APCO เตรียมย้ายเข้า SET ขยายฐานผู้ถือหุ้น และผู้บริโภคในต่างประเทศ เผยแผนธุรกิจ ขยายช่องทางการขายทวีปเอเชียและอเมริกา ด้านกระแส Dropship ดีเกินคาด เพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางดันยอดขาย มั่นใจฐานลูกค้าตามเป้า 5,000 ราย เผย Q2/61 แนวโน้มสดใส ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ จัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขาย รุกออนไลน์ต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้โต 15-20% อัตรากำไรสุทธิ 28-30% แจกปันผล 0.036 บาทต่อหุ้น หรือ 100% ของกำไรสุทธิ 7 ปีซ้อน
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่าย เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนเพื่อขอย้ายหลักทรัพย์ APCO เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจของ APCO ทั้งในการขยายฐานผู้ถือหุ้น และผู้บริโภคในต่างประเทศ โดยมีมติขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 เม.ย.61
สำหรับการดำเนินธุรกิจ บริษัทมีการขยายฐานผู้บริโภคส่งผลิตภัณฑ์ Operation BIM ไปยังผู้บริโภคในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามผล ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมมือกับพันธมิตรขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Operation BIM ส่งตรงไปยังกลุ่มผู้บริโภคทวีปเอเชีย ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่าจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อดำเนินการในลำดับต่อไป
ส่วนโครงการ APCO Dropship ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ให้ผู้บริโภคแนะนำผลิตภัณฑ์ต่อกับผู้บริโภค ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS ปัจจุบันบริษัทได้เพิ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องสำอางเข้ามาจัดจำหน่ายในโครงการดังกล่าวด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค อีกทั้งกระตุ้นยอดขายต่อบิลให้สูงขึ้น มั่นใจว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าได้ถึง 5,000 รายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
“แนวโน้มธุรกิจช่วงไตรมาส 2/61 จะเติบโตดีขึ้น โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงเพิ่มยอดขายในทุกช่องทางจัดจำหน่าย ทั้งผลิตภัณฑ์นวัตกรรมภูมิบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง การเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ อีกทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับอาการแพ้ภูมิตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการขายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการประชาสัมพันธ์ตรงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางออนไลน์และ New Media มากขึ้น เชื่อมั่นว่าการดำเนินงานดังกล่าวจะส่งผลให้รายได้เติบโตประมาณ 15-20% และมีอัตรากำไรสุทธิ 28-30%” ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/60 บริษัทมีรายได้รวม 112.25 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 106.24 ล้านบาท จำนวน 6.01 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.66% และมีกำไรสุทธิ 31.52 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 22.93 ล้านบาท จำนวน 8.59 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 37.46%
ส่วนรายได้รวมทั้งปี 2560 อยู่ที่ 424.09 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 427.41 ล้านบาท จำนวน 3.32 ล้านบาท หรือลดลง 0.78% และมีกำไรสุทธิ 108.21 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไร 109.58 ล้านบาท (ไม่รวมกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์ 21.84 ล้านบาท) หรือลดลง 1.37 ล้านบาท (1.25%)
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.036 บาท หรือคิดเป็น 100% ของกำไรสุทธิ ซึ่งถือเป็นปีที่ 7 ที่บริษัทจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 100% อย่างต่อเนื่อง โดยจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดทั้งสิ้น 108 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล(Record Date) วันที่ 18 เมษายน 2561 และจ่ายปันผลในวันที่ 3 พฤษภาคม 2561