ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เดินหน้าสานต่อความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาขยะพลาสติก เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลับมาใช้ใหม่ ผนึกความร่วมมือกับ ท็อปส์ มาร์เก็ตในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดตัวสถานีเติมผลิตภัณฑ์ หรือ รีฟิล สเตชั่นแห่งแรกของยูนิลีเวอร์อย่างเป็นทางการที่ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขา เซ็นทรัล เวสต์เกต
อันเนอมาริเค่อ เดอ ฮาน ประธานบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์ครัวเรือนภาคพื้นอาเซียน และประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ พม่า กัมพูชา และลาว เปิดเผยว่า จากการสำรวจเทรนด์ในประเทศไทย พบว่า 73% ของผู้บริโภคชาวไทย มีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ 72% ต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งผลสำรวจนี้แสดงให้เห็นถึงกระแสหลักที่คนไทยให้ความสนใจในการดูแลรักษาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย จึงตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง ท็อปส์ มาร์เก็ต ดำเนินการโครงการนำร่องสถานีเติมผลิตภัณฑ์ หรือ รีฟิล สเตชั่น ที่ท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาเซ็นทรัล เวสต์เกต
โดย รีฟิล สเตชั่น แห่งแรกของยูนิลีเวอร์นี้ เปิดตัวเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2565 เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงและดำเนินการช่วยปรับปรุงสุขภาพของโลกได้มากขึ้น เริ่มต้นจากผู้บริโภคและลูกค้าของท็อปส์ มาร์เก็ต สามารถนำบรรจุภัณฑ์เดิมที่ทำความสะอาดแล้วขนาดตั้งแต่ 1 ลิตรขึ้นไป มาเติมผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ท อัลตร้า เดลี่ เฟรช สูตรเข้มข้นพิเศษ ที่มีเทคโนโลยีปกป้องใยผ้า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยย่อยสลายตามธรรมชาติได้ถึง 90%
และ คอมฟอร์ท เพียวที่มีส่วนผสมต้นกำเนิดมาจากธรรมชาติ 100% สูตรอ่อนโยนต่อผิว โดยผ่านการทดสอบการระคายเคืองโดยสถาบันแพทย์ผิวหนัง ทั้งนี้ผู้บริโภคจะไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพ เพราะผลิตภัณฑ์จาก รีฟิล สเตชั่น ของแบรนด์คอมฟอร์ท มีคุณภาพไม่ต่างไปจากสินค้าที่จำหน่ายบนชั้นวางปกติ นอกจากผู้บริโภคจะได้สินค้าคุณภาพแล้ว ยังสามารถช่วยลดค่าครองชีพ โดยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 30% ด้วยวิธีง่ายๆ เพียง 5 ขั้นตอน
“เราเชื่อว่าเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เราต้องคิดใหม่เกี่ยวกับระบบการจัดการพลาสติกของเรา ในฐานะกลุ่มผู้ผลิต เรามีโอกาสในการเลือกบรรจุภัณฑ์อย่างรับผิดชอบ และต้องทำให้แน่ใจว่าเราจะเก็บพลาสติกไว้ในระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและมุ่งลดขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม ยูนิลีเวอร์ยังคงมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ ในการลดขยะพลาสติก เพิ่มการใช้วัสดุรีไซเคิล และทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีของเสียไปฝังกลบในโรงงานของเรา โดยมีเป้าหมายมุ่งลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ลงครึ่งหนึ่ง และใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้หรือย่อยสลายได้ 100% นอกจากนี้ยังต้องเก็บรวบรวมพลาสติกและนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ ให้ได้มากกว่าปริมาณที่จำหน่ายออกไป” อันเนอมาริเค่อ เดอ ฮาน กล่าว
อันเนอมาริเค่อ เดอ ฮาน ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2562 ยูนิลีเวอร์ได้เริ่มโครงการสถานีเติมผลิตภัณฑ์ (iFILL) ภายในบริษัท ซึ่งได้รับการตอบรับจากพนักงานเป็นอย่างดี นอกจากสนับสนุนการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลับมาใช้ใหม่แล้ว ยังให้ความสำคัญกับการหมุนเวียนทรัพยากรด้วยเช่นกัน โดยยูนิลีเวอร์ได้ร่วมมือกับเอสซีจี เคมิคอลส์ หรือเอสซีจีซี (SCGC) นำพลาสติกใช้แล้วในครัวเรือน มาหมุนเวียนเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ โดยใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality Post-Consumer Recycled Resin – PCR) ภายใต้แบรนด์ SCGC GREEN POLYMERTM
พร้อมทั้งร่วมกันจัดทำโครงการ “แยกดีมีแต่ได้” สร้างแรงจูงใจให้คนในชุมชนจัดการขยะอย่างถูกวิธี สามารถนำไปหมุนเวียนสร้างประโยชน์ใหม่ได้อย่างยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกัน บริษัทยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านความยั่งยืนกับองค์กรต่างๆ และยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกับหลากหลายพันธมิตรเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนได้ตระหนักเกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและปัญหาจากขยะพลาสติก เช่น โครงการมือวิเศษ โครงการ PIM Recycling Business และโครงการส่งพลาสติกกลับบ้าน เป็นต้น
ยูนิลีเวอร์ เป็นผู้นำในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ใช้บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลหลังการบริโภค (Post-consumer Recycled: PCR) ภายในประเทศมากถึง 4,000 ตัน ปัจจุบันหลายแบรนด์ของบริษัท เช่น ซันไลต์ คอมฟอร์ท ซันซิล และโดฟ ล้วนใช้ขวดบรรจุภัณฑ์ที่เป็น PCR พร้อมกันนี้ได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของถ้วยไอศกรีมวอลล์ จากเดิมที่เป็นพลาสติกมาเป็นถ้วยกระดาษแทน ซึ่งสามารถลดขยะพลาสติกได้ถึง 200 ตัน ต่อปี ช่วยกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และทำให้เกิดการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคัดแยกและจัดเก็บขยะพลาสติก เพื่อให้ขยะพลาสติกถูกนำมาหมุนเวียนใช้ในระบบ
สภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีของโลกและผู้คน เป็นหัวใจหลักของการดำเนินงานด้านความยั่งยืน แม้ว่าปัจจุบันยูนิลีเวอร์จะได้รับการจัดอันดับโดย Globescan ให้เป็นองค์กรธุรกิจที่มีความยั่งยืนเป็นอันดับหนึ่งของโลก เรายังต้องการให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ และ เอกชน ทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยกันการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย 68 ล้านคน ทั้งด้านสุขอนามัย ความเป็นอยู่ที่ดี ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากแหล่งกำเนิด และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคม
“เราหวังว่า รีฟิล สเตชั่น จะสร้างความตระหนักในวงกว้างเกี่ยวกับความสำคัญของของโลกที่น่าอยู่ และเราต้องการสนับสนุนให้ผู้บริโภคทุกคน มีส่วนร่วมในการลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินชีวิตประจำวัน ด้วยการนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลับมาใช้ใหม่ ณ สถานีเติมของยูนิลีเวอร์” นางอันเนอมาริเค่อ เดอ ฮาน กล่าว
ด้าน จักรกฤษณ์ จตุปัญญาโชติกุล รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด, ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ตลอด 26 ปี ของการดำเนินธุรกิจ ท็อปส์ ผู้นำค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของไทย ให้ความสำคัญและตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อผู้คน ชุมชน และสิ่งแวดล้อมผ่านการดำเนินโครงการต่าง ๆ สำหรับความร่วมมือล่าสุดกับ ยูนิลีเวอร์ประเทศไทย เพื่อร่วมกันเป็นธุรกิจที่ช่วยเหลือสังคม เปิดให้บริการ “รีฟิล สเตชั่น” ภายในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกของประเทศไทย ช่วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง (Single Use) ทำให้เกิดการใช้ซ้ำ (Reusable) ซึ่งสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้รับคือ ประหยัดค่าใช้จ่ายเนื่องจากผลิตภัณฑ์แบบเติมจะมีราคาที่ถูกกว่า
” ที่สำคัญช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกซึ่งดีต่อสิ่งแวดล้อมและผู้คน และคาดว่าเทรนด์การซื้อสินค้าแบบรีฟิลจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ท็อปส์พร้อมสนับสนุนการแก้ปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่การลดปริมาณการใช้ลง แต่สิ่งสำคัญคือทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เริ่มต้นตั้งแต่การปรับเปลี่ยนแนวความคิด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ตามแนวความคิด “เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)” จักรกฤษณ์ กล่าว