ไม่ว่าจะเป็นอาหารจากชนชาติใด ต้นทางของวัตถุดิบมีความสำคัญเสมอ อาหารของแต่ละประเทศใช้การผสมผสานศิลปะและภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นเข้าไป เมื่อทุกอย่างรวมตัวกันภายใต้คำว่า “ความตั้งใจ” ก็กลายเป็นอาหารจานพิเศษ
เพราะการทำอาหารคือการแสดงออกถึงความรักความห่วงใย เรามีแม่ครัวที่เก่งที่สุดตั้งแต่เกิด มีสูตรเด็ดเคล็บลับประจำบ้านเป็นมรดก เชฟหลายคนมีเมนูในความทรงจำท่ามกลางบรรยากาศในวัยเยาว์ที่ยังอบอุ่นเสมอ เช่นเดียวกับเขา “Adolfo Faccin” (อดอลโฟ ฟาซิน) ชายชาวอิตาลีอารมณ์ดี เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียน “Buonissimo” (บูโอนิชชิโม)
“อดอลโฟ” เป็นอดีตวิศวกร เขาเป็นนักชิมตัวยง การทำอาหารเป็นงานอดิเรกของเขา เขาอยู่ในเมืองไทยมาประมาณ 30 ปี และมีประสบการณ์ในการเปิดร้านอาหารอิตาเลียนในกรุงเทพมาก่อน จนในช่วงโควิด-19 เขาได้มาพบพื้นที่เปิดร้านแห่งใหม่ ในซอยศรีด่าน 6 ถ.ศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยพบว่า มีตึกที่สามารถเปิดร้านขนาดใหญ่กำลังดี เข้าซอยเพียง 100 เมตร เป็นทำเลที่กำลังได้รับการพัฒนาจากโครงการรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง
ปลายปี 2020 “Buonissimo” จึงถือกำเนิดขึ้นในย่านแห่งนี้ แม้จะห่างไกลใจกลางกรุง ไม่ใช่แหล่งที่มีชาวต่างชาติที่คึกคักมากนัก แต่สี่เดือนแรกหลังจากทดลองตลาดเดลิเวอรี่ เขาก็พบว่า “คนไทย” กับ “พิซซ่า” ไม่ใช่เรื่องที่ห่างไกลกันเลย โดยเฉพาะพิซซ่าสไตล์อิตาเลียนแท้ แป้งบางกรอบนอกนุ่มใน ใช้วัตถุดิบอย่างดี นำเสนอในราคาที่จับต้องได้ เทียบแล้วถูกกว่าแบรนด์ใหญ่ในตลาดเสียด้วยซ้ำ ทำให้การเปิดตัวในตอนนั้นมีผลตอบรับที่ดี ปัจจุบันทางร้านขายพิซซ่าทางออนไลน์ได้กว่า 600 ถาดต่อเดือน
วันที่ไปเยือนร้านอาหาร Buonissimo ได้บรรยากาศเหมือนไปเที่ยวบ้านเพื่อน เพื่อนชาวอิตาลีคนนี้มีอัธยาศัยที่ดี เช่นเดียวกับชาวอิตาลีคนอื่น ๆ ในร้าน ทั้ง “Mattia” ผู้จัดการร้าน คนเวนิสบ้านเดียวกับ “อดอลโฟ” รวมทั้ง “Carlo” นักดนตรีชาวอิตาลีที่มาอยู่ในเมืองไทย ซึ่งมาโชว์ลีลาแมนโดลินทั้งเพลงไทยและสากล เป็นการเพิ่มเติมบรรยากาศอันอบอุ่น
เตาถ่านที่ติดตั้งภายในร้านโดดเด่น โชว์ให้ลูกค้าได้เห็นกระบวนการตั้งแต่เตรียมแป้งไปจนเสิร์ฟถึงโต๊ะ นี่คือเสน่ห์เล็ก ๆ ของอาหารแบบโฮมเมด ระยะเวลาที่นั่งอยู่ในร้านเราเห็นไรเดอร์แวะเข้ามารับพิซซ่าตามออร์เดอร์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นเรายังได้ชมการรีดเส้นพาสต้าโฮมเมด ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ทำขึ้นวันต่อวัน
“อดอล์ฟ” เล่าว่า วัตถุดิบมีส่วนสำคัญมากสำหรับอาหารอิตาเลียน หลายอย่างจึงต้องอาศัยการนำเข้าจากอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นชีส ไส้กรอก พริก แองโชวี่ ฯลฯ ขณะที่หัวใจรักในการทำอาหาร เป็นสิ่งที่อยู่ติดตัวเขาตลอดเวลา
วันนี้ออกสตาร์ทด้วย “สลัดบูราต้าชีส พาร์มาแฮม” (BURRATA E PROSCIUTTO DI PARMA) เมนูแรกที่แอบซ่อนความลับแสนอร่อยไว้ภายใน เป็นบูราต้าชีสถุงกลมเนื้อเนียน ด้านในซ่อนชีสครีมนุ่มละมุน ล้อมด้วยพาร์มาแฮมเกรดดี ร็อกเก็ตสลัดและมะเขือเทศเชอรี่ เหยาะบัลซามิกโฮมเมดหอม ๆ เปรี้ยวกำลังดี ได้รสชาติแห่งการทักทายแบบชาวอิตาลี
ต่อด้วย “มิกซ์ บรูสเก็ตต้า” (MIXED BRUSCHETTA) ขนมปังโฮมเมด ทำจากแป้งสาลีคาร์โบไฮเดรตต่ำ สดใหม่ทุกวัน นำมาปิ้งและท้อปปิ้งสไตล์อิตาเลียนที่สามารถเลือกหน้าได้ถึง 5 ชิ้น 5 แบบ จากสิบกว่ารายการ
ไปต่อด้วย “ซีฟู้ดซุปไวท์ไวน์ซอส” (SAUTE AI FRUTTI DI MARE) ซุปรสชาตินุ่ม ๆ หอมละมุน ด้วยความสดจากอาหารทะเล ทั้งกุ้ง หอย และหมึก หอมกลิ่นกระเทียมจาง ๆ และพาร์สลีย์
มาถึงเมนูจากพาสต้าโฮมเมด ทางร้านมีพาสต้าหลายแบบให้เลือก ปรุงได้หลากหลายเมนู วันนี้มี 3 เมนูมาแนะนำ
เริ่มจาก “พาสต้ากุ้งและซูกินี่” (GAMBERI E ZUCCHINE) ที่เลือกใช้เส้นพาสต้าทาญเลียเตลเล่ (TAGLIATELLE) ผัดกับมะเขือเทศเชอรี่และซูกินี่ ที่มีลักษณะคล้ายบวบลูกเล็ก แต่ความกรุบกรอบต่างกัน เส้นเหนียวนุ่มกำลังดี
“ราวิโอนี่ครีมซอสเห็ดไส้กรอกอิตาเลียน” (BOSCAIOLA) ใช้ตัวพาสต้าราวิโอลี่ (RAVIOLI) ที่มีลักษณะคล้ายเกี๊ยวรูปสี่เหลี่ยม ตัวราวิโอลี่นุ่มหนึบกำลังดี ไม่นิ่มหรือแข็งจนเกินไป ซอสครีมหอมละมุน เมื่อกัดเข้าไปในไส้ชีสด้านในแป้งยิ่งทำให้ได้สัมผัสรสที่เต็มไปด้วยชั้นเชิง
พาสต้าโฮมเมดอีกตัวที่ได้ลิ้มลองวันนี้คือ MEDAGLIONI มาในเมนู “พาสต้าไส้ผักโขมและแองโชวี่” (PUTTANESCA PICCANTE) จานนี้จะมีรสเข้มข้น จากส่วนผสมของซอสมะเขือเทศ แองโชวี่ และมะกอกดำ เป็นอีกตัวที่แสดงถึงความพิถีพิถันในการรังสรรค์อาหารสไตล์อิตาลี ในรสชาติที่นักชิมเข้าถึงได้ไม่ยาก
ทางร้านมีเมนคอร์สให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งเมนูเส้น เมนูเนื้อ และเมนูซีฟู้ด วันนี้เชฟขอเสนอ “เสต็กเนื้อปลากะพง เลม่อนซอส” (FILETTO DI BRANZINO SERVITO CON SALSA AL LIMONE) อีกเมนูที่คุ้นลิ้นคนไทย แต่ด้วยกรรมวิธีที่ไม่ทำให้เสียรสชาติปลามากเกินไป ดูภายนอกเนื้อปลาจึงดูเสมือนไร้การปรุงแต่ง แต่ลองได้ชิมแล้ว จะมีความปะแล่มของรสเค็มมาเสริมแต่งความสดของเนื้อปลาที่มีความหวานในตัว เมื่อราดเลม่อนซอสลงไป ได้สัมผัสที่แตกต่าง แน่นอนว่าอร่อยได้สุขภาพ
มาถึงเมนูเด็ดที่คนไทยคุ้นเคยอย่างพิซซ่า วันนี้เชฟนำเสนอพิซซ่าแบบ 2 หน้า เพื่อจะได้ชิมกันทั้งสองแบบ โดยพิซซ่าสองหน้าจะคิดราคาตามหน้าที่แพงกว่า
พิซซ่าเตาถ่านสไตล์อิตาลี ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็หอมกรุ่นออกจากเตา วางลงเพื่อเติมรสชาติบางอย่าง วันนี้ครึ่งหนึ่งเป็น พิซซ่า “ดิอาโวล่า” (DIAVOLA) ชื่อ DIAVOLA ภาษาอิตาลีมาจาก “Devil” ซึ่งหมายถึงปีศาจ จึงเป็นพิซซ่าปีศาจที่มีรสร้อนแรงจากซาลามี่รสเผ็ด เมื่ออบเสร็จแล้วก็จะเหยาะด้วยน้ำมันพริก ให้ความเผ็ดร้อนกำลังดี เป็นอีกเมนูที่คนไทยชอบมาก
อีกครึ่งเป็น “บูโอนิชชิโม” (BUONISSIMO-370) ซิกเนเจอร์ของทางร้าน หน้าชีส แฮมเห็ด ซาลามี พริกหวาน และมะกอกดำ ถาดใหญ่จัดเต็ม ตัวแป้งที่นุ่มหนึบได้ที่ กรอบนอกนุ่มในจริง ๆ ทั้งยังหอมกลิ่นเตาถ่าน ผสานกับรสชาติของวัตถุดิบที่อร่อยลงตัว
ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานสไตล์อิตาลีที่ทางร้านตั้งใจนำเสนอ “เซมิเฟรโด” (SEMIFREDDO-180 บาท) เป็นของหวานสไตล์อิตาเลียนที่มีความเป็นเอกลักษณ์แบบ Half Cold หรือเย็นครึ่ง ๆ ตัวขนมเหมือนมูสแช่แข็ง แต่มีความฉ่ำนุ่มละมุนคล้ายไอศกรีม นำเสนอมาในรสกาแฟอ่อน ๆ ตัดกับความกรอบของเนื้อคุ้กกี้เล็ก ๆ หวานเย็นชื่นใจ
อีกเมนูชื่อว่า “CANNOLI” (CANOLI WITH ICE CREAM TOPPING) คาโนลี เป็นขนมแป้งทอดสไตล์อิตาเลียน ตัวแป้งจะกรอบมากภายในอัดแน่นไปด้วยครีมชีสรีคอตต้ารสหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีม โรยช็อกโกแลต เป็นของหวานที่ชวนฝัน เชฟบอกว่าไม่นิยมตัดด้วยช้อน ให้ใช้มือยกขึ้นมาเข้าปากได้เลยจะได้รสชาติเต็ม ๆ
ทางร้านยังมีสินค้าตัวเด็ดจากภูมิปัญญาของชาวอิตาลี “HOMEMADE ORANGE BALSAMIC REDUCTION” บัลซามิกที่ผ่านการหมักอย่างดี เปรี้ยวกลมกล่อม ใครได้ชิมแล้วก็อยากจะซื้อกลับไปเหยาะสลัดหรือปรุงอาหารที่บ้าน
ทางร้านมีเครื่องดื่มต่าง ๆ ให้บริการหลากหลาย แวะมาเพลิดเพลินกับความพิถีพิถัน การรังสรรค์อย่างตั้งใจ ภายใต้บรรยากาศอันอบอุ่น ใครที่บอกว่าไม่เคยกินอาหารอิตาเลียนหรือกินไม่เป็นต้องได้ลอง เพราะทางร้านได้ปรับหลายอย่างให้เข้ากับลิ้นของคนไทย เช่น พาสต้าของอิตาลี อาจจะนิยมให้แป้งยังแข็งเคี้ยวแล้วกรุบ ๆ เล็กน้อย ขณะที่คนไทยชอบความนุ่ม เขาก็ได้ปรับเพื่อเอาใจลูกค้ามากขึ้น เป็นต้น
30 ปีที่อยู่ในเมืองไทย และ “อดอลโฟ” ก็มีภรรยาชาวไทย เขาเองก็ชอบกินอาหารไทย และอยากให้คนไทยได้ลิ้มรสอาหารอิตาเลียนจากความตั้งใจของเขาเช่นกัน
ร้านอาหารอิตาเลียน “บูโอนิชชิโม”
Buonissimo Italian Restaurant & Pizzeria
เลขที่ 29/8 ซอยศรีด่าน 6 (เข้าซอยเพียง 100 เมตร)
ถนนศรีนครินทร์ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เปิดให้บริการ 11.00-22.00 น.
(มีดนตรีสดทุกคืนวันศุกร์และโอกาสพิเศษต่าง ๆ)
บริการเดลิเวอรี่ ROBINHOOD, GRAB และ LINEMAN
รายละเอียดเพิ่มเติมที่
Facebook/ Buonissimo Italian Restaurant & Pizzeria
LINE/IG @buonissimo.bkk
โทร. 0 2004 4741, 09 6370 0749