Airbnb เผยเทรนด์การทำงานแบบ remote work มาแรง

29

Airbnb เผยเทรนด์การทำงานแบบระยะไกลและการทำงานแบบไฮบริดได้เปลี่ยนการทำงานในรูปแบบเดิมที่ต้องเข้าสำนักงานในทุกๆ วัน รวมถึงส่งผลต่อรูปแบบการเดินทาง และกำลังสร้างจุดเปลี่ยนที่จะทำให้กว่าหลายล้านคน สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ และข้อมูลจากแพลตฟอร์มของ Airbnb แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องดังนี้

  • หนึ่งในทุกการจองที่พัก 5 ครั้งในไตรมาส 3 ในปีที่ผ่านมาเป็นการการพักระยะยาว 28 วันหรือมากกว่านั้น
  • ครึ่งหนึ่งของการจองที่พักในไตรมาส 3 เป็นการพัก 7 คืนเป็นอย่างต่ำ ซึ่งเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปี 2562
  • ระหว่างเดือนกันยายน 2563-กันยายน 2564 มีแขกเข้าพักกว่า 100,000 คนจองที่พักเป็นเวลา 90 วันหรือมากกว่านั้น
  • มีผู้สนใจกว่า 300,000 คนจากทั่วโลกสมัครเข้าโครงการ Live Anywhere เพื่อคัดเลือก 12 นักเดินทางใช้ชีวิตที่ไหนก็ได้เป็นเวลา 1 ปีของ Airbnb เพื่อแชร์ประสบการณ์เชิงลึกเพื่อนำมาพัฒนาและยกระดับผลิดภัณฑ์ของ Airbnb

ไบรอัน เชสกี้ ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb  ได้ประกาศว่า เขาจะเข้าใช้ชีวิตในที่พัก Airbnb ตลอดทั้งปีเริ่มที่แอตแลนต้า ซึ่งไบรอันมีแผนที่จะพักบ้านพักในเมืองใหม่ ๆ ในทุกสัปดาห์ และจะทำงานแบบระยะไกลที่ซานฟรานซิสโก และใช้ชีวิตในเมืองต่างๆ เพื่อได้พบปะและทำงานกับทีมงาน ไบรอันจะพักในบ้านพักของ Airbnb เพื่อช่วยปรับปรุงการออกแบบประสบการณ์ของผู้คนที่ปัจจุบันสามารถพักที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้

Airbnb เล็งเห็นว่า เทรนด์ของ Live Anywhere หรือการใช้ชีวิตอยู่ที่ไหนก็ได้ ได้เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิติและได้เปลี่ยนรูปแบบการเดินทางโดยอย่างสิ้นเชิง และมองเห็นเทรนด์ดังนี้

  1. ผู้คนยังคงจะเดินทางไปหลายเมืองและจะพักระยะยาวมากขึ้นเป็นหลายสัปดาห์ หลายเดือน หรือ นานกว่านั้น
  • แม้จะยังอยู่ในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ยังมีการจองที่พักบน Airbnb ในกว่า 100,000 เมืองทั่วโลก
  • มีที่พักกว่า 6,000 แห่งทั่วโลกที่เปิดรับการจองได้ครั้งแรก
  • สำหรับข้อมูลในประเทศไทยระบุว่า การพักระยะยาวบน Airbnb คิดเป็น 50% ของการจองที่พักทั้งหมดที่กรุงเทพฯ และภูเก็ต
  • ด้านกรุงเทพฯ, ภูเก็ต, เชียงใหม่ และสมุย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับการค้นหาสำหรับพักระยะยาวในไทยในปี 2565 นอกจากนั้น จุดหมายปลายทางที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลักได้รับการจองเพิ่มขึ้น 60% ระหว่างไตรมาส 3/2562 และไตรมาส 3 ปี 2565
  1. ผู้คนเริ่มใช้ชีวิตต่างประเทศมากขึ้น โดยหลายคนเริ่มจะเดินทางตลอดซัมเมอร์ หรืออาจจะไม่พักอาศัยที่ไหนถาวร และเริ่มใช้วิถีชีวิตแบบดิจิทัล นอแมด
  • จากข้อมูลของ UNWTO ระบุว่า ผู้คนต้องการเปิดประสบการณ์ในประเทศใหม่ๆ โดยก่อนสถานการณ์โรคระบาดการเดินทางระหว่างประเทศมีการเติบโตขึ้นอย่างมาก จากนักเดินทาง 25 ล้านคนในปี 2493 มาสู่ 1.4 พันล้านคนในปี 2562
  • นักเดินทางกลุ่มครอบครัวการจองที่พักแบบระยะยาว Airbnb เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงซัมเมอร์ 2562- ซัมเมอร์ 2564
  • สัดส่วนของนักเดินทางที่จองที่พักระยะยาวบน Airbnb คือ กลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบดิจิทัล โนแมด และเติบโตขึ้นจาก 9% ในปี 2563 เป็น 12% ในปี 2564
  1. หลายประเทศต่างวางกลยุทธ์ในการดึงกลุ่มคนทำงานแบบ remote workers

ในหลายประเทศทั่วโลกในขณะนี้ต่างมีการปรับเปลี่ยนนโยบายวีซ่า และภาษีต่างๆ และมีหลายประเทศที่ปัจจุบันมีวีซ่ากลุ่มนักเดินทางแบบดิจิทัล โนแมด ด้านประเทศไทยเองก็ได้ประกาศใช้ประเทศไทยได้อนุมัติการออกวีซ่า 5 ปี รวมถึงสมาร์ทวีซ่า