ความทรงจำในวัยเยาว์อาจจะเคยทำให้เราอยากย้อนเวลากลับคืน แต่สิ่งที่ทำได้จริงก็คือการนำแรงบันดาลใจจากความทรงจำมาสานต่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
หากใครเคยจดจำบ้านของคุณปู่คุณย่า บ้านคุณตาคุณยาย ภาพที่แจ่มชัดของใครหลายคน คือเด็กน้อยที่วิ่งเล่นสนุกสนาน ท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่น แถมคุณปู่คุณย่าก็จะใจดีกับหลาน ๆ เป็นพิเศษ
บ้านไม้สีขาวในร่มไม้อายุ 64 ปีในซอยพหลโยธิน 17 เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของเด็กน้อยที่ชื่อ “ฟ้า” แต่ 15 ปี หลังจากที่บ้านหลังนี้ไม่มีผู้อยู่อาศัย และทิ้งร้างไปนาน “ฟ้า” ในวัยทำงานยังคงมีจิตวิญญาณเด็กน้อย และอยากฟื้นชีวิตให้กับบ้านหลังนี้ ให้เป็นสถานที่แห่งความประทับใจของผู้มาเยือน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ Narisa Cafe & Creative Space
บ้านแห่งประวัติศาสตร์และความทรงจำ
ดร.นริศ ชัยสูตร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอธิบดีกรมธนารักษ์ เล่าว่า บ้านหลังนี้สร้างขึ้นจากการปรับปรุงบ้านเก่าของคุณพ่อคุณแม่ เป็นอาคารเรือนครึ่งไม้ครึ่งตึก สร้างขึ้นในปี 2501 ทำด้วยไม้สัก ออกแบบโดย อาจารย์ประดิษฐ์ ยุวะพุกกะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบประเพณี) ซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติที่มีอายุยืนยาวมากถึง 96 ปี ผลงานสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมจึงมีอยู่ทุกหนแห่ง ครอบครัวของท่านเป็นช่างสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 จึงได้รับอิทธิพลและได้รับการสืบทอด ตลอดจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่านประสิทธิประสาทวิชการให้ เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ท่านยังได้ร่วมงานกับ อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ในช่วงที่ท่านรับราชการอยู่ที่กรมศิลปากร
สำหรับการปรับปรุงบ้านหลังนี้ให้เป็นร้านกาแฟ เป็นไอเดียของเจ้าของร้าน น้องฟ้า-นริศา ชัยสูตร ผู้เป็นหลานสาวที่ใกล้ชิดกับ คุณย่าสมจิตร ชัยสูตร คุณแม่ของ ดร.นริศ ชัยสูตร นั่นเอง
โดยคุณย่าสมจิตร เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ได้รับราชการอยู่ที่กรมศิลปากร ได้รู้จักใกล้ชิดกับศิลปินในด้านต่าง ๆ มากมาย และคุณย่าสมจิตร เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้น้องฟ้าสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และจบการศึกษาได้ปริญญาตรีเกียรตินิยม จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ จากนั้นได้จบปริญญาโทด้าน Marketing จาก Lancaster University ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการตลาดของประเทศอังกฤษ
Narisa Cafe & Creative Space จึงเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและการตลาด ยิ่งไปกว่านั้น น้องฟ้ายังเป็น blogger ที่มีประสบการณ์ด้านอาหารและท่องเที่ยว เคยเดินทางไปประเทศต่างๆมากกว่า 40 ประเทศ จึงมีผู้ติดตามข้อเขียนของน้องฟ้าเป็นจำนวนมาก
เรามีโอกาสได้แวะเวียนไปที่ Narisa Cafe & Creative Space ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในช่วง Soft Opening เพื่อทดสอบระบบการบริหารจัดการและรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้า แม้ตัวบ้านและพื้นที่โดยรอบจะรองรับผู้คนได้มาก แต่น้องฟ้าบอกว่า ขอเวลาในการจัดระบบทุกอย่างให้เข้าที่ เพื่อสร้างความประทับให้ลูกค้าได้มากที่สุด เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ แต่เป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ ในวันที่ยังมีลูกค้าไม่มากนัก เราจึงขอชิงตัวน้องฟ้ามาพูดคุยถึงแนวคิดของการสร้างฝันที่ชื่อ Narisa Cafe & Creative Space แห่งนี้
ความรัก ความผูกพัน ความฝันของฟ้า
“บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณปู่คุณย่า แต่ไม่มีใครอยู่มานานแล้ว ฟ้าผูกพันกับบ้านหลังนี้มาก ตอนเด็ก ๆ ช่วงปิดเทอมก็จะมาเที่ยวที่นี่ชอบมานอนอยู่กับปู่กับย่า ชอบมาเล่นที่บ้านนี้มาก เพราะสมัยก่อนบ้านพ่อที่บางกรวยห้ามเลี้ยงหมา แต่ที่นี่เลี้ยงหมาได้ เวลามาก็ได้เล่นกับหมา ได้อยู่กับคุณปู่คุณย่า ซึ่งฟ้าจะนอนกับคุณย่าตลอด พอคุณปู่เสียคุณย่าก็ย้ายไปอยู่กับพ่อที่บางกรวย ก็ยังนอนกับย่า
ตอนฟ้าเรียนอยู่ที่ศิลปากรแถวท่าพระ ก็ชอบนั่งดูตึกเก่า ชอบบรรยากาศเก่า ๆ ก็เลยรู้สึกดี เวลาที่ได้เห็นบ้านหลังนี้มีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ส่วนตัวฟ้าเองมีความชอบและอยากจะทำร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ มีความคิดมานานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส ก่อนหน้านี้ฟ้าทำงานโรงแรม และได้ลาออกจากงานประจำช่วงโควิด ก็คิดว่าเป็นจังหวะที่ดีแล้วที่เราจะค่อย ๆ เดินตามฝันของเราทีละนิด เริ่มจากการทำขนมขายทางออนไลน์ ปรับสูตรหาลูกค้า จนมีลูกค้าประจำ ก็ค่อย ๆ เริ่มวางแผนรีโนเวทบ้านหลังนี้แบบค่อยเป็นค่อยไป”
คงเค้าโครงเดิม เพิ่มเติมพื้นที่แห่งความสุข
ปัจจุบันบ้านหลังนี้แทบจะไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเลย บนชั้นสองยังไม่ได้ทำ มีแค่ด้านล่างที่ปรับปรุงเป็นเคาน์เตอร์ เพราะเคยโดนน้ำท่วม จนพื้นไม้สักเสียหายแทบทั้งหมด แต่ยังสามารถนำมาดัดแปลงเป็นชั้นวางของ เพราะอยากให้เป็นแบบเดิมมากที่สุด อย่างโต๊ะบนชั้นสองก็เป็นโต๊ะที่ปู่กับย่าได้มาเป็นของขวัญแต่งงาน เป็นโต๊ะแบบโบราณ สามารถแยกขยายออกได้ด้วย โครงสร้างยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ส่วนพื้นที่รอบบ้านด้านหน้าที่เคยมีสวน พอไม่มีใครอยู่ก็เทปูนให้เช่าจอดรถ ตอนนี้หน้าบ้านก็เลยโล่ง ๆ แต่ก็ยังมีพื้นที่สนามหญ้าและต้นไม้ใหญ่ด้านข้างและด้านหลัง
สมัยก่อนย่าเล่าให้ฟังว่าข้างพื้นที่หน้าบ้านจะร่มรื่นมาก และเคยขุดเป็นบ่อน้ำ ทุกเสาร์อาทิตย์จะมีเพื่อนบ้านมาเคาะประตู เพราะอยากมาเล่นน้ำ แต่ตอนหลังจึงต้องถมไป
ที่ใส่คำว่า ครีเอทีฟ สเปซ ไปด้วย เพราะว่าฟ้าอยากทำมากกว่าแค่คาเฟ่ อย่างชั้นบน ถ้าเป็นไปได้อยากทำเป็นห้องประชุม การจัดอีเวนต์เล็ก ๆ 8-10 คน หรือแม้กระทั่งพื้นที่ในสวน ก็อยากให้รองรับการจัดงานกลุ่มเล็ก ๆ เป็นพื้นที่เวิร์คช้อปงานศิลปะ ตลาดนัดวันอาทิตย์ หรืออาจจะเป็นเชฟเมเบิ้ล ก็จะรวมทุกอย่างที่เราชอบไว้ที่นี่ ซึ่งเป็นแผนไปเฟสถัดไป อย่างเพื่อนฟ้ามาดูก็บอกว่าอยากจัดงานแต่งงานที่นี่ ก็จะเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่ทุกคนสามารถมาทำกิจกรรมร่วมกันได้”
นริศา สไตล์-นริศาซิกเนเจอร์
ช่วงแรกเคยจ้างดีไซเนอร์มาออกแบบ แต่เขาออกแบบไม่เป็นตัวเราเท่าไหร่ เลยตัดสินใจว่าออกแบบเอง ก็ออกมาในแบบที่ชอบ ไม่เล็กไม่ใหญ่มากเกินไป สำคัญคือต้องดูแลไหว ส่วนสไตล์ฟ้ายังมองว่ามันเป็น “นริศาสไตล์” ทุกอย่างเป็นตัวฟ้า จาน ชาม สี ดอกไม้เราก็เลือกสีที่เราชอบ การปลูกต้นไม้ดอกไม้ก็แบบที่เราชอบ ไม่ใช่มินิมอลแบบเกาหลีที่เป็นขาว แต่มันมีฟ้า มีสีเหลือง ตกแต่งด้วยภาพวาดฝีมือของเราเอง
ก่อนจะเปิดตัวเป็นคาเฟ่ ฟ้าทำร้านออนไลน์มาปีกว่า เลือกทำเฉพาะขนมที่เป็นเมนูขายดี พอมาเปิดร้านก็จะมีทั้งขนมและกาแฟ ซึ่งฟ้าตั้งใจว่าอยากให้มีคุณภาพทั้งขนม กาแฟ และเครื่องดื่ม ปีที่แล้วฟ้าตระเวนไปตามคาเฟ่ต่าง ๆ น่าจะเป็นร้อยร้าน เพื่อดูว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไรในคาเฟ่นั้น ๆ กาแฟต้องประมาณไหน ราคาประมาณเท่าไหร่
Espresso Con Panna เป็นซิกเนเจอร์ที่ฟ้าคิดค้นขึ้นจากความชอบของตัวเอง เพราะเคยไปทานกาแฟที่ร้านหนึ่งแล้วมีครีม ซึ่งเมืองไทยหาไม่ง่ายนัก จึงเลือกมาเป็นเมนูของตัวเอง และ Narisa Latte ซึ่งเป็นสีฟ้ามาจากชื่อฟ้า ส่วนผสมจากอัญชัน เพิ่มความพิเศษด้วยอัลมอนด์ ซึ่งทำให้มีความแตกต่างจากที่อื่น รสชาติละมุน หวานน้อย เป็นได้ทั้งเมนูร้อนและเย็น
ส่วนขนมก็มาจากร้านขนมออนไลน์ที่ฟ้าขายดีตลอด คือ ซอฟท์คุกกี้ ใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยมทุกอย่าง และที่สำคัญคือหวานน้อย และ เลมอนทาร์ต ก็เป็นตัวที่ขายดี ก็นำมาขายที่นี่เช่นกัน”
เพราะทุกเส้นทางคือความท้าทาย
“สิ่งที่บ้านฟ้าไม่มีเลยคือความเป็นนักธุรกิจ จึงถือว่าค่อนข้างใหม่มาก พ่อก็เป็นราชการ แม่ก็เป็นข้าราชการ ฟ้าจบศิลปะที่ศิลปากร และจบปริญญาโทด้านมาเก็ตติ้งที่อังกฤษ แต่ก็ไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน จึงเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ใหม่ แต่ด้านมาร์เก็ตติ้ง ฟ้าไม่กลัว มีแพลนอยู่เต็มหัว เพียงแต่เรายังไม่พร้อมที่โปรโมท เพราะอยากให้น้อง ๆ ทำออเดอร์ออกไว ทุกอย่างต้องไม่ติดขัด มาแล้วได้ทั้งบรรยากาศและความประทับใจจริง ๆ
ตอนนี้ก็พยายามฟังคอมเม้นต์จากทุกคน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และพยายามปรับปรุงอยู่ อยากให้ทุกคนมาแล้ว รู้สึกว่าเป็นคาเฟ่ที่จับต้องได้ มานั่งเล่นช่วงเช้าช่วงสาย หรือจะมานั่งในสวนตอนเย็น ๆ บ้านหลังใหญ่สีขาว รอเปิดประตูต้อนรับทุกคนอยู่เสมอค่ะ”
เราได้คุยกับน้องฟ้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่เธอจะต้องกลับไปประจำที่เคาน์เตอร์ คอยดูแลและให้คำปรึกษาพนักงานในร้าน และคอยบริการลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาเติมความสดชื่น เป็นอีกมุมที่อบอุ่นใจ ท่ามกลางตึกสูงใหญ่ที่รายล้อม เมื่อได้นั่งมองตัวบ้าน ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ ยิ่งทำให้สัมผัสได้ถึง ความสุข ความผูกพันที่ไม่เคยจากหาย
Narisa Café & Creative Space
บ้านเลขที่ 5 ซอยพหลโยธิน 17 กรุงเทพฯ
Facebook/ Narisa Cafe & Creative Space
เวลาเปิดให้บริการช่วง Soft Opening
เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00- 17.00 น.
จันทร์ และ ศุกร์ ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น.
การเดินทาง
มีที่จอดรถด้านหน้าร้าน 8-10 คัน
สามารถจอดรถที่เซ็นทรัลลาดพร้าว /โลตัสลาดพร้าว แล้วเดินมาบ้านเลขที่ 5 ซอยพหลโยธิน 17
รถไฟฟ้า BTS ห้าแยกลาดพร้าว ทางออก 3
(เดินเข้าซอยประมาณ 200 เมตร)