หลังจากรัฐบาลประกาศยกเลิกระบบ Test and Go เพื่อเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป นับเป็นการส่งสัญญานบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย นับเป็นข่าวที่สร้างความมั่นใจให้กับภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ค้าปลีก ซึ่งสองปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19
แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดังที่ “มาริสา สุโกศล หนุนภักดี” นายกสมาคมโรงแรมไทย ให้ความเห็นว่า หลังจากประกาศเปิดประเทศ โดยลดทอนขั้นตอนในการเข้ามาในประเทศไทยแล้ว ธุรกิจท่องเที่ยวก็จะค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติ โดยจะเติบโตเป็นดาวเด่นดังเช่นที่ผ่านมาได้ประมาณปี 2567 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และพร้อมพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจอยู่เสมอ
ในเดือนกันยายนนี้ จะมีการจัดงานใหญ่แห่งปี ที่คนในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวอย่างโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เชฟ ค้าปลีก จะมารวมตัวกันเพื่อการอัพเดทเทรนด์ต่าง ๆ แม้จะหยุดจัดไปในช่วงแพร่ระบาดโรคโควิด-19 แต่ปีนี้ เมื่อสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น การจัดงานจึงกลับมาอีกครั้ง ภายใต้ชื่อ “ฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022” ซึ่งจัดโดยสมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมบาริสต้า สมาคมเชพประเทศไทย สมาคมค้าปลีกไทย และ กว่า 15 องค์กรท่องเที่ยว-บริการไทยและนานาชาติ ร่วม อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์
ธุรกิจโรงแรมคาดอีก 2 ปีเที่ยวไทยสดใสเหมือนดังเดิม
นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในปีนี้ถือเป็นปีเริ่มต้นของการฟื้นฟู คาดว่าครึ่งปีหลังจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ซึ่งธุรกิจโรงแรมก็จะดีขึ้นตามไปด้วย ส่วนความร่วมมือในการจัดงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 นั้น นับเป็นงานเดียวที่สมาคมฯ ร่วมมือในการจัดงานมายาวนานกว่า 20 ปี ครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญเป็นเวทีใหญ่ของการแลกเปลี่ยนความรู้ เป็นการรวมตัวของผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้า บริการ เทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เพื่อนำมาปรับใช้และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ในทุกๆ ด้านตามรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) พร้อมสร้างความปลอดภัยและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคให้แก่ลูกค้า โดยไม่ลืมเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้ามองหา ธุรกิจโรงแรมต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกๆ ด้าน ส่วนกิจกรรมของสมาคมในงานฯ นั้น ประกอบด้วยการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี การเสวนาที่น่าสนใจ อาทิ การพัฒนามาตรฐานโรงแรมอย่างไรให้ยั่งยืนและแข่งขันได้ ฯลฯ
“สองปีที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โควิด-19 มีการลดต้นทุน มีการลดพนักงานประมาณ 50% เพื่อประคับประคองธุรกิจไว้ กลุ่มโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็กอาจมีการปิดตัวลงไปบ้าง แต่คาดว่าหลังจากการเปิดประเทศตั้งแต่ 1 พ.ค. นี้แล้วธุรกิจโรงแรมจะสามารถบริการจัดการต้นทุนได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะกลับมาเป็นปกติได้ในปี 2567 หรืออีกสองปีข้างหน้า”
ธุรกิจร้านอาหารชี้ต้องปรับตัวรับการแข่งขัน
ด้านนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารนับว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายธุรกิจในภาคท่องเที่ยว เมื่อภาครัฐเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น การบริโภคก็มากขึ้นตามไปด้วย โดยอาหารไทยก็เป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติเช่นกัน สำหรับความร่วมมือในการจัดงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 นั้น สมาคมฯ ได้ร่วมจัดงานฯ มากว่า 15 ปี โดยจุดนัดพบสำคัญประจำปีของผู้ประกอบการธุรกิจและผู้สนใจในธุรกิจอาหารทั่วประเทศ ที่มารวมตัวกันแลกเปลี่ยนความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ อัพเดทเทรนด์ มองหาวัตถุดิบ อุปกรณ์ เทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในธุรกิจ รวมถึงการจัดประชุม สัมมนา และให้ความรู้ โดยปีนี้จะมุ่งเน้นที่การพัฒนาธุรกิจอาหารอย่างไรให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในโลกสมัยใหม่ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีโซนธุรกิจร้านอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar Thailand) เกิดขึ้นใหม่ สมาคมฯ เองก็ได้เตรียมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ไว้สำหรับผู้ร่วมงานด้วยอย่างมากมายเช่นกัน
“ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารได้รับภาระหนักจากต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งราคาวัตถุดิบ ราคาน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อการขนส่ง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในสมาคมฯส่วนใหญ่ ยังไม่มีนโยบายขึ้นราคา เนื่องจากปัจจุบันลูกค้ามีทางเลือกมากและเปลี่ยนแปลงได้เร็ว จึงต้องคงราคาเพื่อรักษาลูกค้าไว้ ปัจจุบันมีผู้หันเข้ามาในธุรกิจร้านอาหารเป็นจำนวนมาก มีร้านอาหารสตรีทฟู้ดในประเทศไทยกว่า 3-4 แสนร้าน โฮมคิทเช่นประมาณ 1 แสนร้าน เกิดการแข่งขันที่สูงมาก จึงปฎิเสธไม่ได้ที่จะต้องเรียนรู้เทคโนโนโลยีเพื่อรองรับพฤตกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป”
สมาคมบาริสต้าพร้อมหนุนการพัฒนากาแฟไทย
ด้านนายมีชัย อมรพัฒนกุล นายกสมาคมบาริสต้าไทย กล่าวว่า ในภาวะปกติธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟเติบโตอยู่ที่ 3-5% มูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท แต่สถานการณ์โควิดทำให้สภาพตลาดอยู่ในภาวะคงที่ หลังจากนี้มองว่าตลาดจะทยอยกลับสู่ภาวะปกติจากสัญญาณการฟื้นตัวที่เห็นได้ชัดขึ้น เมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาการบริโภคก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟยังถือว่าอยู่ในช่วงที่เติบโตได้ เรายังเห็นผู้ผลิต จัดจำหน่ายและร้านกาแฟใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ทางสมาคมฯ และผู้จัดงานงานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 มีเป้าหมายที่จะพัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งได้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมแล้ว อาทิ การสนับสนุนบาริสต้าไทยในการแข่งขันระดับโลกจนได้เป็นแชมป์ World Latte Art ในปี 2017 และปีนี้จะมีโซนธุรกิจกาแฟและเบเกอรี่ (Coffee & Bakery Thailand) โดยเฉพาะ เป็นโซนที่รวมสินค้า อุปกรณ์ บริการ และผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟและธุรกิจกาแฟที่พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้และให้คำแนะนำในการดำเนินธุรกิจ โดยสมาคมฯ จะมีการจัดกิจกรรมแข่งขันสำคัญ 2 รายการ คือ การแข่งขันศิลปะบนถ้วยกาแฟ (Thailand National Latte Art Championship (TNLAC) และการสร้างสรรค์เครื่องดื่มจากกาแฟ (Thailand National Coffee in Good Spirits Championship (TNCIGS) ) เพื่อหาตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันเวทีระดับโลกอีกด้วย
ขยายการจัดงานครอบคลุมบริการต้อนรับนักท่องเที่ยว
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงานฯ กล่าวว่า งานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 พัฒนาต่อยอดจากงานฟู้ดแอนด์โฮเทล ไทยแลนด์ ที่จัดขึ้นต่อเนื่องกว่า 28 ปี โดยเป็นการกลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ทั้งการขยายการจัดงานจากกลุ่มอาหาร ท่องเที่ยว โรงแรม ครอบคลุมถึงธุรกิจต่อเนื่องในกลุ่มบริการ สปา โรงพยาบาล ค้าปลีก โลจิสติกส์ ฯลฯ ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและทำให้งานครบวงจรมากขึ้น การเพิ่มโซนจัดแสดงใหม่ 2 โซน คือ โซนธุรกิจกาแฟและเบเกอรี่ (Coffee & Bakery Thailand) โซนธุรกิจร้านอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar Thailand) และสถานที่จัดงานใหม่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่จัดงาน 10,000 ตารางเมตร พร้อมคงจุดเด่นในส่วนต่างๆ ไว้ครบถ้วน ทั้งการจัดแสดงและพาวิลเลี่ยนนานาชาติ ซึ่งขณะนี้มีการตอบรับเข้าร่วมงาน จากประเทศญี่ปุ่น อิตาลี กว่า 20 บริษัท และจะเพิ่มขึ้นจากอีกหลายประเทศอย่างแน่นอน กิจกรรมการฝึกอบรม การประชุมสัมมนาจากสมาคมพันธมิตรกว่า 20 องค์กร การแข่งขัน การประกวด ฯลฯ และไฮไลท์การจัดแสดงสินค้าและบริการจากกว่า 300 บริษัทชั้นนำทั่วโลก
จึงเป็นโอกาสดีของทั้งผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการผู้ผลิตวัตถุดิบอาหาร อุปกรณ์ในร้านอาหารและธุรกิจบริการ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์ และผู้ให้บริการในกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม บริการในการเข้ามาร่วมจัดแสดงงานฯ และอยากเชิญให้ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ รวมถึงผู้สนใจเข้ามาเยี่ยมชมงาน เพราะจะได้พบกับสินค้าอาหารและอุปกรณ์ระดับพรีเมียม เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ การแข่งขัน การประชุม การสัมมนา Workshop พร้อมทั้งพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้และเจรจาธุรกิจกับผู้ร่วมจัดแสดงงานทั้งโลกได้ทั้งแบบ Online และ Onground
งานฟู้ด แอนด์ ฮอสพิทาลิตี้ ไทยแลนด์ 2022 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 24 กันยายน 2565 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าและผู้สนใจรายละเอียดการจัดงานเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.fhtevent.com ติดต่อ คุณสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร อีเมล Supaporn.a@informa.com หรือ โทร.02-036-0500
