Dyson เผยผลงานล่าสุดของแผนพัฒนาลับด้านหุ่นยนต์เพื่อช่วยงานในบ้าน ภายในงานประชุมนานาชาติด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (ICRA) ที่จัดขึ้นในรัฐฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา พร้อมเชิญชวนวิศวกรด้านหุ่นยนต์มาร่วมกระบวนการในการพัฒนาสู่อนาคตของเทคโนโลยีหุ่นยนต์
ภายในงาน Dyson ได้เผยถึงความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าสู่นวัตกรรมขั้นสูงด้านหุ่นยนต์ และเผยถึงการพัฒนาอันรวดเร็วในการสร้างอุปกรณ์อัตโนมัติที่สามารถช่วยทำงานบ้านหรืองานอื่นๆ ได้ โดยในวิดีโอที่เปิดภายในงานและแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบโดย Dyson คล้ายมือหยิบจับสิ่งของ อันเป็นสัญญาณว่า Dyson กำลังเดินหน้าพัฒนาไปไกลกว่าแค่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นธรรมดา นำโดยหัวหน้าทีมวิศวกรอย่าง Jake Dyson ที่นำทีมในโครงการลับที่วิจัยและพัฒนาภายในศูนย์ Hullavington Airfield ในเมือง Wilshire
Dyson ได้เดินมาถึงครึ่งทางในการสรรหาบุคลากรด้านวิศวกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ภายในปีนี้ Dyson ได้จ้างงานไปแล้วกว่า 2,000 คน โดย 50 เปอร์เซนต์คือวิศวกร นักวิทยาศาตร์ และ นักเขียนโค้ด เพื่อเสริมกำลังขับเคลื่อนสู่เป้าหมายด้านศาสตร์หุ่นยนต์อย่างจริงจัง โดยได้ทำการจ้างวิศวกรเฉพาะทางแล้วกว่า 250 คนในหลากหลายแขนง
ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์วิทัศน์, แมชชีนเลิร์นนิ่ง, เซนเซอร์, และเมคคาทรอนิกส์ และคาดว่าจะจ้างงานวิศวกรด้านหุ่นยนต์เพิ่มขึ้นอีก 700 ตำแหน่งภายในระยะเวลา 5 ปี โดยแผนหลักคือการสร้างให้ศูนย์ Hullavington Airfield กลายเป็นศูนย์วิจัยด้านหุ่นยนต์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในสหราชอาณาจักรเพื่อนำเทคโนโลยีที่ได้จากการค้นคว้ามาใช้ในบ้านภายในทศวรรษนี้
โดยวิศวกรที่จะมาร่วมงานกับ Dyson จะประจำอยู่ 2 ที่ ได้แก่ศูนย์ Hullavington Airfield ที่เมือง Wiltshire ใกล้กับห้องปฏิบัติการเดิมของ Dyson ที่อิมพีเรียลคอลเลจ และสำนักงานใหญ่ของ Dyson ในประเทศสิงคโปร์ โดยภายใน 6 เดือนที่ผ่านมาได้ทำการปรับปรุงอาคารหลัก ในศูนย์ Hullavington Airfield เพื่อต้อนรับนักพัฒนาหุ่นยนต์ 250 ชีวิต การปรับปรุงแปลงโฉมในครั้งนี้นับเป็นขั้นตอนล่าสุดของแผนการพัฒนามูลค่า 2,750 ล้านปอนด์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และสิ่งอำนวยความสะดวก โดยในปีนี้จะใช้งบลงทุนโดยประมาณที่ 600 ล้านปอนด์
Jake Dyson หัวหน้าทีมวิศวกรของ Dyson กล่าวว่า “Dyson จ้างนักพัฒนาหุ่นยนต์คนแรกเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว จนกระทั่งปีนี้เรากำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด่นหุ่นยนต์เพิ่มถึง 250 คน ถือเป็นการลงทุนในอนาคตด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่จะขับเคลื่อนการวิจัยของ Dyson ทั้งหมด ทั้งในด้านวิศวกรรมเครื่องจักร ระบบวิชั่น แมชชีนเลิร์นนิ่ง และการกักเก็บพลังงาน ดังนั้นเราจึงต้องการกลุ่มคนที่เก่งที่สุดมาร่วมงานกับเรา”
ก่อนหน้าการพัฒนาด้านหุ่นยนต์ในครั้งนี้ หุ่นยนต์ของ Dyson ที่มีได้แก่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น โดยมี DC06 เป็นรุ่นแรกที่ออกแบบเมื่อ 20 ปีที่แล้ว จนกลายเป็นตัวต้นแบบที่นำมาแสดงในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งในด้านการควบคุมหุ่นยนต์ แมชชีนเลิร์นนิ่ง การรับรู้ด้านภาพ ตลอดจนการควมคุมและการสั่งการ ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนเพื่ออนาคตของ Dyson แล้วยังแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรายังต้องพัฒนาต่อไปอีกด้วย