลานาน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทีมแพทย์ได้ให้พักที่โรงแรม โดยระหว่างที่นั่งดูเกมส์จะมีความไม่สะดวกสบายต้องมีการยืนรอหรือนั่งอยู่เฉย ๆ ทำให้มีอาการตึงบริเวณน่องและขา จึงจำเป็นต้องอัลตราซาวนด์เพื่อตรวจดูว่ามีการเกิดลิ่มเลือดอุดตันหรือไม่ ถ้าหากมีจริงอาจจะทำให้มีความจำเป็นต้องเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อนได้

ซึ่งภายหลังการแถลงข่าวเสร็จ ได้นำบอย ฉัตรชัยตรวจตรวจอัลตราซาวนด์เส้นเลือดที่ขาด้านซ้ายที่เกิดบาดเจ็บของ ฉัตรชัย ผลพบมีลิ่มเลือดอุดตัน ดังนั้น ต้องกายภาพ และลดอาการยุบบวม ให้งอเหยียดเข่าได้ดีขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมก่อนผ่าตัด ในระหว่างนี้ต้องให้ยาละลายลิ่มเลือดเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ จึงค่อยวางแผนผ่าตัดอีกครั้ง

นท.นพ.พรเทพ ม้ามณี ผู้อำนวยการ สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย (BASEM) รพ.กรุงเทพ และศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ด้านผ่าตัดผ่านกล้องข้อเข่าและข้อไหล่ กล่าวว่า ต้องมีการเตรียมความพร้อมของ บอย ฉัตรชัยให้ดีที่สุด เพราะว่าการผ่าตัดแบบนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบ และมีการวางแผนการรักษาไว้ที่ 8 เดือน โดย 6 เดือนแรกจะเป็นการกายภาพบำบัด อีก 2 เดือนหลังจึงจะเป็นช่วงการกลับมาลงแข่งขันฟุตบอลอีกครั้ง

โดยทาง บอย ฉัตรชัย เคยมีประวัติการบาดเจ็บด้วยอาการนี้แล้วเมื่อ 4-5 ปีก่อน และเป็นคนที่มีระเบียบวินัยสูง ทำกายภาพทุกวัน จนอาการดีขึ้นและหายกลับมา 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแล้วจึงคลายกังวลได้ ทางทีมแพทย์จะพยายามทำตามมาตรฐานให้ดีที่สุด และทำให้ทางฉัตรชัยกลับมาเป็นมือหนึ่งทีมชาติไทยได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

บอย ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องของการรักษาเพราะมีประสบการณ์ในการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพอยู่แล้ว มั่นใจว่าจะสามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ ยังมีกำลังใจและอยากที่จะเล่นฟุตบอลไปได้อีกนาน ๆ โดยขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ทุกคนมอบให้ เพราะส่วนตัวไม่ได้มีการติดตามฟีดแบคตอนที่มีการแข่งขัน มารู้ทุกอย่างหลังจบทัวร์นาเมนต์แล้ว รู้สึกว่าทุกกำลังใจเป็นพลังบวกสำหรับตัวเอง